ช่วงฤดูหนาวปลายปี จนถึงต้นปี เป็นช่วงที่ประเทศไทยจะประสบกับปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 และในปี 2564 ตั้งแต่เดือนตุลาคม ได้เริ่มมีสัญญาณการกลับมาของฝุ่นอันตรายชนิดนี้แล้ว ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและ ปริมณฑล
กรุงเทพมหานครมีการเตรียมการเพื่อรับมือกับปัญหานี้อย่างไร
24 ต.ค. 64 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่า กทม. เปิดเผยถึงมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่ กทม. ในหลายด้าน ได้แก่
1. มาตรการที่จะพยายามควบคุมการปล่อยมลพิษ อากาศ ในพื้นที่กทม.
อาทิเช่น
- เข้มงวดการตรวจจับและห้ามใช้รถยนต์ควันดำทุกประเภทในพื้นที่
- การรณรงค์ลดการเผาในที่โล่ง
- การรณรงค์ไม่ขับช่วยดับเครื่อง
- ดำเนินการฉีดล้างใบไม้ และฉีดล้างทำความสะอาดถนนและพื้นที่สาธารณะ
- ขอความร่วมมือส่วนราชการรวมถึงประชาชน ตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้ก่อมลพิษ
2. ร่วมมือกับ กรมควบคุมมลพิษ ติดตามและรายงานสถานการณ์ รวดเร็ว ทั่วถึง และรีลไทม์
เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงและงดการทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง พร้อมแนะนำการปฏิบัติหากจำเป็นต้องออกไปกลางแจ้ง หากค่าฝุ่นละอองมีสูงขึ้นในระดับอันตราย
โดยในการแจ้งเตือน จะเพิ่มความถี่ในการแจ้งเตือนรายวัน มากขึ้น เป็นวันละ 3 รอบเวลา คือ 07.00 น. 12.00 น. และ 15.00 น. ในกรณีที่ค่าฝุ่นเพิ่มสูงขึ้น
ประชาชน สามารถ เข้าถึงข้อมูล การแจ้งเตือน สถานการณ์ฝุ่นละออง ได้ ผ่านช่องทางต่างๆ ได้แก่
- เว็บไซต์ www.bangkokairquality.com
- www.air4bangkok.com
- www.prbangkok.com
- เฟซบุ๊ก: กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร
- สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานค
- กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ และ
- แอปพลิเคชัน : AirBKK
รวมถึงจอแสดงผลบริเวณสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ และจอแสดงผลแบบเคลื่อนที่
3. สำหรับการดูแลและให้บริการประชาชน ที่อาจได้รับผลกระทบ
โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ
- ได้มอบหมายสำนักสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย และสำนักงานเขตพื้นที่ จัดหน่วยแพทย์และสาธารณสุขเคลื่อนที่ลงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ สูงเกินมาตรฐานจนมีผลกระทบต่อสุขภาพ เพื่อช่วยเหลือและให้ความรู้ประชาชน
- เน้นย้ำข้อควรปฏิบัติในการป้องกันตนเองจากฝุ่นละออง
- แนะนำการสวมหน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง
- รวมถึงการรณรงค์เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วนในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและลดกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่อง
3. สำหรับการดูแลและให้บริการประชาชน ที่อาจได้รับผลกระทบ
โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ
- ได้มอบหมายสำนักสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัย และสำนักงานเขตพื้นที่ จัดหน่วยแพทย์และสาธารณสุขเคลื่อนที่ลงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ สูงเกินมาตรฐานจนมีผลกระทบต่อสุขภาพ เพื่อช่วยเหลือและให้ความรู้ประชาชน
- เน้นย้ำข้อควรปฏิบัติในการป้องกันตนเองจากฝุ่นละออง
- แนะนำการสวมหน้ากากอนามัยที่ถูกต้อง
- รวมถึงการรณรงค์เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วนในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและลดกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่อง
รณรงค์เพื่อลดแหล่งกำเนิดของฝุ่นละออง
พร้อมกันนี้ได้ดำเนินการรณรงค์ให้ผู้ประกอบการที่เป็นแหล่งกำเนิดของฝุ่นละออง (PM2.5) ให้มีการประกอบกิจการอย่างถูกสุขลักษณะในกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ประกอบด้วย
1. รณรงค์ให้ฌาปนสถาน
ทั่วกรุงเทพมหานคร จำนวน 308 แห่ง มีการบำรุงรักษาเตาเผาศพให้มีสภาพสมบูรณ์ และกำชับให้เจ้าหน้าที่ฌาปนสถานดำเนินงานเผาศพอย่างถูกวิธี ได้แก่ ไม่ใส่สิ่งขอส่วนตัวของผู้ตายและวัสดุต่าง ๆ เช่น กระดาษเงินกระดาษทอง ดอกไม้จันทน์ ลงไปในหีบศพเกินความจำเป็น และควบคุมอุณหภูมิในห้องเผาควันไม่ต่ำกว่า 850 องศาเซลเซียส เป็นต้น รวมทั้งได้ประสานสำนักงานเขตตรวจวัดเขม่าควันที่ระบายออกทางปล่องเตาเผาศพเป็นประจำทุกปี ในระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม หากเตาเผาศพใดมีค่าเขม่าควันเกินกว่าค่ามาตรฐาน จะขอความร่วมมือวัดหรืออาจใช้อำนาจตามกฎหมายว่าด้วยสุสานและฌาปนสถานสั่งการให้วัดระงับการเผาศพเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะปรับปรุงเตาเผาศพให้ได้มาตรฐาน
2. ขอความร่วมมือให้ศาลเจ้าทุกแห่ง
จำนวน 77 แห่ง ดำเนินการเพื่อลดการปล่อยฝุ่นละอองจากการจุดธูปและการเผากระดาษ ในช่วงเทศกาลปีใหม่และเทศกาลตรุษจีน ได้แก่ การลดจำนวนกระถางธูป การให้บริการธูปก้านสั้นและมีควันน้อยลง การตั้งวางกระถางธูปในจุดที่มีการถ่ายเทอากาศที่ดีหรือตั้งวางด้านนอกอาคาร การจัดเจ้าหน้าที่เพื่อดับควันธูปเมื่อไหว้ขอพรเสร็จแล้ว และการลดหรือหลีกเลี่ยงการเผากระดาษในที่โล่งแจ้ง เป็นต้น รวมทั้งการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นละอองเมื่อเข้าไปใช้บริการในศาลเจ้าหรือลดระยะเวลาในการสัมผัสกับเขม่าควัน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคในระบบการหายใจ และกลุ่มเด็ก
3. แจ้งให้สถานประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกรุเทพมหานครตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข ซึ่งมีการประกอบการที่อาจจะเป็นแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง ให้มีการประกอบการอย่างถูกสุขลักษณะและมีการตรวจสอบประสิทธิภาพของระบบบำบัดมลพิษทางอากาศให้มีประสิทธิภาพก่อนปล่อยสู่สิ่งแวดล้อมอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งได้กำชับสำนักงานเขตให้มีการตรวจสอบสถานประกอบการที่อาจจะก่อให้เกิดฝุ่นละออง โดยหากพบว่าสถานประกอบการใดที่เป็นแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง จะได้มีมาตรการ เช่น ขอความร่วมมือให้หยุดประกอบการในวันที่มีค่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) สูง หรือให้สถานประกอบการตรวจสอบและปรับปรุงระบบบำบัดมลพิษทางอากาศให้เป็นไปตามค่ามาตรฐาน
4. ส่งเสริมความรู้ให้สถานประกอบการที่ใช้หม้อไอน้ำ (Boiler)
ในกระบวนการผลิต มีการควบคุมการทำงานของหม้อไอน้ำให้มีเผาไหม้ที่สมบูรณ์และมีระบบกำจัดมลพิษอากาศที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดการปล่อยทิ้งฝุ่นละอองขนาดเล็กและมลพิษอากาศอื่น ๆ ออกสู่บรรยากาศ รวมทั้งประสานกรมโรงงานในการควบคุมโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อีกทางหนึ่ง
5. ส่งเสริมความรู้ให้ผู้ประกอบการ
ร้านจำหน่ายอาหาร แผงค้าในตลาดสดและตลาดนัด และแผงลอยจำหน่ายอาหาร ที่มีการใช้เตาปิ้งย่าง กว่า 1,700 ราย ตระหนักถึงอันตรายของฝุ่นละอองที่เกิดจากการปิ้งย่าง รวมทั้งแนะนำให้ใช้เตาปิ้งย่างแบบไร้ควัน มีอุปกรณ์ป้องกันการฟุ้งกระจายของเขม่าควันและฝุ่นละออง และเลือกใช้เชื้อเพลิงในการปิ้งย่างที่ไม่ก่อให้เกิดฝุ่นละออง เช่น ถ่านอนามัย หรือถ่านอัดแท่งอนามัย เป็นต้น