ยาโมลนูพิราเวียร์ ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ ใช้รักษาในช่วงแรกของอาการ ภายใน 5 วัน หลังจากพบว่าติดเชื้อ
ยาโมลนูพิราเวียร์ ไม่อนุญาตให้ใช้ในคนไข้อายุน้อยกว่า 18 ปี เพราะจะมีผลต่อกระดูกและการเติบโตของกระดูกอ่อน (cartilage growth)
ยาโมลนูพิราเวียร์ ไม่อนุญาตให้ใช้กินก่อนติดเชื้อ เพื่อหวังป้องกันโรคโควิด-19
ยาโมลนูพิราเวียร์ ไม่สามารถใช้เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลแล้ว เพราะยังไม่มีรายงานผลจากการใช้รักษาในขั้นนี้
"วันนี้ FDA ได้เพิ่มทางเลือกในการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ในรูปของยาเม็ดเพื่อรับประทาน ยาโมลนูพิราเวียร์ อนุมัติภายใต้ข้อจำกัด ในสถานการณ์ที่ยังไม่มีวิธีการรักษาอื่นใดที่ FDA เคยรับรอง ที่จะช่วยผู้ป่วยโควิดที่มีความเสี่ยงสูงที่จะต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตได้ และจากการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ จึงจำเป็นที่เราจะต้องให้การอนุมัติการใช้ในภาวะฉุกเฉินให้กับยาตัวนี้ พร้อมกับที่จะต้องเก็บข้อมูลในด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องต่อไป" แถลงการจาก ดร.แพทริเซีบ คาวาซซานี่ ผอ.อย.สหรัฐ ฝ่ายประเมินและวิจัยเวชภัณฑ์ยา
ยาโมลนูพิราเวียร์ ไม่ใช่ตัวเลือกที่จะทดแทนการฉีดวัคซีน ในบุคคลที่ได้รับคำแนะนำว่าจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนหลักและวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่ง อย.สหรัฐได้อนุมัติการใช้วัคซีนสำหรับฉีดเพื่อป้องกันโควิด-19 ไว้แล้ว เพื่อที่จะใช้ป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากโรคโควิด-19 และอาจส่งผลรุนแรงถึงขั้นที่จะต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิต
อย.ขอย้ำต่อสาธารณชนให้เร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนหลักและวัคซีนกระตุ้นโดยทันทีหากทำได้
กลไกการทำงานของยาโมลนูพิราเวียร์ ฤทธิ์ของยาจะเข้าไปทำให้เกิดความบกพร่องในระบบรหัสพันธุกรรมในไวรัส SARS-CoV-2 เป็นการสกัดไม่ให้ไวรัสแบ่งตัวเพิ่มจำนวนได้
ยาโมลนูพิราเวียร์ กำหนดให้รับประทาน ขนาด 200 มิลลิกรัม 4 เม็ดแคปซูล ทุกๆ 12 ชั่วโมง ติดต่อกัน 5 วัน รวมทั้งสิ้น 40 แคปซูล
ยาโมลนูพิราเวียร์ ไม่อนุญาตให้ใช้ติดต่อกันเกิน 5 วัน