โรคงูสวัดเกิดจากเชื้อไวรัส varicella zoster virus (VZR) ซึ่งเป็นเชื้อตัวเดียวกับที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใส โดยเมื่อหายจากโรคอีสุกอีใสแล้วเชื้อจะค่อยๆ เคลื่อนตัวตามแนวเส้นประสาทเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในปมประสาทของร่างกายโดยไม่ทำให้เกิดอาการผิดปกติใดๆ แต่เมื่อใดที่ร่างกายมีภูมิต้านทานลดลง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ป่วยโรคเอสแอลอี ผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิต้านทาน ผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังอย่างเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไต เป็นต้น เชื้อไวรัสก็สามารถกำเริบและก่อให้เกิดโรคงูสวัดขึ้นมาได้
อาการของโรคงูสวัดเป็นอย่างไร
ปวดแสบปวดร้อนบริเวณผิวหนัง
ผื่นแดงขึ้นบริเวณที่ปวดแล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใส มักเรียงกันเป็นกลุ่มหรือแถวยาว ตามแนวเส้นประสาท และจะแตกออกเป็นแผล ต่อมาจะตกสะเก็ด
อาการแทรกซ้อนของโรคงูสวัด
อาการปวดตามแนวเส้นประสาทหลังการติดเชื้อ (postherpetic neuralgia) ซึ่งพบได้มากขึ้นในผู้ป่วยที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป
การติดเชื้อแบคทีเรียทำให้เกิดการอักเสบ
การป้องกันการแพร่กระจายของโรคงูสวัด
ควรแยกข้าวของเครื่องใช้ เครื่องนุ่งห่ม ผ้าเช็ดตัว ที่นอนของผู้ป่วยโรคงูสวัดกับเด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่ไม่เคยเป็นโรคสุกใสมาก่อน
การป้องกันโรคงูสวัด
ปัจจุบันประเทศไทยมีวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด โดยสามารถลดโอกาสเกิดงูสวัด หรือการเกิดการติดเชื้อจะสามารถลดความรุนแรงได้ แนะนำให้ฉีดในผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยฉีดเพียง 1 เข็ม อย่างไรก็ดีในกรณีของผู้ที่มีโรคเรื้อรังหรือมีโรคอื่นๆ ที่ทำให้ภูมิต้านทานไม่แข็งแรง อาจเข้ารับการฉีดวัคซีนก่อนอายุ 60 ปีหรือตามคำแนะนำของแพทย์
60 หมู่ 6 ถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี
ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี 11140
เบอร์โทร 0-2594-0020-65
Call Center 1218