พบหญิงไทยสูงอายุ มีสุขภาพดี แข็งแรง ไม่มีปัญหาทางปอด ภายหลังติดเชื้อและส่งผลรุนแรงต่อปอดทั้งสองข้างที่เรียกว่า ปอดรั่วเอง ทีมแพทย์ต้องใช้ความพยายามทุกทางเพื่อช่วยชีวิต และกอบกู้ระบบการหายใจที่กำลังสูญเสียไป สาเหตุมาจากการไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด
รายละเอียดดังนี้
มีรายงานในต่างประเทศปอดรั่วเองทั้ง 2 ข้างหลังติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พบน้อยมาก เกิดขึ้นเองไม่เกี่ยวข้องกับการใส่เครื่องช่วยหายใจ
ล่าสุดพบคนไข้ไทยปอดรั่วเองทั้ง 2 ข้าง เป็นผลจากการที่เนื้อปอดถูกทำลายโดยเชื้อไวรัสโควิด-19
ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 77 ปี ไม่สูบบุหรี่ ปกติแข็งแรง ไม่มีปัญหาทางปอด ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด
วันที่ 8 กรกฎาคม 2564 มีไข้ ไอ เหนื่อย ปอดอักเสบทั้ง 2 ข้างจากโรคโควิด-19 ได้รับการรักษาด้วยยาและออกซิเจน ไม่ได้ใส่เครื่องช่วยหายใจ 22 วันหลังเริ่มป่วย วันที่ 30 กรกฎาคมเหนื่อยมากขึ้นจากปอดข้างซ้ายรั่วเอง ต้องใส่ท่อระบายลม ถอดท่อระบายลมออกวันที่ 9 สิงหาคม ปอดอีกข้างรั่วเองวันที่ 18 สิงหาคม ต้องใส่ท่อระบายลม วันที่ 23 สิงหาคมปอดข้างซ้ายรั่วอีก ต้องใส่ท่อระบายลมอีกครั้ง วันที่ 28 สิงหาคมถอดท่อระบายลมข้างซ้าย
วันที่ 31 สิงหาคมปอดข้างซ้ายรั่วอีก ต้องใส่ท่อระบายลมครั้งที่ 3 วันที่ 2 กันยายน ทำคอมพิวเตอร์สแกนปอดพบพังผืดทั่วปอดร่วมกับหลอดลมเล็กๆ โป่งพอง
วันที่ 10 กันยายนได้ทำการผ่าตัดปอดข้างขวาเพราะปอดขวาไม่ขยายตัวเต็มที่ ด้วยการส่องกล้องเข้าไปในช่องทรวงอกข้างขวา พบถุงลมพองโตที่ผิวของยอดปอดข้างขวาด้านบนและด้านล่าง ต้องตัดปอดเฉพาะส่วนนั้นและเย็บปิด ตัดเยื่อหุ้มปอดด้านขวา ใส่แป้ง Talc เข้าช่องปอดขวา และผ่านท่อระบายลมข้างซ้าย เพื่อให้เยื่อหุ้มปอดข้างขวาและซ้ายติดกัน และส่งชิ้นเนื้อปอดตรวจทางพยาธิวิทยาพบ เนื้อปอดถูกทำลาย มีทั้งอักเสบและพังผืดทั่วไป มีถุงลมพองในเนื้อปอด ขณะนี้ยังต้องใส่ท่อระบายลมทั้งสองข้าง
คำแนะนำ: คนที่ยังไม่ได้ไปฉีดวัคซีนเพราะกลัวผลข้างเคียงของวัคซีน ขอให้ดูผู้ป่วยรายนี้เป็นตัวอย่างที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ปอดถูกทำลายเสียหายอย่างมาก ปอดรั่ว 2 ข้างต้องนอนในโรงพยาบาลนานกว่า 2 เดือนแล้ว ขอให้ทุกคนให้รีบไปฉีดวัคซีน หลังฉีดถึงแม้จะติดเชื้อ ก็จะป่วยเหมือนเป็นหวัด เจ็บคอ คัดจมูก มีน้ำมูก จาม เชื้อไม่ลงปอด ไม่ป่วยหนักถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลหรือเสียชีวิต
ทำความรู้จักนพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์
นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ เป็นหัวหน้าห้องไอซียู เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เป็นประธานชมรมเชื้อราทางการแพทย์ประเทศไทย เป็นอดีต Assistant Clinical Professor ที่ Mount Sinai School of Medicine นครนิวยอร์ก
น.พ.มนูญ มีชื่อเสียงมาจากการเป็นหัวหน้าคณะแพทย์ที่รักษาอาการของ บิ๊ก ดีทูบี หรือ นายอภิเชษฐ์ กิตติกรเจริญ นักร้องวัยรุ่นชื่อดังที่ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำที่คูน้ำข้างถนนเนื่องจากง่วงหลับใน ปีพ.ศ. 2546
น.พ.มนูญเป็นอดีตนายกสมาคมโรคเอดส์แห่งประเทศไทยสองสมัย พ.ศ.2550 ถึง 2554 รณรงค์การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ต้องใช้ถุงยางอนามัย จัดทำวิดีโอคลิป " เซ็กส์ในวัยเรียน" ในปีพ.ศ.2557
งานด้านสังคม น.พ.มนูญเป็นประธานทุนวิจัยวัณโรคดื้อยา ในพระอุปถัมภ์เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ศิริราชมูลนิธิ ทำการตรวจเสมหะเพื่อเพาะเชื้อวัณโรคและตรวจหาความไวต่อยาให้ฟรีกับคนไข้จากสถานพยาบาลของรัฐตั้งแต่ พ.ศ.2544 เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยยาที่ถูกต้อง และทำการวิจัย ค้นพบยาตัวใหม่ sitafloxacin ในปี พ.ศ.2560 สามารถนำมารักษาวัณโรคดื้อยาหลายขนานและเกือบทุกขนาน รณรงค์ลดการแพร่เชื้อโรคทางเดินหายใจด้วยการใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือตั้งแต่ พ.ศ.2545 และร่วมมือกับสัตวแพทย์ในการป้องกันวินิจฉัยและรักษาวัณโรคช้าง
นพ.มนูญเป็นประธานทุนง่วงอย่าขับ ในพระอุปถัมภ์ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ มูลนิธิรามาธิบดี ซึ่งรณรงค์เรื่องง่วงแล้วไม่ขับรถ ตั้งแต่ พ.ศ.2547 และรณรงค์เด็กไทยนอนหลับให้เพียงพอ จัดทำวิดีโอคลิป "เด็กไทยรักษ์สมอง" ในปีพ.ศ.2555 ทำการวิจัยหาสารก่อมะเร็งและโลหะหนักในควันธูป ขี้เถ้าจากการจุดธูป และจากการเผากระดาษเงินกระดาษทองร่วมกับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และเริ่มรณรงค์ลดการจุดธูปเพื่อลดโลกร้อนและการป่วยเป็นมะเร็งตั้งแต่พ.ศ.2551