ตำรวจ บก.ปอท. จัดทำข้อมูลเตือนภัย เพื่อประชาชนควรทราบและระมัดระวัง สังเกตเบอร์โทร เข้า ที่มี เครื่องหมาย + หน้า เบอร์ โทร
เบอร์โทร ที่มี เครื่องหมาย + ด้านหน้า หมายถึงว่า เบอร์นั้น โทร มาจากต่างประเทศ
การโทรมาจากต่างประเทศ มีเลขชุด + ขึ้นต้น ที่ต้องสังเกต ดังนี้
1. ขึ้นด้วย +698 หรือ ขึ้นด้วย +66 เป็น สายที่ "โทรจากเบอร์มือถือไทยที่ใช้บริการโรมมิ่งจากต่างประเทศ "
2. ขึ้นด้วย +697 เป็นสายที่ "โทรผ่านระบบ VOIP (Voice over Internet Protocal) เข้ามาจากต่างประเทศ"
ให้ระวัง เพราะ อาจเป็นมิจฉาชีพ ก็ได้
เนื่องจาก ปัจจุบัน มิจฉาชีพ จะมีฐานปฏิบัติการอยู่นอกประเทศไทย อาจอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศอื่นๆ แล้ว ใช้การ โทร. เข้ามา จากทั้งสองแบบข้างต้น นั่นเอง
กสทช. ยืนยัน เบอร์ที่ขึ้นต้นด้วย +697 เป็นเบอร์ที่โทรจากต่างประเทศและเป็นมิจฉาชีพ จริง
ตามที่มีการเผยพร่ข้อมูลประเด็นเรื่องกสทช. กำหนดเบอร์ที่ขึ้นต้นด้วย +697 เป็นเบอร์ที่โทรจากต่างประเทศและเป็นมิจฉาชีพ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง
สำนักงาน กสทช. ขอแจ้งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง เรื่อง กสทช. กำหนดเบอร์ที่ขึ้นต้นด้วย +697 เป็นเบอร์ที่โทรจากต่างประเทศและเป็นมิจฉาชีพ ดังนี้ สำนักงาน กสทช. ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็น ความจริง โดยสำนักงานฯ ได้ออกมาตรการให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกราย ใส่เครื่องหมาย + นำหน้าเบอร์ที่โทรมาจากต่างประเทศ เพื่อให้เป็นที่สังเกตของประชาชน เพื่อให้ประชาชนระมัดระวัง อย่ารับสาย เพื่อป้องกันการถูกมิจฉาชีพหลอกลวง
ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม
เพิ่มเติมเกี่ยวกับเบอร์โรมมิ่ง และวิธีระมัดระวัง
กสทช. ให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ ผู้ให้บริการ Call Termination และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะต้องเพิ่มเครื่องหมาย +698 นำหน้าสายที่โทรจากเบอร์โทรศัพท์ของไทยที่ใช้บริการโรมมิ่งโทรกลับมาจากต่างประเทศ (ยกเว้นกรณีสายที่มาจากประเทศที่ใช้งานรหัสประเทศ ตามที่สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) กำหนด ก็ให้แสดงรหัสประเทศของประเทศนั้นๆ) เพื่อให้ประชาชนทราบว่าเป็นสายที่โทรมาจากต่างประเทศ และใช้ความระมัดระวังในการรับสาย หากไม่มีญาติหรือคนรู้จักอยู่ต่างประเทศ สามารถปฏิเสธการรับสายนั้นได้ โดยเบอร์โทรศัพท์ที่นำหน้าด้วย +698 จะไม่สามารถโทรกลับได้ หากจะโทรกลับต้องตัด “+698” ออก แล้วเติมด้วย “0” และจะแสดงแค่หมายเลข แม้จะบันทึกชื่อและหมายเลขไว้ก็ตาม จึงขอให้ประชาชนสังเกตเบอร์ที่โทรเข้าก่อนรับสาย ปัจจุบันมิจฉาชีพได้ปรับเปลี่ยนวิธีการหลอกลวงประชาชนอยู่ตลอดเวลา กสทช. จึงขอให้ประชาชนใช้ความระมัดระวัง มีสติ อย่าตกใจ ไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลทางการเงิน และรหัสผ่านต่างๆ รวมทั้งอย่าหลงเชื่อ
ระมัดระวังอย่างไร
เพื่อเป็นการป้องกันการถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพไม่ควรรับเบอร์โทรศัพท์ที่ขึ้นต้นในรูปแบบดังกล่าว และไม่ควรติดต่อกลับไปเพื่อป้องการเสียค่าใช้จ่ายจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือจากการโทรระหว่างประเทศ
ตำรวจ บก.ปอท. แนะนำว่า ให้ตั้งสติ ใช้ความระมัดระวังในการรับสายที่ขึ้นต้นด้วยเครื่องหมาย +
- ถ้าไม่ได้ติดต่อธุระที่ต่างประเทศ
- ถ้าไม่มีญาติพี่น้องอยู่ต่างประเทศ
- ถ้าไม่มีการทำธุรกรรมระหว่างต่างประเทศ
- หากน่าสงสัย วางสายทันที
หากปลายสายบอกให้โอนเงิน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นมิจฉาชีพ หากมีการอ้างถึงหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการเงิน หรือบริษัทขนส่งต่างๆ ให้ขอหมายเลขติดต่อกลับและวางสายและตรวจสอบข้อมูลไปยังหน่วยงานหรือสถาบันการเงินที่ถูกอ้างถึง หน่วยงานของรัฐไม่มีนโยบายการติดตามหรือดำเนินคดีผ่านการโทรศัพท์หรือวีดีโอคอลหาประชาชน
หากพบเบอร์โทรที่น่าสงสัย สามารถแจ้งไปยัง NT contact center 1888 เพื่อระงับการโทรจากเบอร์โทรดังกล่าว หรือหากถูกมิจฉาชีพหลอกลวงสามารถเข้าแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจ
ข้อมูลจาก ตำรวจ บก.ปอท. กสทช. และ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT
วิธีการตรวจสอบเบอร์แปลก ของแต่ละเครือข่ายมือถือ
ตรวจสอบเบอร์แปลก แต่ละเครือข่ายมือถือ เครือข่ายมือถือแต่ละแห่ง มีการรองรับหากลูกค้าได้รับการติดต่อจากเบอร์โทรแปลก หรือมิจฉาชีพโทรมาก่อกวน ผ่านหมายเลขโทรศัพท์ Call Center ดังนี้
- เช็กเบอร์ AIS : กด *727* เบอร์โทรศัพท์# กดโทรออก
- เช็กเบอร์ DTAC : กด *102*เบอร์โทรศัพท์# กดโทรออก
- เช็กเบอร์ TRUE : กด *933*เบอร์โทรศัพท์# กดโทรออก
- เช็กเบอร์ TOT : กด *153*เบอร์โทรศัพท์# กดโทรออก
มาตรการ แก้ไขปัญหาแก๊ง Call Center หลอกลวง
นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาแก๊ง Call Center หลอกลวงประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล โดยได้กำชับผู้ให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ (IDD) ทั้ง 6 ราย
ได้แก่ บริษัท เอไอเอ็น โกลบอลคอม จำกัด บริษัท ดีแท็ค ไตรเน็ต จำกัด บริษัทแอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ท จำกัด บริษัท โอทาโร่ เวิลด์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัททรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ดำเนินการการแก้ไขปัญหาแก๊ง Call Center หลอกลวงอย่างเคร่งครัด โดยได้กำหนดมาตรการ ดังนี้
1.ระงับสายโทรเข้ามาจากต่างประเทศที่มีรูปแบบของเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็น เบอร์โทรศัพท์บ้าน เบอร์โทรศัพท์สั้น 3 หลัก และเบอร์โทรศัพท์สั้น 4 หลัก ของประเทศไทย ที่โทรมายังเลขหมายปลายทางของประเทศไทย
2.ระงับสายโทรเข้ามาจากต่างประเทศที่มีรูปแบบของเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นรหัสโทรศัพท์ประจำประเทศ (Country Code) ที่สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ยังไม่ได้จัดสรรให้กับประเทศใด
3.ดำเนินการตรวจสอบสายโทรเข้ามาจากต่างประเทศที่ผิดกฎหมาย ว่ามีการดัดแปลงเลขหมายหรือไม่ ด้วยระบบ Test Call Generator (TCG) อย่างต่อเนื่อง
4.ในกรณีที่สายโทรเข้ามาจากต่างประเทศไม่ได้มีการกำหนดเลขหมายต้นทาง (Non Calling Line Identification) ให้ดำเนินการเพิ่มเครื่องหมาย +66 นำหน้าเบอร์โทรศัพท์ เพื่อให้ประชาชนทราบว่าเป็นการโทรเข้ามาจากต่างประเทศ
“มาตรการที่สำนักงาน กสทช. ย้ำผู้ให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ (IDD) ทั้ง 6 ราย ดำเนินการข้างต้น จะช่วยทำให้ประชาชนแยกแยะได้ว่า สายที่โทรเข้ามาเป็นสายที่โทรมาจากต่างประเทศ จะได้ไม่เผลอรับสายที่อาจเป็นสายจากแก๊ง Call Center ที่โทรศัพท์มาหลอกลวง” นายไตรรัตน์ กล่าว
PPTV