ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

เอไอ จะมาปรับเปลี่ยนการทำงาน และยกระดับเราได้อย่างไร

เอไอ จะมาปรับเปลี่ยนการทำงาน และยกระดับเราได้อย่างไร Thumb HealthServ.net
เอไอ จะมาปรับเปลี่ยนการทำงาน และยกระดับเราได้อย่างไร ThumbMobile HealthServ.net

BBC เสนอบทความเกี่ยวกับเอไอ เกี่ยวกับมุมมองที่ว่า เอไอจะเข้ามามีบทบาทในหน้าที่การงานประจำวันมากน้อยแค่ไหนอย่างไร (Workplace AI: How artificial intelligence will transform the workday) ความจริงคือ "เอไอมาสู่ชีวิตประจำวันแล้ว" เราคงไม่อาจเลี่ยงหรือปฏิเสธได้ ฉะนั้นอย่าไปกลัว แต่จงเรียนรู้ สนุกและตื่นเต้นไปกับมันจะดีกว่า

 
หลายคนอาจไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเอไอมีมานานหลายปีแล้ว แบบที่เราไม่เห็นตัว มันอยู่เบื้องหลังหลายๆอย่างที่เราใช้งานกันบนอินเตอร์เน็ต (อีเมล์ ระบบค้นหา แอป) กระทั่งการเปิดตัวของ ChatGPT จาก OpenAI นี่แหละ โลกก็รู้จักเอไอแบบเปิดเผย ก้าวจากหลังม่าน มายืนหน้าฉากอย่างองอาจ ผู้คนนับพันล้านหันมามอง ทุกสายตาเสมือนเป็นสปอตไลท์ที่ส่องไปยังพระเอกคนใหม่บนเวทีใหม่ ที่จะมาพร้อมเรื่องราวใหม่ๆ อันน่าตื่นเต้น
 

แต่ความกลัวก็มาพร้อมกันอย่างไม่อาจห้าม 

โดยเฉพาะกับคนที่ไม่เคยสนใจ ไม่คาดคิดว่าชีวิตจะต้องจำเป็นเกี่ยวข้องกับเอไอ กลุ่มนี้เริ่มหวาดผวามากขึ้นเรื่อยๆ 
 
ตัวอย่างของการใช้ "ปัญญาประดิษฐ์แบบสร้างสรรค์" (Generative AI - chatGPT แปล) เกิดขึ้นทุกวันทุกนาที จากผู้ใช้ทั่วโลก ผ่าน chatGPT หรือแอป AI ต่างๆ ที่ผุดราวดอกเห็ด แล้วนำผลงาน เทคนิควิธีการ มาแบ่งปันผ่านสื่อต่างๆ ให้ได้รับรู้และเรียนรู้กันอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างที่เราอาจคุ้นกันแล้ว อาทิ การเขียนจดหมายสมัครงาน สร้างไอเดีย เขียนเรื่อง เขียนหนังสือ เขียนโค๊ด เขียนเพลง สร้างภาพประกอบ สร้างงานศิลปะแบบใหม่ๆ สไตล์ที่แตกต่างไปได้มากมาย เป็นต้น
 
แน่นอนว่างานในสำนักงาน งานซ้ำๆ งานกิจวัตรรายวัน ก็สามารถทำได้ด้วยเอไอแล้ว 
 

บีบีซีชี้ว่า มันจะสร้างผลกระทบใหญ่มากในการจ้างงาน ทั้งฝั่งเจ้าของผู้ประกอบการที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่และนำมาใช้ เพราะบริษัทคู่แข่งก็กำลังทำแบบเดียวกัน ขณะที่การเทคโนโลยีก็พัฒนาตนเองไปเรื่อยๆ แข็งแกร่งขึ้น และซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
 
และแน่นอนที่สุดคือฝั่งลูกจ้างคนทำงานที่ไม่อาจนิ่งเฉย เพราะเมื่อบริษัทนำเทคโนโลยีเข้ามา คนทำงานก็ต้องเรียนรู้อย่างไม่อาจเลี่ยง การพัฒนาทักษะงานเป็นความจำเป็น นี่เองคือผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของมนุษย์งาน เพราะความคาดหวังต่อประสิทธิภาพที่จะต้องมีมากขึ้น
 

บีบีซีเวิร์คไลฟ์ได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสิ่งที่คาดหวังจากปัญญาประดิษฐ์ในที่ทำงานในปัจจุบันและอนาคต
 
 
 
 

ต่อยอดความคิดใหม่ๆ ทางเลือกใหม่ๆ 

 
หนึ่งในความสามารถหลักของ ChatGPT คือบทบาทการเป็นผู้ช่วยส่วนตัว (personal assistant) ทุกคนสามารถมีผู้ช่วยแสนรู้ข้างกายได้ ผู้ช่วยที่จะหาคำตอบที่เราต้องการ ข้อมูลที่มองหา หรือผลลัพธ์บางอย่างที่เกิดจากการประมวลผลเป็นชุดคำตอบ ซึ่งถ้ามันใช้ได้ ดีพอ หรือเหมาะสม ก็อาจเอาไปใช้งานต่อได้ ขยายขอบเขตต่อยอดงานต่อไปได้ 
 
 
"มันช่วยให้คุณสร้างไอเดียใหม่ๆ ได้" คาร์ล เบเนดิกต์ เฟรย์ ผู้อำนวยการภาควิชาอนาคตของการทำงานที่มหาวิทยาลัยออกฟอร์ดกล่าวถึงการใช้แชทจีพีที เขายกตัวอย่างการใช้ในสาขาวิชาของเขาเอง เช่น หาข้อโต้แย้งในงานวิทยานิพนธ์ และเขียนบทคัดย่อสำหรับงานวิจัย หรือ สร้างทวีตเพื่อโปรโมตบทความ
 
"ความเป็นไปได้มีอยู่มหาศาล" เขาย้ำและว่า สำหรับคนทำงานที่มีความรู้ มันคือเครื่องมือต่อยอดความรู้นั้นได้มากมาย
 
 
หลายคนใช้ ChatGPT เพื่อแตกแขนงหรือทดลองทางเลือกต่างๆ เป็นการต่อยอดจากความคิดอันเป็นแกนหลักที่มีอยู่แล้วก็ได้ เช่น ต้องการสร้างภาพมนุษย์อวกาศ แต่เปลี่ยนฉากเป็นยุคสมัยต่างๆ (กรีก โรมัน ไวกิ้ง อาหรับ หรือโลกอนาคต) หรือเปลี่ยนแคแรกเตอร์ หรือโทนสี เป็นต้น
 
 
"ฉันสร้างไอเดียตลอดเวลาและใช้ AI ช่วยเพิ่มเติม" เอธัน มอลลิกซ์ ผู้ศึกษาด้านปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา พูดถึงการใช้ AI  "ฉันใช้มันเพื่อช่วยประมวลผลข้อมูล สรุปสิ่งที่ฉันได้ยิน ในทางปฏิบัติมันเป็นเหมือนพาร์ทเนอร์ของฉัน"
 
การใช้ปัญญาประดิษฐ์แบบสร้างสรรค์ (Generative AI) คือโอกาสพัฒนาและยกระดับการทำงาน เป็นเครื่องมือขยายแนวคิด ปรับปรุงกระบวนการทำงานประจำวัน ตลอดจนช่วยพัฒนาโครงการและเป้าหมายระยะยาวได้
 
 
 
 

เพิ่มความแม่นยำ ลดทอนอคติ

 
ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นภาพกว้างๆ และแง่ประโยชน์ของการใช้เอไอในการทำงานโดยรวม เมื่อมองลึกลงไปในรายละเอียด จะพบว่าเอไอช่วยได้อีกหลายประการในสิ่งที่ "ผู้คนอาจจะหรือมักจะมองข้าม"  อาทิเช่น ใช้ AI ตรวจหาความไม่ถูกต้องหรือผิดพลาดในข้อความ โค๊ดโปรแกรมที่เขียนขึ้น หรือแม้แต่การหลีกเลี่ยงความลำเอียงและอคติที่มีอยู่ในงานโดยไม่รู้ตัวก็ได้ 
 
 
ประเด็นแง่มุมเรื่องอคตินั้นสำคัญ บีบีซี อธิบายตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้น เช่น ผู้วิเคราะห์ข้อมูลอาจตีความไปในทิศทางที่ตนเองมีคติอยู่ และพยายามที่จะหาข้อมูลมาสนับสนุนคติ ความเชื่อนั้น เป็นต้น 
 
 
แอนนา ซาโลมอนส์ ภาควิชาเศรษฐศาสตร์โรงเรียนมหาวิทยาลัยออเตร็กต์ประเทศเนเธอร์แลนด์อธิบายว่า ปัญญาประดิษฐ์สามารถตีความข้อมูลได้โดยไม่มีผลกระทบของความลำเอียงและให้การวิเคราะห์ภาพรวมที่ละเอียดยิบมากขึ้น
 
 
กระนั้นความสามารถในการ "วินิจฉัยปัญหาได้เร็วขึ้นและดีกว่า" จะไม่สามารถมาแทนที่ "ความเชี่ยวชาญ" ได้ - ในขณะที่ปัญญาประดิษฐ์สามารถระบุปัญหาได้ มนุษย์ยังคงต้องแก้ไขปัญหาเหล่านั้น แต่ปัญญาประดิษฐ์สร้างสรรค์สามารถระบุปัญหาเหล่านี้ได้เร็วกว่าและบ่อยครั้งแม่นยำกว่ามนุษย์เท่านั้น - ซาโลมอนส์ กล่าวเสริม
 
 
 
แม้ว่าเทคโนโลยีนี้ยังห่างไกลกับคำว่าสมบูรณ์แบบ  แต่มันได้เริ่มสร้างรากฐานใหม่ให้กับการทำงานไปแล้ว การทำงานที่คาดหวังได้ ถึงผลลัพธ์และการปัญหาต่างๆ ที่เหนือไปกว่าการใช้เพียงประสบการณ์เฉพาะบุคคลแบบที่เคยเป็นมา  การทำงานที่จะสร้างโอกาสใหม่ๆ เป็นอิสระที่เกิดจากการผสานความรู้แบบสหสาขาเข้ามาเป็นหนึ่งเดียวกันได้  เหล่นี้นี่คือจุดแข็งที่ปัญญาประดิษฐ์เป็น และมอบให้ได้
 

ChatGPT และโมเดลเรียนรู้ (machine learning models) กำลังก้าวหน้าพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับชุดข้อมูลที่เพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ  นั่นหมายความว่าเทคโนโลยีสามารถตรวจจับความลำเอียง  มองหาข้อผิดพลาดและ ตรวจพบความผิดพลาดได้มากขึ้น
 
 
 

เพิ่มงาน สร้างอาชีพใหม่

 
หนึ่งในความกังวลหลักเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์คือกลัวว่ามันมาแย่งงานมนุษย์ไป ข้อมูลบางส่วนยืนยันว่าเทคโนโลยีนี้จะมีผลต่องานในขอบเขตที่กว้างขวาง ในเดือนมีนาคม โกลด์แมน แซ็กส์รายงานว่าปัญญาประดิษฐ์อาจแทนที่งานเต็มเวลาเทียบเท่ากับ 300 ล้านงาน อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ไม่ควรกังวลจนเกินไป เพราะการเปลี่ยนแปลงนี้ อาจจะสร้างโอกาสงานใหม่ก็ได้
 

เอธัน มอลลิก์ มองว่า "โดยทั่วไป การปรับเปลี่ยนระบบ จะสร้างความสับสนวุ่นวาย (ถึงขั้นตื่นตระหนก) ในระยะแรก และจะสร้างงานมากขึ้นในระยะยาว" จากงานวิจัยปี 2021 ที่ซาโลมอนส์ร่วมเขียน ชี้ให้เห็นว่า 60% ของงานที่ทำในปัจจุบัน เป็นงานที่ไม่เคยมีในปี 1940 ระบบอุตสาหกรรมและระบบอัตโนมัติ  นำไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ที่ใหญ่ขึ้น อย่าง อุตสาหกรรมยานยนต์และคอมพิวเตอร์  เมื่อเกิดอุตสาหกรรมใหม่ๆ  นั่นคือการสร้างและเพิ่มงานใหม่เข้ามา  ตั้งแต่งานของคนขับรถจนถึงนักออกแบบเว็บไซต์
 
 
ไม่มีใครรู้ว่าแนวโน้มจะดำเนินต่อไปอย่างไร ข้อมูลที่เกิดขึ้นใหม่ ส่งสัญญาณที่ดีต่อตำแหน่งงานใหม่และอาชีพใหม่  การใช้ปัญญาประดิษฐ์เพิ่มขึ้น หมายถึงความต้องการในงานที่เกี่ยวข้อง เช่น นักวิเคราะห์ข้อมูลและนักวิทยาศาสตร์ ที่เชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างแนวทางการทำงานที่ดีที่สุดในสถานที่ทำงาน  จากรายงานปี 2023 ของ WEF (World Economic Forum) ระบุว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญญาประดิษฐ์ และ machine learning จะเป็นกลุ่มงานที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุด
 

ผลักดันคนทำงานให้มีความเชี่ยวชาญในปัญญาประดิษฐ์

 
ในขณะที่บางคนกระโจนเข้าหาเทคโนโลยีเอไออย่างเต็มที่ แต่กับบางคนก็กลัวที่จะเริ่มต้น 

แต่ในที่สุด เมื่อมีการนำเอไอมาใช้ในที่ทำงานแล้ว คนทำงานจำเป็นจะต้องเรียนรู้ที่จะใช้มันในที่สุด เพราะบริษัทคงไม่ยอมให้ตนเองถูกคู่แข่งทิ้งไปแน่
 
"ต้องกระตุ้นย้ำให้พวกเขาเริ่มใช้" เอธัน มอลลิก์ พูดถึงการโน้มนำให้คนใช้เทคโนโลยีและประโยชน์ที่จะตามมาว่า เมื่อพวกเขาเริ่มใช้เป็นจนชำนาญ เขาก็จะพบว่าตนเองนั้นอยู่ในจุดที่ล้ำหน้า เพราะทักษะเหล่านนั้น สร้างประโยชน์ให้กับบริษัทได้  และนั่นหมายถึงแต้มต่อที่มากขึ้นของเขาในบริษัทเอง
 
ส่วนคนที่ไม่อยากสุงสิงกับเทคโนโลยีใหม่ในตอนแรก  อาจจะถูกมองว่า ไม่สนใจ หรือไม่สามารถปรับตัวได้ ซึ่งไม่นานเขาพบว่า ทักษะของตนนั้นถดถอยลงอย่างรวดเร็ว และอาจเสียงานไปในที่สุด 

ดังนั้นการปรับตัว จะเป็นการรักษางานเอาไว้  ผลที่ได้คือ เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตภาพ พร้อมๆ กับทักษะที่เพิ่มพูนขึ้น
 

เมื่อปัญญาประดิษฐ์จะกลายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของงานประจำวัน การผลักดันให้คนทำงานมีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีจึงเป็นความจำเป็นที่ไม่อาจเลี่ยง  เมื่อคนทำงานมีความรู้และความสามารถที่ดีขึ้น ใช้เทคโนโลยีเอไอเพื่อเป็นเครื่องมือเสริมทักษะปัจจุบันของพวกเขาได้  การสร้างความคุ้นเคยกับเทคโนโลยีนี้ยังช่วยให้พวกเขาสามารถเติบโตและพัฒนาทักษะเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็ว 
 


ปัญญาประดิษฐ์กำลังเติบโตต่อไปอย่างรวดเร็ว ศักยภาพที่แท้จริงของมันยังไม่เป็นที่ปรากฎชัด ผู้เชี่ยวชาญต่างหวังว่า มันจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด การยกระดับศักยภาพและประสิทธิภาพคนทำงานไปสู่ระดับที่สูงขึ้น 
 
 
"ถ้าจะให้เยี่ยมที่สุด  เราหวังว่าเทคโนโลยีนี้จะสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อุตสาหกรรมใหม่ๆ และสายงานใหม่ๆ ความท้าทายของอนาคต - การใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการสร้างสิ่งใหม่และสิ่งที่ไม่เคยคิดถึงมาก่อน" คาร์ล เบเนดิกต์ เฟรย์ ทิ้งท้ายไว้ด้วยความหวัง
 
 
 
Reference : BBC Workplace AI: How artificial intelligence will transform the workday 17th May 2023  แปลโดย chatGPT ขัดเกลา โดยมนุษย์ 

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด