ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

วิสัยทัศน์ บำรุงราษฎร์ 2023 : ก้าวสู่ความเป็นเลิศด้าน Medical and Wellness Destination

วิสัยทัศน์ บำรุงราษฎร์ 2023 : ก้าวสู่ความเป็นเลิศด้าน Medical and Wellness Destination Thumb HealthServ.net
วิสัยทัศน์ บำรุงราษฎร์ 2023 : ก้าวสู่ความเป็นเลิศด้าน Medical and Wellness Destination ThumbMobile HealthServ.net

บำรุงราษฎร์ ฉายภาพใหญ่ปี 2023 ก้าวสู่ปีแห่งความเป็นเลิศ พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ใหม่และทิศทางดำเนินงานสู่ความสำเร็จด้าน Medical and Wellness Destination เน้นไปยังกระแสการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ช่วยส่งเสริมผลักดันตลาด Medical & Wellness Tourism รับการฟื้นตัวด้านท่องเที่ยวการแพทย์ของไทย

วิสัยทัศน์ บำรุงราษฎร์ 2023 : ก้าวสู่ความเป็นเลิศด้าน Medical and Wellness Destination HealthServ
 ปี 2566 นับเป็นอีกปีที่น่าจับตามอง เพราะเป็นปีที่พลิกฟื้นจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างเต็มรูปแบบ โดยตั้งแต่ปลายปี 2565 เริ่มมีสัญญาณแนวโน้มที่ดีขึ้น ด้วยปัจจัยหลายประการ อาทิ เศรษฐกิจภายในประเทศที่ทยอยปรับตัวดีขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่กลับมาใช้บริการที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าในปี 2566 นี้จะมีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับปีก่อนโควิด-19 ที่ประมาณร้อยละ 50 ซึ่งการเปิดประเทศบวกกับกระแสการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันที่เพิ่มมากขึ้นนี้ ได้ช่วยส่งเสริมให้ตลาด Medical & Wellness Tourism รวมถึงเศรษฐกิจในประเทศกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง


วิสัยทัศน์ บำรุงราษฎร์ 2023 : ก้าวสู่ความเป็นเลิศด้าน Medical and Wellness Destination HealthServ

บำรุงราษฎร์ ตั้งเป้าสู่ปีแห่งความเป็นเลิศ (Year of Excellence)

ภญ. อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เปิดเผยว่า “บำรุงราษฎร์ ในฐานะโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศไทย ประกาศตั้งเป้าสู่ปีแห่งความเป็นเลิศ (Year of Excellence) ในงานแถลงข่าวปี 2566 และพร้อมมุ่งมั่นเพื่อก้าวสู่จุดหมายแห่งการดูแลสุขภาพและสุขภาวะที่น่าเชื่อถือที่สุด ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ใหม่ของปีนี้ ด้วยการผนึกความเชี่ยวชาญและต่อยอดของการรักษาโรคซับซ้อนเข้ากับการดูแลเชิงป้องกัน โดยบำรุงราษฎร์ริเริ่มและวางรากฐานเวชศาสตร์เชิงป้องกันเป็นแห่งแรกในเอเชีย ภายใต้ชื่อศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ซึ่งเป็นสถาบันเวชศาสตร์ชะลอวัยแบบบูรณาการ โดยยังคงยึดหลัก 4C1W เป็นปัจจัยหลักเพื่อก้าวสู่ปีแห่งความเป็นเลิศ ประกอบด้วย 1. Critical Care การรักษาผู้ป่วยภาวะวิกฤต 2. Complicated Care การรักษาผู้ป่วยที่มีอาการซับซ้อนหลายโรคหรือโรคหายาก 3. Cutting-edge technology การให้ความสำคัญและประยุกต์ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี 4. Collaboration of expertise and partners การทำงานที่สอดประสานกันและการแสวงพันธมิตรที่เข้มแข็ง และ 1. W = Wellness การแพทย์เชิงป้องกัน”

บทพิสูจน์ความสำเร็จมากมายในปี 2565 ที่ผ่านไป

ในปี 2565 บำรุงราษฎร์มีบทพิสูจน์ความสำเร็จมากมาย ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการรักษาผู้ป่วยภาวะวิกฤต และการดูแลโรคซับซ้อน ได้แก่ การเปิด ‘แผนกผู้ป่วยวิกฤตระบบประสาทและไขสันหลัง’ (Neurocritical Care Unit: NCCU), การเปิด ‘ศูนย์เฉพาะทางด้านการทำงานระบบทางเดินอาหาร’ (Gastrointestinal Motility Center), การเปิด ‘ศูนย์ปลูกถ่ายกระจกตา’ (Cornea Transplant Center), การเปิด ‘คลินิกคุณภาพการนอนหลับ’ (Comprehensive Sleep Clinic), การพัฒนาคุณภาพของห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ เพื่อให้บริการด้านจีโนมิกส์ด้วยเทคโนโลยี Next Generation Sequencing (NGS) ที่ช่วยในการถอดรหัสพันธุกรรมเพื่อทำนายโรค, การเปิดตัว Radiology AI นวัตกรรมที่เข้ามาช่วยรังสีแพทย์ในการวิเคราะห์และระบุตำแหน่งภาวะความผิดปกติของปอดและมะเร็งเต้านมระยะแรกเริ่มได้อย่างแม่นยำ รวมถึงการปรับตัวสู่การเป็น Digitized Hospital โดยนำประโยชน์ของเทคโนโลยีด้านดิจิทัลมาปรับใช้ในการบริการ มีการพัฒนา Bumrungrad Application ให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยเพิ่มฟีเจอร์ Bumrungrad FastTrack Pay เพื่อความสะดวกในการชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่น โดยไม่จำเป็นต้องรอชำระเงินหน้าเคาน์เตอร์ เป็นต้น
สำหรับปี 2566 ภายใต้แนวคิดของ 4C1W บำรุงราษฎร์ประกาศให้เป็นปีสู่ความเป็นเลิศ (Year of Excellence) โดยมีเสาหลักด้านความเป็นเลิศ 4 ประการ ได้แก่
  1. ความเป็นเลิศด้านบุคลากร (People Excellence) 
  2. ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Clinical Excellence)
  3. ความเป็นเลิศด้านคุณภาพและความปลอดภัย (Quality and Safety Excellence)
  4. ความเป็นเลิศในการส่งเสริมประสบการณ์ผู้ป่วย (Patient Experience Excellence)

1.ความเป็นเลิศด้านบุคลากร (People Excellence)

บุคลากรโรงพยาบาล คือทรัพย์สินที่มีค่าที่สุด บำรุงราษฎร์มีนโยบายที่ชัดเจนและต่อเนื่องในการสรรหา สร้าง รักษา และพัฒนาบุคลากรให้เติบโตไปพร้อมกับองค์กร ตลอดจนปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งจากรุ่นสู่รุ่น หนึ่งในกิจกรรมที่บำรุงราษฎร์ทำมาโดยตลอด คือ การสร้างและพัฒนาให้มีบุคลากรด้านการแพทย์และการพยาบาลที่ทรงคุณค่าให้แก่โรงพยาบาลและแก่ประเทศชาติ ซึ่งรวมถึงการให้ทุนการศึกษาแก่พยาบาล
โดย ศ. นพ. นิมิต เตชไกรชนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมบุคลากรบำรุงราษฎร์ และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานวิจัยและการศึกษา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ให้ข้อมูลเพิ่มว่า โรงพยาบาลมีสถาบันทางวิชาการที่ส่งเสริมด้านการศึกษาและฝึกอบรมเพื่อให้บุคลากรมีความรู้ที่ทันสมัยอยู่เสมอ ถือได้ว่าปัจจุบันบำรุงราษฎร์เป็น ‘สถาบันวิชาการทางการแพทย์ภาคเอกชน’ หรือ Academic Private Hospital อย่างเต็มรูปแบบ อีกทั้งยังสนับสนุนให้แพทย์และบุคลากรได้มีโอกาสทำงานวิจัย ตีพิมพ์ผลงานในวารสารทางวิชาการทั้งในระดับชาติและนานาชาติ ซึ่งนับเป็นการถ่ายทอดแบ่งปันองค์ความรู้ขององค์กรไปสู่สาธารณชนอีกด้วย โดยล่าสุด บำรุงราษฎร์ได้รับรางวัลสุดยอดองค์กรไทย Thailand Best Employer Brand Award 2023 ได้แก่ รางวัลองค์กรนายจ้างยอดเยี่ยมของไทย และรางวัลองค์กรยอดเยี่ยมด้านการใช้เทคโนโลยีเพื่อฝึกอบรมและเรียนรู้ รวมถึงได้รับการยกย่องจาก Hospital Management Excellence Award 2022 ให้เป็นผู้ชนะเลิศในหมวดความหลากหลาย (Diversity) ในฐานะองค์กรด้านสาธารณสุขที่มีบทบาทโดดเด่นในการเคารพความแตกต่างหลากหลาย นับเป็นเครื่องการันตีถึงความเป็นเลิศด้านบุคลากร
ศ. นพ. นิมิต เตชไกรชนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์พัฒนาและฝึกอบรมบุคลากรบำรุงราษฎร์

2.ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Clinical Excellence)

ความเป็นเลิศทางการแพทย์ นับเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลและสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้รับบริการ


รศ.นพ. ทวีสิน ตันประยูร ประธานปฏิบัติการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อธิบายว่า นับตั้งแต่ก่อตั้งโรงพยาบาลและก้าวเข้าสู่ปีที่ 43 บำรุงราษฎร์ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาและยกระดับศูนย์รักษาโรคมาโดยตลอด 
ซึ่งในปีนี้ โรงพยาบาลฯ มีการยกระดับศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Center of Excellence) ได้แก่ สถาบันหัวใจ ศูนย์มะเร็งฮอไรซัน ศูนย์โรคระบบประสาท ศูนย์ทางเดินอาหารและตับและลำไส้ และศูนย์จักษุ ซึ่ง 5 ศูนย์ความเป็นเลิศนี้ เปรียบเสมือนเรือธงในการขับเคลื่อนการรักษาพยาบาลในปี 2566 ขณะที่ศูนย์การรักษาอื่น ๆ ยังคงให้บริการด้วยคุณภาพมาตรฐานและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามมาตรฐานของบำรุงราษฎร์ทุกประการ โดยบำรุงราษฎร์มีองค์แพทย์ที่เข้มแข็ง ทำหน้าที่กับการกำกับดูแลทางการแพทย์ (Clinical Governance) ซึ่งเป็นธรรมภิบาลของแพทย์ เพื่อให้การประกอบวิชาชีพของแพทย์ให้เป็นไปตามกฎหมาย เป็นไปตามจริยธรรมและศีลธรรม (Moral) อย่างถูกต้องเหมาะสม และเป็นไปตามคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง มีกระบวนการตอบสอบภายในอย่างเป็นระบบตามมาตรฐานสากล ตลอดจนมีแผนระยะยาวในการเตรียมแพทย์รุ่นใหม่ให้มีความพร้อมในการก้าวขึ้นมาเป็นแพทย์ผู้ชำนาญการและแพทย์ผู้บริหารของโรงพยาบาลในรุ่นต่อไป (Building Tomorrow Doctors) ด้วยการออกแบบหลักสูตรพัฒนาแพทย์ที่เป็นแบบฉบับของบำรุงราษฎร์เอง รวมไปถึงการขยายศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ อาทิ ศูนย์มะเร็ง ร่วมกับโรงพยาบาลพันธมิตร ได้แก่ โรงพยาบาลพิษณุเวช และ โรงพยาบาลนครธน เพื่อให้ผู้ป่วยมีโอกาสได้เข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพมาตรฐาน

3. ความเป็นเลิศด้านคุณภาพและความปลอดภัย (Quality and Safety Excellence)

คุณภาพและความปลอดภัย คือ หัวใจสำคัญอีกประการของบำรุงราษฎร์ ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนในช่วงที่เกิดการระบาดของโรค บำรุงราษฎร์แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการบริหารจัดการการแพร่ระบาดของโรคได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีการให้องค์กรอิสระภายนอกเข้ามาตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง อาทิ มาตรฐานคุณภาพโรงพยาบาลระดับสากล (JCI), มาตรฐานคุณภาพโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ ‘ขั้นก้าวหน้า’ (A-HA), การรับรองจาก Global Healthcare Accreditation (GHA) ในระดับความเป็นเลิศมาตรฐานสากลในการดูแลกลุ่มผู้ป่วยชาวต่างชาติที่เดินทางเพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาลในประเทศไทย, ความเป็นเลิศในมาตรฐานด้านการปฏิบัติงานด้านพยาธิวิทยาและเวชศาสตร์ชันสูตรของห้องปฏิบัติการทางการแพทย์จากวิทยาลัยพยาธิแพทย์อเมริกัน (CAP) ซึ่งคุณภาพและความปลอดภัย นับเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญของคุณภาพของสถานพยาบาล

4. ความเป็นเลิศในการส่งเสริมประสบการณ์ผู้ป่วย (Patient Experience Excellence)

บำรุงราษฎร์มีแผนการดำเนินงานอย่างชัดเจนในการให้บริการด้วยความเป็นเลิศต่อผู้ป่วย ซึ่งถือเป็นวัฒนธรรมองค์กรอันล้ำค่าที่ถ่ายทอดกันมาสู่ปีที่ 43 ในปี 2566 โรงพยาบาลฯ ได้มีการปรับปรุงวิถีแห่งบำรุงราษฎร์ (Bumrungrad Way) ซึ่งเป็นแนวปฎิบัติของบุคลากรในการบริการผู้ป่วยที่เป็นแบบฉบับของบำรุงราษฎร์เองให้สอดรับตามยุคสมัย แต่ยังคงแนวปฏิบัติที่ยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางในการรักษาพยาบาล นำไปสู่การให้บริบาลด้วยความเอื้ออาทร (compassionate caring) นับเป็นเอกลักษณ์ของบำรุงราษฎร์ที่สร้างความแตกต่าง ทำให้ผู้ป่วยและผู้ใช้บริการได้รับประสบการณ์เชิงบวก เกิดความประทับใจและบอกต่อไปยังบุคคลอื่น ๆ นับเป็นการสร้างความเชื่อมั่นที่ดีที่สุดของโรงพยาบาล
ภญ. อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ กล่าวปิดท้ายว่า “ด้วยบทพิสูจน์ที่ผ่านมา และความพร้อมที่จะก้าวสู่ปีแห่งความเป็นเลิศในปี 2566 นี้ บำรุงราษฎร์มีความมุ่งมั่นอย่างมากในการสร้างความแตกต่าง (Differentiation) ที่เอื้อให้เกิดการเติบโตทางธุรกิจ (Growth) เพื่อจะบรรลุวิสัยทัศน์ในการเป็นจุดหมายแห่งการดูแลสุขภาพและสุขภาวะที่น่าเชื่อถือที่สุด ซึ่งเราจะไม่สามารถบรรลุวิสัยทัศน์นี้ได้ หากปราศจากศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ซึ่งเป็นสถาบันเวชศาสตร์ชะลอวัยแบบบูรณาการ เป็นผู้บุกเบิกและวางรากฐานเวชศาสตร์เชิงป้องกันเป็นแห่งแรกในเอเชีย โดยมุ่งหวังให้ผู้คนมีชีวิตที่ยืนยาวอย่างมีคุณภาพ

ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์

ปัจจุบัน ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ เติบโตอย่างมากและสร้างรายได้กว่า 1 พันล้านบาทในปี 2565 รวมถึงบริการที่ RAKxa (รักษ) ศูนย์บูรณาการสุขภาพและการแพทย์แบบองค์รวมที่บางกระเจ้า และพันธมิตรอื่น ๆ ซึ่งจะเป็นอีกบทพิสูจน์ของบำรุงราษฎร์ที่เสริมศักยภาพการเป็นจุดหมายแห่งการดูแลสุขภาพและสุขภาวะที่น่าเชื่อถือที่สุด และยังเป็นการเสริมจุดแข็งด้านการแพทย์ของไทย สู่เป้าหมายของการเป็น ‘ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ’ หรือ ‘การแพทย์ครบวงจร’ (Medical Hub) เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมอนาคต (New S-Curve) สร้างชื่อเสียงความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ และสร้างรายได้หมุนเวียนในระบบให้กับประเทศชาติ”

โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

33 สุขุมวิท ซอย 3 เขตวัฒนา กรุงเทพ 10110
Call: 1378    02-0668888     02-0114100
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด