ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

Sculptra, Radiesse และ Made Collagen: ทำความรู้จัก 3 หัตถการความงามช่วยเสริมคอลลาเจนให้ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ

Sculptra, Radiesse และ Made Collagen: ทำความรู้จัก 3 หัตถการความงามช่วยเสริมคอลลาเจนให้ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ Thumb HealthServ.net
Sculptra, Radiesse และ Made Collagen: ทำความรู้จัก 3 หัตถการความงามช่วยเสริมคอลลาเจนให้ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ ThumbMobile HealthServ.net

Sculptra, Radiesse และ Made Collagen: ทำความรู้จัก 3 หัตถการความงามช่วยเสริมคอลลาเจนให้ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ

Sculptra, Radiesse และ Made Collagen: ทำความรู้จัก 3 หัตถการความงามช่วยเสริมคอลลาเจนให้ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ HealthServ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทรนด์ Healthy & Beauty เป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงในกลุ่มสาวๆ โดยเฉพาะสาวๆ วัยกลางคนในปัจจุบัน โดยนอกจากจะโฟกัสกับสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วย หรือปวดเมื่อยบ่อยๆ แล้ว การพยายามดูแลรักษาให้ผิวดูอ่อนเยาว์ เรียบเนียนกระชับ เต่งตึง อิ่มฟูอยู่เสมอก็เป็นสิ่งที่สาวๆ ให้ความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะยิ่งอายุมากขึ้น ร่างกายก็จะยิ่งทำงานได้น้อยลง ช้าลง อย่างการผลิตคอลลาเจนที่จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด เส้นใยคอลลาเจนมีความอ่อนแอ ทำให้ผิวหน้าที่เคยตึงกระชับ ค่อยๆ หย่อนคล้อย และมีริ้วรอยเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง

การกระตุ้นหรือเสริมคอลลาเจนให้ผิวดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอมีหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการปรับไลฟ์สไตล์พักผ่อนให้เพียงพอ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การทาเซรั่มบำรุง การสปาผิว รวมถึงการทำหัตถการความงามด้วยเทคโนโลยีการแพทย์แบบใหม่ นวัตกรรมที่สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้อย่างล้ำลึก ตรงจุดมากขึ้น โดยในปัจจุบันเรามีหัตถการความงามที่ช่วยกระตุ้นหรือเสริมคอลลาเจนให้ผิวดูอ่อนเยาว์หลากหลายรูปแบบ และแต่ละรูปแบบก็มีจุดเด่นที่ต่างกัน สำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกทำหัตถการความงามแบบไหนดี? วันนี้เราได้ยก 3 หัตถการความงามยอดนิยม อย่าง Sculptra, Radiesse และ Made Collagen มาให้ทุกคนได้รู้จักมากขึ้น สามารถตัดสินใจเลือกให้เหมาะกับตนเองมากที่สุดมาไว้ที่นี่แล้ว ตามมาดูพร้อมๆ กันเลย


Sculptra  

มาเริ่มกันด้วย Sculptra สารฉีดกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ในแวดวง Skin Booster ในขณะนี้ โดยมีส่วนประกอบสำคัญ คือ Poly-L-Lactic acid (PLLA) สารอุ้มน้ำที่มีความเข้ากันได้กับเนื้อเยื่อในร่างกายและสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติที่จัดอยู่ในกลุ่ม Collagen Biostimulato ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในชั้นผิวให้ขึ้นมาทดแทนคอลลาเจนเดิมที่เสียไป ช่วยให้ผิวกระชับมากขึ้น เต่งตึงมากขึ้น ริ้วรอยลดลง ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญ Scul[tra ยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ด้วย ทำให้เราสามารถมั่นใจในด้านความปลอดภัยและผลลัพธ์ หากมีการฉีดในบริเวณที่เหมาะสม และฉีดโดยแพทย์มากประสบการณ์ 

Sculptra ฉีดที่จุดไหนได้บ้าง
ในการฉีด Sculptra นั้น เราสามารถเลือกได้ว่าอยากจะกระตุ้นคอลลาเจนส่วนไหนของใบหน้าเป็นพิเศษ โดยสามารถฉีดได้ทั้งบริเวณหน้าแก้ม ขมับ ร่องแก้ม กรอบใบหน้า หรือจุดที่มักจะดูหย่อนคล้อย มีริ้วรอย เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นได้เลย เพื่อฟื้นความเต่งตึง กระชับ ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง แต่ไม่ควรฉีดบริเวณ T-Zone ได้แก่ หน้าผาก จมูก ใต้ตา ร่องแก้ม ปาก เพราะจุดเหล่านี้เป็นจุดที่มีความบอบบางมาก อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้นั่นเอง 

Sculptra เหมาะกับใคร มีข้อดีอย่างไร 
Sculptra เป็นตัวช่วยฟื้นฟูและกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิว คุณสมบัติของ Sculptra หลักๆ จึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อย มีริ้วรอย หรือร่างกายสามารถผลิตคอลลาเจนได้น้อยเป็นพิเศษ มาเช็กกันดีกว่าว่าเรามีสภาพผิวและปัญหาแบบใด และเหมาะที่จะทำ Sculptra หรือไม่
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ใบหน้าดูทรุดโทรม 
    หากเป็นผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่ยืดหยุ่น ไม่ว่าจะมาจากพันธุกรรม การพักผ่อนน้อย หรือการสูบบุหรี่จัด การฉีด Sculptra สามาถช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนที่ขาดหายไป พร้อมทั้งปรับผิวให้กระชับขึ้น ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นเป็นธรรมชาติ 
     
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้สมส่วน ได้รูป 
    ไม่ว่าจะเป็นปัญหาใบหน้าโทรม แก้มตอบ ขมับยุบเป็นแอ่งลึก และปัญหากรอบหน้าบิดเบี้ยว Sculptra สามารถช่วยปรับรูปทรงของใบหน้าสมส่วนได้มากขึ้น ทำให้ใบหน้าดูอิ่มฟู และผิวดูอ่อนเยาว์มากขึ้น 
     
  • ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสภาพผิว 
    เนื่องจาก Sculptra มีคุณสมบัติในการกระตุ้นคอลลาเจน จึงสามารถฟื้นฟูผิวให้แก่ผู้ที่มีปัญหาผิวในลักษณะต่างๆ  ไม่ว่าจะหยาบกร้าน ดูไม่เนียนละเอียด รวมไปถึงผิวที่เป็นรอยจากสิวให้กลับมาเนียนใส ดูสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น 
     
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนาน และให้ผลลัพธ์ไว
    อีกหนึ่งจุดเด่นของ Sculptra คือการให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานและค่อนข้างคงทน โดยมีกระบวนการทำงานแบบค่อยๆ ไล่ระดับ สังเกตเห็นผลลัพธ์ได้ภายใน 3-4 สัปดาห์ หลังทำการฉีด (ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามช่วงอายุและการตอบสนองต่อการรักษาด้วย) นอกจากนี้ยังสามารถให้ผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้นานถึง 2 ปี โดยที่ผู้เข้ารับบริการไม่ต้องฉีดบ่อยๆ เหมือนกับหัตถการวิธีอื่นๆ 
ข้อเสียของการฉีด Sculptra
ในแง่ผลเสีย อย่างที่เราบอกไป Sculptra เป็นสารที่สามารถสลายจากร่างกายได้ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องผลเสียที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย มีเพียงผลข้างเคียงที่อาจได้รับเท่านั้น ได้แก่ อาการหลังฉีด ผิวที่ทำการฉีดอาจจะมีรอยช้ำนิดหน่อย ซึ่งจะหายไปเองภายในสองสามวัน หรือผลข้างเคียงอื่นๆ เช่น มีก้อนเล็กๆ บริเวณใต้ผิวหนัง หรือผิวหนังเปลี่ยนสี แต่อาการเหล่านี้สามารถบรรเทาได้ผ่านการนวดอย่างสม่ำเสมอ  


Radiesse

ถัดมากับ Radiesse สารเติมเต็มชนิดหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นใยผิวได้ดี มีส่วนประกอบหลักคือสาร CaHA microsphere ซึ่งเป็นสารที่พบได้ในร่างกายโดยธรรมชาติและย่อยสลายไปตามธรรมชาติเช่นเดียวกับ Scupltra ทำให้ Radiesse มีความปลอดภัยสูง เข้ากันได้ดีกับร่างกาย โดยผ่านการรับรองจาก 3 หน่วยงาน ได้แก่ EU, US และ TH FDA Radiesse Filler มีผลช่วยฟื้นฟูการทำงานของ Fibroblast ทำให้มีการกระตุ้นสร้างคอลลาเจน ทั้ง Collagen Type I (1, 2) และ Collage Type III ช่วยเสริมความแข็งแรงให้เซลล์ผิวกระชับ ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติได้นั่นเอง

Radiesse ฉีดที่จุดไหนได้บ้าง
Radiesse สามารถแก้ปัญหาได้ทั้งบริเวณใบหน้าและส่วนของร่างกายบางจุดเลย แต่จะนิยมใช้แก้ไขปัญหาผิวไม่กระชับ หย่อนคล้อยที่บริเวณใบหน้ามากกว่า ได้แก่ บริเวณใบหน้าที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอยต่างๆ หลังมือ และคอ แต่ไม่ควรฉีดบริเวณริมฝีปากโดยตรงเหมือนกับฟิลเลอร์ เพราะเป็นจุดที่บอบบาง อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น ตุ่มขึ้น ผิวไม่สม่ำเสมอขึ้นได้

Radiesse เหมาะกับใคร มีข้อดีอย่างไร 
สำหรับข้อดีของ Radiesse และกลุ่มที่เหมาะกับการกระตุ้นคอลลาเจนด้วย Radiesse ได้แก่ 
  • ผู้มีปัญหาริ้วรอยเล็กๆ และร่องลึกบริเวณใบหน้า
    แม้จะเป็นริ้วรอยเล็กๆ แต่หากปรากฏอยู่บนใบหน้า ก็อาจทำให้ภาพรวมของใบหน้าดูโทรม และดูมีอายุมากกว่าวัยได้ การฉีด Radiesse สามารถช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนที่ขาดหายไป ปรับผิวให้กระชับขึ้น ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์มากขึ้น 
     
  • ผู้ที่อายุ 35 ปีขึ้นไป เริ่มมีปัญหาผิวเสื่อมสภาพตามวัย
    แน่นอนว่าเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะอายุที่มากกว่า 35 ปีขึ้นไป จะเริ่มเผชิญกับปัญหาผิวเสื่อมสภาพตามวัย มีริ้วรอย ความเหี่ยวหย่น รอยสิวหายได้ช้ามากกว่าปกติ Radiesse สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้มาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป ให้ผิวกลับมาเรียนเนียน ดูกระชับมากขึ้น
     
  • ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาผิวกึ่งถาวร ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 
    อีกข้อดีของ Radiesse คือ ให้ผลลัพธ์ผิวหลังฉีดทันที โดยผลลัพธ์จะค่อยๆ ไล่ระดับ หากมีการเติมเต็มอย่างสม่ำเสมอ สามารถให้ผลลัพธ์ได้ค่อนข้างยาวนานเลย 
ข้อเสียของ Radiesse
ผลเสียของ Radiesse นั้นคล้ายคลึงกับ Sculptra คือไม่มีผลเสียต่อร่างกายเพราะเป็นสารที่สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ แต่อาจมีผลข้างเคียงที่ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เช่น อาจมีรอยแดงหรือรอยเขียวช้ำเกิดแบบชั่วคราว อาการคันบริเวณที่ฉีดได้ ซึ่งสามารถหายได้เองใน 1-2 วัน นอกจากนี้อาจมีการเปลี่ยนสี เช่น ผิวซีดลงในบริเวณที่ทำการรักษา หากเป็นในกรณีนี้ให้รีบปรึกษาแพทย์ทันที


Made Collagen

และหัตถการความงามที่ช่วยกระตุ้นหรือเสริมคอลลาเจนให้ผิวดูอ่อนเยาว์อีกตัวหนึ่งที่เราหยิบยกมาในวันนี้ก็คือ Made Collagen หรือมาเด้ คอลลาเจน สารสกัดจากธรรมชาติที่มีส่วนประกอบของวิตามิน แร่ธาตุ เอนไซม์ พลาเซนต้าและคอลลาเจน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวหน้าให้กระชับ เรียบเนียนมากขึ้น แต่มาเด้ คอลลาเจนนั้นจะแตกต่างจาก  Sculptra และ Radiesse ตรงที่  จะเน้นไปในเรื่องของการรักษาสิว กำจัดของเสียบริเวณผิวหน้า และเสริมความแข็งแรงให้กับผิวหน้านั่นเอง

Made Collagen ฉีดที่จุดไหนได้บ้าง
สำหรับการฉีด Made Collagen จะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิก โดยส่วนใหญ่จะฉีดโดยใช้เทคนิคฉีดตามจุดฝังเข็ม16 จุดทั่วๆ ใบหน้า ตามทิศทางการไหลของน้ำเหลือง เพื่อกระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำเหลือง ทั้งเป็นจุดที่สามารถกระจายตัวยาและส่งเสริมการไหลเวียนได้ดีตามหลัก Lymphatic Drainage ทำให้ออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากที่สุด

Made Collagen เหมาะกับใคร มีข้อดีอย่างไร
Made Collagen มีส่วนประกอบของวิตามิน แร่ธาตุ เอนไซม์ พลาเซนต้า และคอลลาเจน จึงสามารถแก้ไขปัญหาสภาพผิวได้หลากหลายรูปแบบ ได้แก่ผู้ที่มีปัญหาสิว
  • Made Collagen สามารถเข้าไปปรับประดับฮอร์โมนได้ จึงช่วยให้ปัญหาสิวต่างๆ ลดลงได้ ไม่ว่าจะเป็นสิวเรื้อรัง สิวผด สิวอักเสบ สิวอุดตัน ผดผื่นแดง 
     
  • ผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาริ้วรอย ผิวหยาบกร้าน ไม่เรียบเนียน
    ริ้วรอย ผิวหยาบกร้าน ไม่เรียบเนียน คือ ปัญหาที่ทำให้ดูมีอายุมากกว่าวัยอันควร ผิวดูโทรม Made Collagen จะบำรุงและฟื้นฟูผิวให้มีความชุ่มชื่น เต่งตึง ผิวดูอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น 
     
  • ผู้ที่มีผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย ผิวแห้ง 
    Made Collagen มีความอ่อนโยนต่อผิวพรรณ จึงเหมาะกับผู้ที่มีผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย ผิวแห้ง 
ข้อเสียของ Made Collagen 
ถึงแม้การฉีด Made Collagen จะมีความปลอดภัยสูง ได้รับการรองรับ แต่สำหรับในบางกรณีก็อาจเกิดผลข้างเคียงตามมาได้เช่นกัน เช่น รอยแดง หรือตุ่มนูนจากรอยเข็ม ซึ่งจะหายได้เองในไม่กี่ชั่วโมง นอกจากนี้อาจมีปัญหารอยช้ำหรือรอยแดงที่สามารถใช้การประคบเย็นช่วยได้ นอกจากนี้ต้องระวังเรื่องการฉีดตัว Made Collagen ของปลอม ที่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงอันตราย ก่อให้เกิดอาการแพ้ บวมแดง หรือเกิดการอักเสบติดเชื้อได้


เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 3 หัตถการความงามที่ช่วยกระตุ้นหรือเสริมคอลลาเจนให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ส่วนหนึ่งที่เรานำมาฝากกัน จะเห็นว่าแต่ละรูปแบบมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน สำหรับ Sculptra และ Radiesse จะเน้นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ผิวหน้ามาทดแทนในส่วนที่ขาดหายไป หรือร่างกายผลิตได้น้อยลง ทำให้ใบหน้าที่หย่อนคล้อย มีริ้วรอย กลับมากระชับ เต่งตึงมากขึ้น แถมให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและค่อนข้างยาวนาน ส่วน Made Collagen นั้นจะเป็นการเติมส่วนประกอบสำคัญให้ผิว จึงเหมาะกับผิวที่เป็นสิว แพ้ง่ายเป็นพิเศษนั่นเอง 
 
แม้ว่าเราจะพยายามดูแลผิวหน้าให้มีสุขภาพดีแค่ไหนก็ตาม แต่เมื่ออายุมากขึ้น กระบวนการผลิตคอลลาเจนในชั้นผิวก็จะค่อยๆ ลดลง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติที่ไม่สามารถกำหนดได้ การทำหัตถการความงามเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ตอบโจทย์ ช่วยทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ หรือฟิ้นฟูผิวที่มีริ้วรอย หย่อนคล้อยกลับมาเต่งตึง อิ่มฟู กระชับอีกครั้ง สำหรับคนที่สนใจอยากทำหัตถการความงาม อยากอ่านข้อมูลแบบ Insight เพิ่มเติม รวมถึงค่าใช้จ่ายว่าการทำ Made Collagen Radiesse และ Sculptra ราคาเท่าไหร่ สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ Better Me Clinic By Dr.Chanya คลินิกศัลยกรรมตกแต่งเสริมความงามชั้นนำ หรือเข้ามาปรึกษากับคุณหมอชัญญา แพทย์และผู้บริหารประจำคลินิกดูแลเองอย่างใกล้ชิด เราพร้อมให้คำปรึกษาและการบริการอย่างน่าประทับใจ ให้ทุกคนมั่นใจในเรื่องผิวพรรณและใบหน้าที่แมตช์กับตนเองมากที่สุด 
 
ติดต่อ | สอบถามเพิ่มเติม
Line : @bettermeclinic
โทร. 02-059-8118,088-603-2641
Facebook | Instagram : Better Me Clinic by Dr.Chanya
 

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด