จากกระแสในออนไลน์ที่ให้ข้อมูลว่าเราควรเลิกดื่มนมวัว เพราะมีสิ่งอันตรายอย่างยาฆ่าแมลง อุจจาระและยาปฏิชีวนะเจือปนอยู่ และจะทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ทั้งโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคกระดูกพรุนและโรคมะเร็ง นอกจากนั้นยังแนะนำว่าเราควรดื่มนมที่มาจากพืชแทน เรามาดูกันว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่
เรื่องที่ 1 : นมวัวอันตราย มีเชื้อโรค ยาฆ่าแมลง อุจจาระและยาปฏิชีวนะเจือปนอยู่
เรื่องนี้เป็นไปได้ยาก หากนมวัวนั้นผ่านการรับรองมาตรฐานหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตอาหาร และขออนุญาตผลิตอย่างถูกต้องแล้วจาก อย. ดังนั้น ผู้บริโภคควรตรวจสอบเลขสารบบอาหารในกรอบเครื่องหมาย อย.เป็นอันดับต้น ๆ สังเกตฉลากดูวันหมดอายุ ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต รวมถึงเลือกซื้อนมวัวที่อยู่ในภาชนะที่มีสภาพสมบูรณ์ ไม่มีรอยรั่วหรือฉีกขาดก่อนตัดสินใจซื้อนมมาบริโภค เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
เรื่องที่ 2 : ดื่มนมวัว เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคกระดูกพรุนและโรคมะเร็ง
เรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นจริง โดยมีข้อมูลศึกษาแล้วว่าการดื่มนมวัวไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเหล่านี้แล้วพบว่า การดื่มนมวัวยิ่งมีผลดีต่อการเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกทั้งในเด็กและวัยรุ่น นอกจากนั้นยังมีข้อมูลยืนยันว่าการดื่มนมไม่ได้มีผลต่อการเพิ่มอัตราการเสียชีวิตด้วย ดังนั้นนมวัวจึงไม่ได้เป็นอันตรายก่อให้เกิดโรคอย่างที่แชร์กัน
เรื่องที่ 3 : ดื่มนมที่มาจากพืชทดแทนนมวัวได้
การดื่มนมจากพืชอาจทดแทนนมวัวได้ โดยนมจากถั่วเหลืองมีปริมาณโปรตีนใกล้เคียงกับนมวัวมากที่สุด หากดื่มนมจากพืชประเภทอื่น เช่น ข้าวโอ๊ต หรือ อัลมอนด์ เป็นต้น จะได้รับโปรตีนน้อยกว่า นอกจากนี้สารอาหารในนมวัวและนมจากพืชยังมีความแตกต่างกัน โดยนมจากพืชจะมีปริมาณกรดไขมันอิ่มตัวและคลอเรสเตอรอลน้อยกว่านมวัว แต่นมวัวจะมีแร่ธาตุพวกแคลเซียมสูงกว่า ดังนั้น พลังงานที่ได้จากนมวัวจะสูงกว่านมจากพืช ยกเว้นในกรณีที่นมจากพืชมีการเติมน้ำตาลปริมาณมากเพื่อปรับปรุงรสชาติ ซึ่งอาจจะทำให้อ้วนได้
โดยสรุปแล้ว การดื่มนมวัวมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ถือเป็นทางเลือกที่ดีในการเสริมสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น แคลเซียม โปรตีน หรือวิตามินต่าง ๆ และไม่ได้ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างที่แชร์กันมา