อาการผิดปกติ ที่ชัดเจนคือท้องเสียสลับท้องผูก
อาการของโรคลำไส้แปรปรวนมักจะมีอาการดังนี้
- อาการปวดท้อง อาจจะปวดตรงกลางหรือปวดบริเวณท้องน้อยโดยทั่วไปจะปวดท้องน้อยด้านซ้ายมากกว่าด้านขวา ลักษณะอาการปวดมักจะปวดแบบปวดเกร็ง
- อาการแน่นท้อง ท้องอืด มักจะไม่สัมพันธ์กับอาหาร
- หน้าท้องโตขึ้นเหมือนมีลมในท้อง อาจมีอาการเรอหรือผายลมมากขึ้น
- การถ่ายอุจจาระไม่ปกติ บางรายมีอาการท้องผูก บางรายท้องเสีย หรือในบางรายอาจมีอาการท้องผูกสลับท้องเสียก็ได้ ผู้ป่วยบางรายมีความรู้สึกเหมือนถ่ายไม่สุด บางรายปวดเบ่งแต่เมื่อถ่ายอุจจาระแล้วอาการดีขึ้น มักจะอุจจาระเป็นมูก อาการต่าง ๆ เหล่านี้มักเป็น ๆ หาย ๆ มีอาการมากน้อยสลับกันได้ โดยมีอาการนานเกิน 3 เดือนในระยะเวลา 1 ปี
ปัจจุบันก็ยังไม่พบสาเหตุที่แน่นอน จึงยังไม่มียารักษา
ปัจจัยที่คาดว่าจะเป็นสาเหตุของอาการลำไส้แปรปรวนนี้ มี 2 ปัจจัย
1. การบีบตัวหรือลำไส้เคลื่อนตัวผิดปกติ
2. ระบบประสาทที่ผนังลำไส้ไว้ต่อสิ่งเร้า หรือตัวกระตุ้นมากผิดปกติ จากอาหารที่รับประทาน ทำให้ตอบสนองมากผิดปกติตามมา ยังรวมถึงความเครียดหรืออารมณ์ได้เช่นกัน
วิธีตรวจวินิจฉัย
ทำได้หลายวิธีเช่น
1. การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ หรือทวารหนัก
2. การส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น
3.การเอกซเรย์
4.การตรวจเลือดเพื่อหาภาวะโลหิตจาง ปัญหาต่อมไทรอยด์
5.การตรวจอุจจาระเพื่อหาการติดเชื้อ
6.การทดสอบการแพ้แลคโตส และการแพ้กลูเตน
คำแนะนำ
เนื่องจากโรคลำไส้แปรปรวน ยังไม่มีการรักษาให้หายขาด ผู้ป่วยสามารถทำได้โดยการบรรเทาอาการ เพื่อให้ใช้ชีวิตได้ตามปกติ มีคำแนะนำ เช่น
- รับประทานอาหารให้ตรงเวลา
- ปรับวิธีการกิน โดยกินแต่น้อย ไม่กินอิ่มมากในมื้อ
- เน้นกินผักผลไม้ที่มีเส้นใย ลดอาการท้องผูก
- เลี่ยงอาหารไขมัน
- เลี่ยงอาหาร เครื่องดื่ม ที่อาจกระตุ้นอาการ เช่น อาหารย่อยยาก รสจัด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลไม้บางชนิด อาหารแปรรูป
- เลี่ยงคาเฟอีน ชา กาแฟ
- ดื่มน้ำสม่ำเสมอ
- ออกกำลังกาย เป็นประจำ
- ผ่อนคลายความเครียด ทำจิตใจให้สบาย