วัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์ คืออะไร
นับตั้งแต่มีการแยกเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ครั้งแรกในปีค.ศ. 1933 วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ได้ถูกผลิตขึ้น และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เหมาะสมและตรงกับการระบาดของสายพันธุ์ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ดังนี้
1. วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ชนิด 1 สายพันธุ์ ประกอบไปด้วยไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A สายพันธุ์ H1N1
2. วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ชนิด 2 สายพันธุ์ ประกอบไปด้วยไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A 1 สายพันธุ์และ ชนิด B 1 ตระกูล
3. วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ชนิด 3 สายพันธุ์ ประกอบด้วยไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A 2 สายพันธุ์ คือ H1N1 , H3N2 และสายพันธุ์ B 1ตระกูล
จนกระทั่งปี ค.ศ. 2012 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แนะนำให้เพิ่มไวรัสสายพันธุ์ B เข้าไปอีก 1 ตระกูล ทำให้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สามารถป้องกันเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ครอบคลุม 4 สายพันธุ์ ซึ่งประกอบด้วยไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A 2 สายพันธุ์ คือ H1N1 , H3N2 และชนิด B 2 ตระกูลคือ Victoria, Yamagata
ข้อมูลระบาดวิทยาของไวรัสไข้หวัดใหญ่ในอดีต พบว่าเกิดจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ A (H1N1,H3N2) เป็นหลัก แต่ในปัจจุบันพบว่า สายพันธุ์ B เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยเพิ่มขึ้น และพบมีการระบาดร่วมกัน 2 ตระกูล (lineage) คือ Victoria และ Yamagata ซึ่งเดิมองค์การอนามัยโลกจะเลือกไวรัสสายพันธุ์ A 2 สายพันธุ์ และ สายพันธุ์ B เพียง 1 ตระกูลมาใช้ในการผลิตวัคซีน หากสายพันธุ์B ที่มีในวัคซีนไม่ตรงกับสายพันธุ์ที่ระบาด จะมีโอกาสเสี่ยงต่อการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B ที่ไม่มีอยู่ในวัคซีน และอีกประเด็นที่สำคัญคือ ไข้หวัดใหญ่ที่เกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B ทำให้ผู้ติดเชื้อมีความเสี่ยงที่จะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และเสียชีวิตได้พอๆกับไข้หวัดใหญ่ที่เกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์A โดยเฉพาะในเด็กและในผู้สูงอายุ ดังนั้นการใช้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ที่มีไวรัสครบทั้ง 4 สายพันธุ์จะกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ที่ครอบคลุมเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่อาจระบาดในปีนั้นได้มากกว่า ทำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด 4 สายพันธุ์ มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ลดลงมากกว่า 1
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์วัคซีน (Vaccine center) โรงพยาบาลวิภาวดี ชั้น 2 แผนกอายุรกรรม
Reference:
1. The rational for quadrivalent influenza vaccines.Christopher S.Ambrose and Myron J.Levin.
ด้วยความปรารถนาดี จาก รพ.วิภาวดี