นพ.ณัฐนนท์ มณีเสถียร อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคต่อมไร้ท่อและเมตะบอลิสม โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า ไทรอยด์มีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนในการควบคุมการเผาผลาญและรักษาอุณหภูมิของร่างกาย หากไทรอยด์ทำงานผิดปกติย่อมส่งผลให้ระบบในร่างกายทำงานไม่สมบูรณ์ ซึ่งโรคไทรอยด์จะมีหลายชนิด แต่ที่เกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมนแล้วส่งผลกับระบบการเผาผลาญเป็นหลัก มี 2 ชนิด ได้แก่
1) ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย (Hypothyroid) คือ ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนออกมาน้อยกว่าปกติ ทำให้ร่างกายขาดฮอร์โมนจึงเกิดการเผาผลาญน้อย ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ มีอาการบวม อ้วนง่าย เพลียง่าย ง่วงบ่อย ผิวแห้ง หนาวง่าย เป็นต้น
2) ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน (Hyperthyroidism) หรือไทรอยด์เป็นพิษ คือ การที่ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนมากกว่าปกติ ทำให้ร่างกายได้รับฮอร์โมนมากเกินไปจึงเผาผลาญมากกว่าปกติ ส่งผลให้น้ำหนักลดลง หิวง่าย กินเยอะแต่ไม่อ้วน เหนื่อยง่าย ขับถ่ายบ่อย มือสั่น ใจสั่น ร้อนง่าย ดังนั้นภาวะต่อมไทรอยด์ที่มีความสัมพันธ์กับความอ้วนจะเป็นภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานน้อย (Hypothyroid) เนื่องจากระบบเผาผลาญทำงานลดลงส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคนอ้วนต้องมีภาวะไทรอยด์เสมอไปและในผู้ที่ลดน้ำหนักมากเกินไปไม่มีความสัมพันธ์กับภาวะไทรอยด์ นอกจากนี้ยังมีความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ที่สามารถพบได้อย่างก้อนที่ต่อมไทรอยด์ เนื้องอกต่อมไทรอยด์ ต่อมไทรอยด์อักเสบจากเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย ต่อมไทรอยด์โต จึงควรสังเกตอาการไทรอยด์เบื้องต้นด้วยตัวคุณเอง
โดยสาเหตุในการทำให้เกิดภาวะไทรอยด์ ได้แก่ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ทำงานผิดปกติ จนทำให้ไทรอยด์ทำงานเยอะเกินไปหรือทำงานน้อยเกินไป ส่งผลให้เกิดความผิดปกติกับร่างกาย รวมถึงในคุณแม่หลังคลอดบุตรอาจมีภาวะไทรอยด์อักเสบหลังคลอดได้เช่นเดียวกัน หรือพันธุกรรมจากคนในครอบครัว รวมถึงยาบางชนิดที่ส่งผลให้ไทรอยด์ทำงานผิดปกติ เช่น ยารักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือยารักษามะเร็งบางตัว ภาวะขาดไอโอดีน การรักษาจะขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของผู้ป่วยเป็นสำคัญ กรณีที่ไทรอยด์ทำงานผิดปกติสามารถรับประทานยาเพื่อปรับให้ไทรอยด์ทำงานปกติได้ ถ้ามีถุงน้ำในไทรอยด์รักษาโดยการเจาะดูดน้ำในก้อนไทรอยด์ด้วยเข็มขนาดเล็ก หรือรักษาด้วยการทำ Percutaneous Ethanol Injection คือการฉีดแอลกอฮอล์เข้มข้นไปในถุงน้ำไทรอยด์ ทำให้ถุงน้ำยุบลง แต่ถ้าเป็นมะเร็งไทรอยด์จำเป็นต้องผ่าตัดไทรอยด์ออก
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารทะเลที่มีไอโอดีน การออกกำลังกายสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลใจไม่ให้เครียด เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการทำงานผิดปกติของไทรอยด์ และหากป่วยแล้วปล่อยทิ้งไว้ไม่รีบรักษาอาจทำให้อาการรุนแรงเพิ่มขึ้น หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือร้ายแรงถึงขั้นหัวใจล้มเหลวได้ จึงควรรีบพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อรักษาไทรอยด์ให้หายโดยเร็วที่สุด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์เบาหวาน ไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อ โรงพยาบาลกรุงเทพ โทร.1719 หรือ แอดไลน์ @bangkokhospital