อังกฤษ ถอด 7 ประเทศในกลุ่มแดง
• 7 ประเทศ ได้แก่ โคลัมเบียน สาธารณรัฐโดมินิกัน เอกวาดอร์ เฮติ ปานามา เปรู และเวเนซูเอลา
• ทั้ง 7 ประเทศจะถูกถอดจากกลุ่มสีแดง โดยมีมาตรการสาธารณสุขกำกับไว้
• กระนั้น รัฐบาลจะยังไม่ยกเลิก การกำหนดกลุ่มประเทศสีแดงและโรงแรมกักตัว แต่จะคงไว้เป็นมาตรการรองรับหากมีการพบเชื้อไวรัสที่น่ากังวลชนิดใหม่ ซึ่งจะมีการรีวิวทุก 3 สัปดาห์
• กว่า 30 ประเทศ ถูกบรรจุเข้าในบัญชีรายชื่อประเทศที่ได้รับวัคซีน ส่งผลให้สามารถดำเนินการเปิดประเทศได้อย่างปลอดภัยเพื่อต้อนรับการเดินทางระหว่างประเทศ
ตั้งแต่ 4.00 น.ของวันที่ 1 พฤศจิกายน 64 เป็นต้นไป ผู้ที่เดินทางมาจากทั้ง 7 ประเทศในกลุ่มประเทศสีแดงก่อนหน้านี้ จะ "ไม่ต้องกักตัวที่โรงแรมอีกต่อไป" ทั้ง 7 ประเทศ ได้แก่ โคลัมเบียน สาธารณรัฐโดมินิกัน เอกวาดอร์ เฮติ ปานามา เปรู และเวเนซูเอลา
ทั้งนี้จากข้อมูลทั่วโลกพบว่า เชื้อโควิดเดลต้าเป็นสายพันธุ์หลักชนิดเดียว ที่ยังคงระบาดในขณะนี้ นั่นหมายถึงความเสี่ยงต่อไวรัสที่เป็นที่รู้จักที่จะเข้ามาแพร่ระบาดในอังกฤษมีลดน้อยลง ทำให้รัฐบาลมั่นใจที่จะถอดทั้ง 7 ประเทศในกลุ่มแดงออกจากลิสต์นั่นเอง เป็นไปตามตัดสินของหน่วยงานเฝ้าระวังด้านสาธารณสุขของอังกฤษ (UKHSA) จะมีการติดตามข้อมูลจากที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงกรณีหากมีการพบสายพันธุ์ใหม่ รัฐบาลก็จะยกระดับมาตรการควบคุมสถานการณ์ในทันที
ตั้งแต่วันจันทร์ (1 พย) ผู้เดินทางที่มีเอกสารรับรองการได้รับวัคซีนจาก 30 ประเทศ รวมทั้งอาร์เจนตินา แทนซาเนีย และกัมพูชา สามารถเดินทางเข้าประเทศอังกฤษได้ ภายใต้เงื่อนไข "ประเทศที่ผ่านการรับรองการได้รับวัคซีน" ขณะนี้มีประเทศที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ รวมแล้ว 135 ประเทศ
ประเทศไทย จัดอยู่ในกลุ่มนี้เช่นกัน คนไทยสามารถใช้ "วัคซีนพาสปอร์ต" ในการเข้าประเทศอังกฤษได้
หลักเกณฑ์วัคซีน
วัคซีนที่รัฐบาลอังกฤษรับรอง 4 ชนิดคือ อ๊อกซ์ฟอร์ด/แอสตร้าเซเนกา ไฟเซอร์ ไบออนเทค โมเดอร์นา และแจนเซ่น และต้องรับวัคซีนมาแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน
รัฐบาลได้รับรองสูตรวัคซีนเพิ่มเติม ได้แก่ แอสตร้าเซเนก้า โควิชีลด์ (ผลิตในอินเดีย) แอสตร้าเซเนก้า แว๊กซาเรีย (แอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตจากทุกแหล่งผลิตทั่วโลก) และโมเดอร์นา ทาเคดะ
การฉีดวัคซีน 2 โดส
ผู้ที่ฉีดวัคซีนหลักทั้ง 3 ชนิดและสูตรเพิ่มเติม ครบ 2 โดส จะถือว่าเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ ที่สามารถเดินทางเข้าอังกฤษได้ เงื่อนไขนี้ใช้ได้กับทุกกรณี แม้ว่าจะเป็นผู้ป่วยที่เพิ่งหายจากโรคโควิดและมีภูมิตามธรรมชาติก็ตาม
ผู้ที่ติดเชื้อโควิด และได้รับวัคซีนเพียงโดสเดียว จะต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ "ผู้ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบโดส"
การได้รับวัคซีน 2 โดส ต่างชนิดกัน
ยอมรับได้ ในกรณี
• วัคซีนผสม 2 แบบ ภายใน 4 ชนิดหลัก เช่น แอสตร้า+โมเดอร์นา
• วัคซีน 2 เข็ม ภายใต้โปรแกรมวัคซีนคนละประเทศกัน เช่น ออสเตรเลียกับญี่ปุ่น อังกฤษกับสหรัฐ ฝรั่งเศสกับแคนาดา
วัคซีน 1 โดส
มีเพียงชนิดเดียวคือวัคซีนแจนเซ่น ซึ่งถึงว่าได้รับครบโดส
เอกสารรับรองการฉีดวัคซีน
ผู้เดินทางต้องแสดงเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน ซึ่งมีหลายรูปแบบอาทิ
- เอกสารที่ออกโดย NHS COVID pass ของอังกฤษ
- เอกสารของอียู EU Digital COVID Certificate
- เอกสารของ CDC สหรัฐ
- ใบรับรองการฉีดวัคซีนแต่ละประเทศ (Vaccine Certificate)
กรณีใช้ ใบรับรองการฉีดวัคซีน เพียงอย่างเดียว
เอกสารรับรองที่ออก ต้องออกโดยรัฐหรือหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐ เป็นภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือ สเปน และต้องระบุข้อมูล ชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด ชนิดวัคซีนและการผลิต วันที่ฉีดแต่ละโดส ประเทศที่ทำการฉีด