ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีมานานแล้ว ย้อนหลังไป พ.ศ.2554 ตั้งแต่เริ่มมีการวัดค่าฝุ่น PM2.5 จะเห็นค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ต่ำกว่าค่ามาตรฐานเดือนเมษายนถึงพฤศจิกายน และสูงกว่าค่ามาตรฐานเดือนธันวาคมถึงมีนาคมทุกปี (ดูกราฟ) กราฟนี้แสดงให้เห็นค่าฝุ่น PM2.5 แต่ละปีไม่ได้แย่ลง
ทำไมค่าฝุ่น PM2.5 ถึงได้ขึ้นสูงกว่ามาตรฐานเฉพาะช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม ทั้งๆ ที่รถยนต์ก็วิ่งใน กทม.ตลอดทั้งปี ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า เกิดจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงช่วง 4 เดือนนี้ มีอุณหภูมิผกผันทำให้ฝุ่น PM2.5 ไม่สามารถลอยไปที่อื่นได้
ย้อนหลังไป 4 ปี ช่วงเดือนมกราคม 2564 ถ้ายังจำกันได้ มีปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เนื่องจากมีการระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 2 มีคำแนะนำให้คนอยู่บ้าน ทำงานที่บ้าน งดเดินทาง ทำให้ถนนโล่ง จำนวนรถยนต์ที่วิ่งบนท้องถนนใน กทม.ช่วงมกราคม 2564 ลดลงมากถึงร้อยละ 70 แต่ค่าฝุ่น PM2.5 ใน กทม.กลับไม่ลดลง (ดูรูป) แสดงว่าสภาพภูมิอากาศเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด สำคัญกว่าจำนวนรถที่วิ่งบนท้องถนนในการทำให้ค่าฝุ่น PM2.5 สูงกว่ามาตรฐาน และอยู่นอกเหนือการควบคุมของมนุษย์
ค่าฝุ่น PM2.5 ใน กทม.ขณะนี้อยู่ในระดับสีส้มต่อเนื่อง มีแนวโน้มว่า กทม.จะประกาศห้ามรถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปเข้าเขต กทม. สั่งปิดโรงเรียนใน กทม. และประกาศให้ทำงานที่บ้าน เพื่อลดการเดินทาง ลดการปล่อยฝุ่น PM2.5
เราควรเรียนรู้จากบทเรียนที่เกิดขึ้นใน กทม.ช่วงเดือนมกราคม 4 ปี ที่แล้ว ถึงรถวิ่งบนถนนลดลงร้อยละ 70 ค่าฝุ่น PM2.5 ไม่ได้ลดลง ประโยชน์ที่ได้รับจากการห้ามรถวิ่ง ปิดโรงเรียน ให้ทำงานที่บ้าน รวมทั้งการติดตั้งหอฟอกอากาศ และการพ่นละอองน้ำจากที่สูง ไม่คุ้มค่ากับความสูญเสียทางเศรษฐกิจ เราต้องยอมรับเราอยู่กับฝุ่น PM2.5 มานานเป็น 100 ปีแล้ว อย่าวิตกกังวลมากเกินไป ค่าฝุ่น PM2.5 ขึ้นสูงก็ไม่มากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นเช่นอินเดีย
ถ้าดูย้อนหลังไป 70 ปี ถึงแม้คนไทยจะหายใจฝุ่น PM2.5 มาตลอด อายุขัยเฉลี่ยของคนไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากอายุเฉลี่ยแต่ก่อน 50 ปี ปัจจุบันผู้ชายเพิ่มเป็น 73 ปี ผู้หญิงเพิ่มเป็น 80 ปี เชื่อว่า อีก 20 ปีข้างหน้าคาดว่า อายุเฉลี่ยของคนไทยจะเพิ่มขึ้นอีก ผู้ชาย 76 ปี ผู้หญิง 83 ปี
เพจหมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC
20 มกราคม 2568