ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

คนไทย 8 ใน 10 ประสบปัญหาสุขภาพจิต กลุ่มวัย Gen Z ที่รู้สึกโดดเดี่ยวที่สุด

คนไทย 8 ใน 10 ประสบปัญหาสุขภาพจิต กลุ่มวัย Gen Z ที่รู้สึกโดดเดี่ยวที่สุด Thumb HealthServ.net
คนไทย 8 ใน 10 ประสบปัญหาสุขภาพจิต กลุ่มวัย Gen Z ที่รู้สึกโดดเดี่ยวที่สุด ThumbMobile HealthServ.net

โควิดส่งผลถึงสุขภาพจิต Mintel เปิดผลวิจัยคนไทยประสบปัญหาสุขภาพจิต หลักๆ คือ ความเครียด นอนไม่หลับ และวิตกกังวล พบว่าแต่ละเพศ และ แต่ละช่วงวัย ต่างเผชิญกับความท้าทายด้านสุขภาพจิตที่แตกต่างกัน อีกด้วย Gen Z โดดเดี่ยวที่สุด

 
 
กรุงเทพมหานคร (27 กรกฎาคม 2565)- งานวิจัยฉบับใหม่ของบริษัทวิจัยด้านการตลาดระดับโลก Mintel (มินเทล) ชี้ ผู้บริโภคชาวไทยประมาณ 8 ใน 10 ราย ต่างประสบปัญหาสุขภาพจิตในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา สามอันดับแรก คือ ความเครียด (46%) นอนไม่หลับ (32%) และวิตกกังวล (28%)* สภาพจิตใจของคนไทยถดถอยลงจากผลกระทบที่ยืดเยื้อของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) ซึ่งส่งผลให้พวกเขาเกิดความหงุดหงิดและความรู้สึกท้อแท้


นอกจากนี้ ผลการวิจัยยังพบว่า ผู้บริโภคแต่ละเพศ และ แต่ละช่วงวัยต่างเผชิญกับความท้าทายด้านสุขภาพจิตที่แตกต่างกัน
 
 

คนไทย 8 ใน 10 ประสบปัญหาสุขภาพจิต กลุ่มวัย Gen Z ที่รู้สึกโดดเดี่ยวที่สุด HealthServ
 



 

Gen Z คือกลุ่มวัยที่รู้สึกโดดเดี่ยวที่สุด

 
 
การทำงาน/การเรียน (48%) ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค Gen-Z โดยเฉพาะอายุระหว่าง 18-24 ปี โดยพบว่า ผู้บริโภคในกลุ่มวัยนี้จะรู้สึกโดดเดี่ยวที่สุด (38%) เมื่อเทียบกับคนรุ่นอื่นๆ** อาทิ กลุ่ม Millennials (26%) และ Gen X (15%) ที่มีอายุมากกว่า ทั้งนี้ แรงกดดันจากเพื่อน (33%) และโซเชียลมีเดีย (25%) ต่างเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความท้าทายด้านสุขภาพจิตของพวกเขา
 
“ตามข้อมูลจากงานวิจัยของเรา มากกว่าหนึ่งในสามของผู้บริโภคชาวไทยที่มีอายุน้อยกล่าวว่า พวกเขาขาดความมั่นใจในตนเอง และมีสภาวะทางจิตใจบางอย่าง เช่น การนับถือตนเองต่ำ อาการซึมเศร้า และความวิตกกังวล สภาวะเหล่านี้เกิดจากการสร้างภาพชีวิตที่ “สมบูรณ์แบบ” บนโซเชียลมีเดีย จากการได้เห็นบุคคลที่พวกเขาชื่นชอบ อินฟลูเอนเซอร์ หรือคนที่พวกเขารู้จักมีในสิ่งที่พวกเขาไม่มี ก่อให้เกิดความกดดันที่จะต้องใช้ชีวิตให้ได้ตามมาตรฐานที่ผู้อื่นวางไว้ แบรนด์ต่าง ๆ สามารถช่วยเหลือประชากรกลุ่มที่มีอายุน้อยนี้ได้ ด้วยแคมเปญ ที่ผลักดันและส่งเสริมให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกพึงพอใจในตนเอง” คุณวิลาสิณี (ไข่มุก) ศิริบูรณ์พิพัฒนา นักวิเคราะห์อาวุโสด้านการวิจัยไลฟ์สไตล์ ประจำ Mintel Reports Thailand กล่าว
 
 
 

ผู้หญิงเครียดกว่าผู้ชาย

 
 
 
เกือบหนึ่งในสาม (31%) ของหญิงไทยที่มีอายุ 18-34 ปี กล่าวว่า พวกเขารู้สึกหมดไฟ เมื่อเทียบกับชายในวัยเดียวกัน (17%) ผู้หญิงให้ความสำคัญกับงาน/การศึกษา ความไม่แน่นอนในการวางแผนอนาคต และสถานการณ์/ความรับผิดชอบทางการเงิน จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตของผู้บริโภคกลุ่มนี้
 
“ผู้หญิงอายุ 18-34 ปี มีแนวโน้มที่จะต้องรับมือและรับผิดชอบกับงานบ้าน สร้างความมั่นคงในหน้าที่การงาน และคำนึงถึงการแต่งงานใช้ชีวิตคู่ ตามที่ระบุไว้ในงานวิจัยฉบับใหม่ของเราเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ของผู้หญิง พวกเธอต้องการที่จะรักษาสมดุลในชีวิตและมีสุขภาพที่ดี ทั้งทางกายและทางใจ แบรนด์ต่าง ๆ สามารถวางผู้บริโภคกลุ่มนี้เป็นเป้าหมายได้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงที่มีไลฟ์สไตล์ที่ยุ่งหรือวุ่นวายตลอดเวลา ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการที่จะช่วยบรรเทาความเครียดทางด้านจิตใจ และช่วยให้พวกเธอสามารถทำกิจกรรมเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีได้” คุณไข่มุกกล่าวต่อ
 
 
คนไทย 8 ใน 10 ประสบปัญหาสุขภาพจิต กลุ่มวัย Gen Z ที่รู้สึกโดดเดี่ยวที่สุด HealthServ
 
 

การอดนอนส่งผลกระทบต่อคนทุกรุ่น

 
 
 
การวิจัยของ Mintel เผยให้เห็นว่า การนอนหลับล้วนส่งผลต่อคนไทยไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุใด ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในชีวิตที่มีความตึงเครียดได้ โดยสำหรับในช่วงวัยต่างๆ แล้ว ประมาณ 35% ของ Gen Z และ Millennial จะมีอาการนอนไม่หลับ ในขณะที่ Gen X อยู่ที่ 28%
 
ตรงกันข้ามกับสิ่งที่ผู้คนมักเชื่อกัน การนอนไม่หลับส่งผลกระทบต่อคนทุกวัย ไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุเท่านั้น ปัจจัยเหล่านี้อาจเกิดจากมาตรการการอยู่บ้านทำให้ผู้คนไม่สามารถแยกชีวิตส่วนตัวกับชีวิตการทำงานหรือการเรียนออกจากกันได้อย่างชัดเจน จนทำให้เกิดความเครียดและนอนไม่หลับมากขึ้น เนื่องจากคนไทยมีปัญหาด้านการนอนหลับ แบรนด์ต่าง ๆ จึงสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่สามารถตรวจจับรูปแบบการนอนและให้ประโยชน์ด้านสุขภาพอื่น ๆ ได้
 
 
 

ผู้บริโภคมองหาแบรนด์ที่จะมาช่วยแก้ปัญหาด้านสุขภาพจิต

 
 
แม้คนไทยจำนวนมากขึ้นจะประสบปัญหาสุขภาพจิต แต่ผู้บริโภคยังคงไม่สามารถเข้าถึงบริการและข้อมูลด้านสุขภาพจิตได้ ซึ่งคนไทยกว่า 3 ใน 4 (76%) รู้สึกเห็นด้วยว่าควรจะมีการพูดคุยเรื่องสุขภาพจิตในพื้นที่สาธารณะให้มากขึ้นกว่าเมื่อก่อน
 
“เนื่องจากข้อจำกัดทางสังคมและความรู้สึกเชิงลบเกี่ยวกับสุขภาพจิต เราจึงเห็นได้ว่า ผู้บริโภคต่างมีความคาดหวังสูงจากแบรนด์ในแง่ของการที่แบรนด์เหล่านั้นจะเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องของสุขภาพจิต เมื่อพิจารณาถึงความละเอียดอ่อนของภาวะสุขภาพจิต แบรนด์ต่าง ๆ จำเป็นต้องแสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจ และเข้าใจความเป็นไปทางด้านจิตใจของผู้บริโภคอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ด้วยความที่โซเชียลมีเดียมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ  ผู้บริโภคกว่า 3 ใน 4 เห็นด้วยว่า ช่องทางดังกล่าวเป็นช่องทางที่เหมาะสมในการส่งเสริมผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เล็งเห็นถึงคุณค่าทางด้านจิตใจ ด้วยเหตุนี้ แบรนด์ที่มุ่งเน้นการให้ความรู้ผู้บริโภค แบรนด์ที่เข้ามามีบทบาทในการช่วยขจัดปัญหาสุขภาพจิต และแบรนด์ที่ส่งเสริมให้ผู้คนเข้ารับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ จะสามารถชนะใจผู้บริโภคได้” คุณไข่มุกกล่าว

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด