ความหมายของ "ขึ้นกับสถานการณ์" ที่ปธณ.ไบเดน กล่าวถึงคือ การต้องตามดูสถานการณ์สัปดาห์ต่อสัปดาห์ พิจารณาสถานการณ์นานาประเทศโดยรอบ ติดตามดูข้อมูลความรุนแรงของโรค การแพร่ระบาด ดูว่าเราจะควบคุมอย่างไรต่อไป ส่วนคำถามที่ว่าจะมีการพิจารณามาตรการพิเศษหรือกระตุ้นให้ชาวอเมริการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นหรือไม่ ปธน.กล่าวว่า "จะหารือในวันพฤหัสบดีนี้"
ทางการสหรัฐประกาศห้ามการเดินทางจากประเทศแอฟริกาใต้ และ 7 ประเทศรายรอบในแถบนั้น ยกเว้นเฉพาะพลเมืองอเมริกันหรือผู้มีที่พำนักอย่างถูกกฏหมาย และต้องมีผลตรวจโควิดเป็นลบก่อนเดินทาง แต่ไม่ตรวจเมื่อเดินทางถึง
ทางการสหรัฐ กำลังพิจารณาว่าจะกำหนดให้ผู้ที่จะเดินทางเข้ามาในสหรัฐทุกคนไม่เว้นแม้แต่พลเมืองสหรัฐ ต้องตรวจโควิดก่อนเดินทาง 1 วัน และตรวจอีกครั้งเมื่อเดินทางถึง โดยไม่สนใจว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนหรือไม่
ผู้อำนวยการ CDC ดร.โรเชลล์ วาเลนสกี้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "CDC กำลังประเมินมาตรการความปลอดภัยต่อการเดินทางระหว่างประเทศให้มากขึ้น รวมถึงการต้องตรวจก่อนเดินทาง และอาจจะต้องตรวจอีกครั้งหลังจากเดินทางถึง รวมทั้งการกักตัว"
ก่อนหน้า CDC ได้แจ้งต่อสนามบินนานาชาติ 4 แห่งของประเทศ ได้แก่ JFK, Newark, แอตแลนต้าและซานฟรานซิสโก ให้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังผู้โดยสารจากต่างประเทศอย่างใกล้ชิด สามารถจะตรวจแบบเจาะจงได้ รวมทั้งระดมเจ้าหน้าที่เพิ่มเพื่อเฝ้าดูและบ่งชี้ผู้ที่อาจมีความเสี่ยงจะมีเชื้อโควิด-19 และเชื้อโอมิครอน ในผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศมา
CDC ร่วมกับสายการบินเก็บข้อมูลผู้โดยสารเพื่อนำไปใช้สำหรับการตรวจสอบและติดตาม กรณีเกิดการพบผู้ติดเชื้อ
ที่ปรึกษา FDA (อย.สหรัฐ) ลงมติ 13 ต่อ 10 เมื่อวันอังคาร แนะให้องค์กรเร่งอนุมัติการใช้ยารักษาโควิด "โมลนูพิราเวียร์" ของเมอร์คในภาวะฉุกเฉิน ยานี้มีผลการทดสอบว่าสามารถลดความรุนแรงของการป่วยหนักหรือลดการเสียชีวิตได้มากกว่า 30% สำหรับการใช้ยานี้เพื่อรักษาโควิด ผู้ป่วยต้องกินภายใน 5 วันหลังพบว่ามีอาการ กินวันละ 2 ครั้งติดต่อกัน 5 วัน ไม่แนะนำให้ใช้กับสตรีมีครรภ์ FDA ยังไม่มีกำหนดการพิจารณามตินี้