ต่อยอดความคิดใหม่ๆ ทางเลือกใหม่ๆ
หนึ่งในความสามารถหลักของ ChatGPT คือบทบาทการเป็นผู้ช่วยส่วนตัว (personal assistant) ทุกคนสามารถมีผู้ช่วยแสนรู้ข้างกายได้ ผู้ช่วยที่จะหาคำตอบที่เราต้องการ ข้อมูลที่มองหา หรือผลลัพธ์บางอย่างที่เกิดจากการประมวลผลเป็นชุดคำตอบ ซึ่งถ้ามันใช้ได้ ดีพอ หรือเหมาะสม ก็อาจเอาไปใช้งานต่อได้ ขยายขอบเขตต่อยอดงานต่อไปได้
"มันช่วยให้คุณสร้างไอเดียใหม่ๆ ได้" คาร์ล เบเนดิกต์ เฟรย์ ผู้อำนวยการภาควิชาอนาคตของการทำงานที่มหาวิทยาลัยออกฟอร์ดกล่าวถึงการใช้แชทจีพีที เขายกตัวอย่างการใช้ในสาขาวิชาของเขาเอง เช่น หาข้อโต้แย้งในงานวิทยานิพนธ์ และเขียนบทคัดย่อสำหรับงานวิจัย หรือ สร้างทวีตเพื่อโปรโมตบทความ
"ความเป็นไปได้มีอยู่มหาศาล" เขาย้ำและว่า สำหรับคนทำงานที่มีความรู้ มันคือเครื่องมือต่อยอดความรู้นั้นได้มากมาย
หลายคนใช้ ChatGPT เพื่อแตกแขนงหรือทดลองทางเลือกต่างๆ เป็นการต่อยอดจากความคิดอันเป็นแกนหลักที่มีอยู่แล้วก็ได้ เช่น ต้องการสร้างภาพมนุษย์อวกาศ แต่เปลี่ยนฉากเป็นยุคสมัยต่างๆ (กรีก โรมัน ไวกิ้ง อาหรับ หรือโลกอนาคต) หรือเปลี่ยนแคแรกเตอร์ หรือโทนสี เป็นต้น
"ฉันสร้างไอเดียตลอดเวลาและใช้ AI ช่วยเพิ่มเติม" เอธัน มอลลิกซ์ ผู้ศึกษาด้านปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา พูดถึงการใช้ AI "ฉันใช้มันเพื่อช่วยประมวลผลข้อมูล สรุปสิ่งที่ฉันได้ยิน ในทางปฏิบัติมันเป็นเหมือนพาร์ทเนอร์ของฉัน"
การใช้ปัญญาประดิษฐ์แบบสร้างสรรค์ (Generative AI) คือโอกาสพัฒนาและยกระดับการทำงาน เป็นเครื่องมือขยายแนวคิด ปรับปรุงกระบวนการทำงานประจำวัน ตลอดจนช่วยพัฒนาโครงการและเป้าหมายระยะยาวได้
เพิ่มความแม่นยำ ลดทอนอคติ
ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นภาพกว้างๆ และแง่ประโยชน์ของการใช้เอไอในการทำงานโดยรวม เมื่อมองลึกลงไปในรายละเอียด จะพบว่าเอไอช่วยได้อีกหลายประการในสิ่งที่ "ผู้คนอาจจะหรือมักจะมองข้าม" อาทิเช่น ใช้ AI ตรวจหาความไม่ถูกต้องหรือผิดพลาดในข้อความ โค๊ดโปรแกรมที่เขียนขึ้น หรือแม้แต่การหลีกเลี่ยงความลำเอียงและอคติที่มีอยู่ในงานโดยไม่รู้ตัวก็ได้
ประเด็นแง่มุมเรื่องอคตินั้นสำคัญ บีบีซี อธิบายตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้น เช่น ผู้วิเคราะห์ข้อมูลอาจตีความไปในทิศทางที่ตนเองมีคติอยู่ และพยายามที่จะหาข้อมูลมาสนับสนุนคติ ความเชื่อนั้น เป็นต้น
แอนนา ซาโลมอนส์ ภาควิชาเศรษฐศาสตร์โรงเรียนมหาวิทยาลัยออเตร็กต์ประเทศเนเธอร์แลนด์อธิบายว่า ปัญญาประดิษฐ์สามารถตีความข้อมูลได้โดยไม่มีผลกระทบของความลำเอียงและให้การวิเคราะห์ภาพรวมที่ละเอียดยิบมากขึ้น
กระนั้นความสามารถในการ "วินิจฉัยปัญหาได้เร็วขึ้นและดีกว่า" จะไม่สามารถมาแทนที่ "ความเชี่ยวชาญ" ได้ - ในขณะที่ปัญญาประดิษฐ์สามารถระบุปัญหาได้ มนุษย์ยังคงต้องแก้ไขปัญหาเหล่านั้น แต่ปัญญาประดิษฐ์สร้างสรรค์สามารถระบุปัญหาเหล่านี้ได้เร็วกว่าและบ่อยครั้งแม่นยำกว่ามนุษย์เท่านั้น - ซาโลมอนส์ กล่าวเสริม
แม้ว่าเทคโนโลยีนี้ยังห่างไกลกับคำว่าสมบูรณ์แบบ แต่มันได้เริ่มสร้างรากฐานใหม่ให้กับการทำงานไปแล้ว การทำงานที่คาดหวังได้ ถึงผลลัพธ์และการปัญหาต่างๆ ที่เหนือไปกว่าการใช้เพียงประสบการณ์เฉพาะบุคคลแบบที่เคยเป็นมา การทำงานที่จะสร้างโอกาสใหม่ๆ เป็นอิสระที่เกิดจากการผสานความรู้แบบสหสาขาเข้ามาเป็นหนึ่งเดียวกันได้ เหล่นี้นี่คือจุดแข็งที่ปัญญาประดิษฐ์เป็น และมอบให้ได้
ChatGPT และโมเดลเรียนรู้ (machine learning models) กำลังก้าวหน้าพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับชุดข้อมูลที่เพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นหมายความว่าเทคโนโลยีสามารถตรวจจับความลำเอียง มองหาข้อผิดพลาดและ ตรวจพบความผิดพลาดได้มากขึ้น
เพิ่มงาน สร้างอาชีพใหม่
หนึ่งในความกังวลหลักเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์คือกลัวว่ามันมาแย่งงานมนุษย์ไป ข้อมูลบางส่วนยืนยันว่าเทคโนโลยีนี้จะมีผลต่องานในขอบเขตที่กว้างขวาง ในเดือนมีนาคม โกลด์แมน แซ็กส์รายงานว่าปัญญาประดิษฐ์อาจแทนที่งานเต็มเวลาเทียบเท่ากับ 300 ล้านงาน อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ไม่ควรกังวลจนเกินไป เพราะการเปลี่ยนแปลงนี้ อาจจะสร้างโอกาสงานใหม่ก็ได้
เอธัน มอลลิก์ มองว่า "โดยทั่วไป การปรับเปลี่ยนระบบ จะสร้างความสับสนวุ่นวาย (ถึงขั้นตื่นตระหนก) ในระยะแรก และจะสร้างงานมากขึ้นในระยะยาว" จากงานวิจัยปี 2021 ที่ซาโลมอนส์ร่วมเขียน ชี้ให้เห็นว่า 60% ของงานที่ทำในปัจจุบัน เป็นงานที่ไม่เคยมีในปี 1940 ระบบอุตสาหกรรมและระบบอัตโนมัติ นำไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ที่ใหญ่ขึ้น อย่าง อุตสาหกรรมยานยนต์และคอมพิวเตอร์ เมื่อเกิดอุตสาหกรรมใหม่ๆ นั่นคือการสร้างและเพิ่มงานใหม่เข้ามา ตั้งแต่งานของคนขับรถจนถึงนักออกแบบเว็บไซต์
ไม่มีใครรู้ว่าแนวโน้มจะดำเนินต่อไปอย่างไร ข้อมูลที่เกิดขึ้นใหม่ ส่งสัญญาณที่ดีต่อตำแหน่งงานใหม่และอาชีพใหม่ การใช้ปัญญาประดิษฐ์เพิ่มขึ้น หมายถึงความต้องการในงานที่เกี่ยวข้อง เช่น นักวิเคราะห์ข้อมูลและนักวิทยาศาสตร์ ที่เชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างแนวทางการทำงานที่ดีที่สุดในสถานที่ทำงาน จากรายงานปี 2023 ของ WEF (World Economic Forum) ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ และ machine learning จะเป็นกลุ่มงานที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุด