"โอมิครอนเป็นโรคติดต่อที่ไม่ธรรมดา มันเหมือนโรคหัดเลย ติดต่อแพร่กระจายได้เร็วอย่างไม่น่าเชื่อ" ดูจากข้อมูลที่องค์การอนามัยโลกระบุว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าทุกๆ 1.5 - 3 วัน CDC ระบุว่าโอมิครอนจะเป็นไวรัสตัวหลักในแผ่นดินสหรัฐภายในสัปดาห์หน้า
ตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ (18 ธันวาคม) มีจำนวน 126,967 ราย มี 14 รัฐที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเกิน 10% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าผู้ติดเชื้อโอมิครอนจะมีอาการค่อนข้างเบา ไม่รุนแรง กระนั้นนักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่ฟันธง แต่ที่แน่ๆ คือแรงกดดันต่อระบบสาธารณสุขเริ่มมีมากขึ้น
"ทำไมกล้าลุยสนามรบทั้งที่ไร้เครื่องป้องกัน วัคซีนคือเกราะชั้นเลิศ ยิ่งฉีดสามเข็มแล้วยิ่งเยี่ยม ใครที่ยังไม่ได้ฉีดขอแนะนำให้รีบ" ข้อความย้ำเตือนจาก ศ.ไรเนอร์ ท่านเชื่อว่าคนส่วนใหญ่จะต้องติดเชื้อตัวนี้ และถึงแม้อาการของโอมิครอนจะไม่รุนแรง แต่ปริมาณผู้ติดเชื้อที่มากก็อาจทำให้รพ.ล้นได้ เพื่อปกป้องชาวอเมริกันด้วยกัน ต้องสวมหน้าการและฉีดวัคซีน
ข้อมูลจาก CDC สหรัฐระบุว่าพลเมือง 61.4% ได้รับวัคซีนครบสองโดส และ 29.1% รับวัคซีนเข็มกระตุ้นแล้ว จำนวนผู้ป่วยในรพ.ทั่วประเทศขณะนี้ราว 69,000 ราย กว่า 20% ของเตียงไอซียูเป็นผู้ป่วยโควิด
นิวยอร์ครายงานผู้ติดเชื้อจำนวน 21,908 ราย ทำลายสถิติเดิมของวันศุกร์ที่มีจำนวน 21,027 ราย ขณะที่ผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลมีจำนวน 3,909 ราย ต่ำกว่าช่วงพีคที่เคยสูงถึง 18,825 รายเมื่อกลางเดือนเมษายน 2020 อยู่มากทีเดียว
การแพร่เชื้อที่รวดเร็วของโอมิครอน กระทบแวดวงบันเทิงสหรัฐเต็มๆ
รายการดังอย่าง Saturday Night Live ต้องออกอากาศโดยปราศจากผู้ชมในห้องส่ง และนำเทปรายการที่ยังไม่เคยออกอากาศ ฉายแทนไปก่อน โรงละครและการแสดงหลายแห่งยกเลิกโชว์ช่วงคริสมาสยาวไปจนถึงสิ้นปี
โรงพยาบาลทั่วประเทศเริ่มได้รับผลกระทบ
ในแคลิฟอร์เนีย จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลเริ่มมีมากขึ้น ทางการจึงต้องเร่งให้มีการฉีดวัคซีนเข็มหลักให้ครบโดส และฉีดเข็มกระตุ้นให้เร็วขึ้น
ในนิวเจอร์ซี่ ประชาชนเข้าคิวรอตรวจโควิดมากกว่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาชัดเจน เนื่องจากหลายคนเริ่มมีอาการป่วย จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่า 46% ของผู้ป่วยเหล่านั้นจะฉีดวัคซีนครบแล้วก็ตาม แต่ไม่ได้ฉีดเข็มกระตุ้น
แพทย์ประจำห้องฉุกเฉินในมิชิแกน ให้ข้อมูลว่า ผู้ป่วยจากเชื้อเดลต้าค่อนข้างวิกฤตในขณะนี้ แม้ว่าจำนวนผู้มีผลตรวจเป็นบวกจะลดลงบ้าง แต่ผู้ป่วยกลับอยู่ในรพ.นานขึ้น
แพทย์แห่งรพ.เด็กในมินนิโซต้า บอกว่าสถานการณ์เริ่มน่าห่วงจากจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นมาก อัตราครองเตียงขึ้นไปถึง 95% ทุกมาตรการถูกนำมาใช้จนใกล้จะถึงขีดสุดแล้วตอนนี้
แพทย์ในโอเรกอน คาดการณ์ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายในช่วงต้นปี 2022 และอาจจะพีคในช่วงกลางเดือนมกราคม
นักวิทยาศาสตร์เร่งศึกษาโอมิครอน
ขณะที่โรงพยาบาลเป็นด่านหน้าในการรับมือกับผู้ติดเชื้อและกำลังเข้าสู่ภาวะน่าเป็นห่วง เหล่านักวิทยาศาสตร์ที่อยู่ในแนวหลัง ต่างเร่งศึกษาเพื่อหาคำตอบถึงความรุนแรงของโอมิครอน ว่าจะมีมากหรือน้อยในระดับใด รายงานของ CDC จากการข้อมูล 43 เคสที่ติดเชื้อโอมิครอนพบว่า ส่วนใหญ่จะมีอาการค่อนข้างอ่อน และได้ฉีดวัคซีนแล้ว หนึ่งในสามได้รับวัคซีนเข็มสามไปแล้วด้วย
"โอมิครอนติดได้ทั้งในคนที่ฉีดวัคซีนแล้วไม่ว่าจะสองเข็มหรือสามเข็ม และเราเชื่อว่าพวกเขาไม่มีอาการรุนแรง หรือบางคนไม่ก็ไม่มีอาการเลย" ข้อมูลที่เปิดเผยโดยผอ. CDC ดร.โรเชล วาเลนสกี้ ให้ผลในทิศทางเดียวกันกับข้อมูลจากแอฟริกาใต้ที่บ่งชี้ว่า ผู้ป่วยมีอาการไม่รุนแรง แต่ด้านนักระบาดวิทยาอังกฤษแย้งว่ายังไม่มีหลักฐานแน่ชัดบ่งบอกว่าโอมิครอนทำให้เชื้ออ่อนลง ผู้เชี่ยวชาญบางรายบอกว่ายังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าโอมิครอนทำให้มีอาการเบาบาง แต่ที่ชัดเจนคือ "มันแพร่ระบาดรวดเร็ว อย่างไม่ต้องสงสัย จากการที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นเท่าตัวใน 2-4 วัน ไม่ช้า ผู้ติดเชื้อจะเพิ่มเป็นแสนเป็นล้านต่อวันก็เป็นไปได้ ถ้าเป็นจำนวนนั้นจริง ถึงแต่ละคนจะอาการไม่แรง แต่แค่เสี้ยวนึงมาโรงพยาบาล แค่นั้นก็แย่แล้ว"
CNN
19 ธันวาคม 64