การผ่าตัดเสริมจมูก (Augmentation Rhinoplasty)
เป็นการผ่าตัดที่นิยมทำกันมากอย่างหนึ่งในประเทศไทย สามารถทำแล้วได้ผลดี มีภาวะแทรกซ้อนน้อย ผ่าตัดแก้ไขได้ใหม่ถ้าเกิดภาวะแทรกซ้อน
วิธีการผ่าตัด
วัสดุที่ใช้ส่วนใหญ่คือซิลิโคนชนิดแข็งสำหรับการแพทย์ (Medical Grade Silicone) นำมาเหลาให้เข้ากับรูปหน้าของแต่ละคน แผลผ่าตัดจะมองไม่เห็นจากภายนอก เนื่องจากแผลอยู่ด้านในโพรงจมูก ก่อนการผ่าตัดแพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่ซึ่งอาจจะใช้ร่วมกับการให้ยานอนหลับ หลังการผ่าตัดสามารถกลับบ้านได้เลยโดยบริเวณสันจมูกจะมีพลาสเตอร์ปิดอยู่เพื่อลดอาการบวมและเคลื่อนของซิลิโคน ควรปิดเอาไว้อย่างน้อย 48 ชั่วโมง แพทย์จะนัดมาดูอีกครั้งประมาณ 1 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
หลังการผ่าตัดควรนอนหัวสูงและประคบบริเวณจมูกด้วยความเย็นอย่างน้อย 48-72 ชั่วโมง จมูกและบริเวณข้างเคียงจะบวมมากที่สุดในวันรุ่งขึ้นหลังการผ่าตัดหลังจากนั้นจะค่อยๆยุบบวมลง บริเวณที่อยู่ระหว่างหัวตาเป็นบริเวณที่บวมอยู่นานที่สุด รอยช้ำที่เกิดจากการผ่าตัดจะหายไปภายในสองสัปดาห์ ไม่ควรแคะจมูกหรือสั่งน้ำมูกสองสัปดาห์หลังการผ่าตัด
ภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดเสริมจมูก
1. การอักเสบติดเชื้อ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นหลังการรักษาต้องเอาซิลิโคนออกก่อนแล้วค่อยมาทำใหม่โดยทิ้งระยะห่างประมาณสามเดือน
2. จมูกเอียง ถ้าไม่สามารถดัดให้เข้าที่ได้ ก็จะต้องได้รับการแก้ไขโดยการผ่าตัดอีกครั้งหนึ่ง
3. จมูกทะลุ อาจเกิดขึ้นหลังการอักเสบติดเชื้อหรือซิลิโคนที่ใส่ไว้มีขนาดใหญ่หรือสูงเกินไปหรือซิลิโคนเลื่อนลงมาดันผิวหนังบริเวณปลายจมูกจนบางและทะลุออกมา เมื่อเกิดการทะลุจะต้องเอาซิลิโคนออกก่อนแล้วทิ้งระยะเวลาประมาณสามเดือนจึงค่อยมาทำใหม่
ข้อเขียนโดย นพ.นราธิป ทรงทอง ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมความงาม ประจำรพ.วิภาวดี
คลินิกศัลยกรรมความงาม โทร. 0-2941-2800 , 0-2561-1111 กด 1