ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

ข้อเท็จจริง ลิ่มเลือดสีขาว (White clot) และวัคซีนโควิด19 ชนิด mRNA - สถาบันวัคซีนแห่งชาติ

ข้อเท็จจริง ลิ่มเลือดสีขาว (White clot) และวัคซีนโควิด19 ชนิด mRNA - สถาบันวัคซีนแห่งชาติ HealthServ.net
ข้อเท็จจริง ลิ่มเลือดสีขาว (White clot) และวัคซีนโควิด19 ชนิด mRNA - สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ThumbMobile HealthServ.net

21 กุมภาพันธ์ 2567 สถาบันวัคซีนแห่งชาติออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นเรื่อง ลิ่มเลือดสีขาว (White clot) ที่มีข้อสงสัยและปรากฏในสื่อว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนโควิด19 ชนิด mRNA

ข้อเท็จจริง ลิ่มเลือดสีขาว (White clot) และวัคซีนโควิด19 ชนิด mRNA - สถาบันวัคซีนแห่งชาติ HealthServ
     ชี้แจงข้อเท็จจริง. เรื่อง ลิ่มเลือดสีขาว (White clot) และวัคซีนโควิด 19 ชนิด mRNA

    จากกรณีที่มีการเผยแพร่และส่งต่อข้อมูลเกี่ยวกับการพบสิ่งแปลกปลอมซึ่งมีลักษณะเป็นลิ่มเลือดสีขาว (White clot) ในหลอดเลือดผู้เสียชีวิตที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 และระบุว่าสามารถพบสิ่งแปลกปลอมนี้ได้ใน ผู้ที่ยังมีชีวิตที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนในวงกว้าง สถาบันวัคซีน แห่งชาติและภาคีเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญไม่ได้นิ่งนอนใจกับประเด็นกังวลดังกล่าว จึงได้ประสานไปยังแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ และผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง ได้รับข้อมูลดังนี้
 
 
    รูปสิ่งแปลกปลอมที่อ้างถึงไม่ใช่ความผิดปกติของเลือดที่เกิดจากการฉีดวัคซีน mRNA แต่อย่างใด เป็นเพียงการตกตะกอนของโปรตีนส่วนประกอบของเลือดที่เกิดขึ้นภายหลังการตาย (ลิ่มเลือดภายหลังการ ตาย, postmortem blood clot) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่พบได้เป็นปกติในผู้เสียชีวิต และพบ มาตั้งแต่ก่อนมีการระบาดหรือมีการใช้วัคซีนโควิด 19 โดยปรากฎการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจาก เมื่อมีการ เสียชีวิต ระบบหมุนเวียนของเลือดรวมทั้งระบบอื่น ๆ ในร่างกายจะหยุดทํางาน จากนั้นเม็ดเลือดแดงจะมีการ ตกตะกอนตามแรงโน้มถ่วงของโลกไปก่อนแยกออกมาจากน้ําเลือด (Plasma) ซึ่งในน้ําเลือดยังมีโปรตีนที่ทําหน้าที่ ช่วยในการแข็งตัวของเลือด (Fibrinogen) คงเหลืออยู่และเกิดการแข็งตัวขึ้นตามธรรมชาติ เป็นโปรตีนเส้นใย (Fibrin clot) ทําให้เกิดเป็นลิ่มโปรตีนสีขาวลักษณะดังกล่าว
 
 


    สําหรับข้อมูลที่ระบุว่า สามารถพบ White clot นี้ในเลือดของผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ด้วยนั้น สามารถอธิบายด้วย หลักการทางโลหิตวิทยา เรื่องกระบวนการแข็งตัวของเลือด ได้เช่นกัน โดยสามารถอธิบายได้ว่า เมื่อมีการเจาะ เลือดออกมานอกร่างกาย หากไม่มีการเติมสารกันเลือดแข็ง (Anticoagulants) และตั้งทิ้งไว้ระยะหนึ่ง เลือดจะมี การแข็งตัวแยกชั้นออกมา เป็นชั้นลิ่มเลือด (Thrombus หรือ Clot blood) และชั้นน้ําเหลือง (Serum) ซึ่งเกิดขึ้น ตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม หากนําเลือดที่ไม่ได้เติมสารกันเลือดแข็งมาปั่นแยกด้วยเครื่องปั่นเหวี่ยงตกตะกอน ความเร็วสูง (Centrifuge) แยกส่วนประกอบของเลือด ในขณะที่การแข็งตัวของเลือดยังเกิดขึ้นไม่สมบูรณ์ (Partial clot) จะสามารถพบโปรตีนเส้นใยที่ทําหน้าที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือด (Fibrin clot) ที่มีความคล้ายกับ White clot ข้างต้นได้เป็นเหตุการณ์ที่พบเป็นปกติ ปรากฎการณ์ดังกล่าวจึงไม่ใช่เรื่องน่ากังวลและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนโควิด 19 แต่อย่างใด
ข้อเท็จจริง ลิ่มเลือดสีขาว (White clot) และวัคซีนโควิด19 ชนิด mRNA - สถาบันวัคซีนแห่งชาติ HealthServ

     รูปแสดงการแยกส่วนประกอบของเลือดด้วยเครื่องปั่นเหวี่ยงตกตะกอนความเร็วสูง (Centrifuge)1



     ทั้งนี้ ทั่วโลกมีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 แล้วกว่า 13,000 ล้านโดส และมีการติดตามและเฝ้าระวังอาการไม่พึงประสงค์อย่างเป็นระบบในแต่ละประเทศ2 ปัจจุบันหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ยังคงแนะนําให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงเข้ารับวัคซีนโควิด 19 เข็มกระตุ้น ปีละ 1 ครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงของการป่วยรุนแรงจากโรคโควิด 19
 
 
 
     สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ขอให้ประชาชนเลือกรับข่าวสารจากแหล่งข้อมูลวิชาการที่เป็นทางการและมีความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ ปัจจุบันยังมีช่องทางในการตรวจสอบข้อเท็จจริงของข้อมูลที่มีการเผยแพร่ทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย (Anti-Fake News Center Thailand)3. ชัวร์ก่อนแชร์4. และ Fact Check Explorer5 เป็นต้น ซึ่งประชาชนสามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงผ่านช่องทางเหล่านี้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย


สถาบันวัคซีนแห่งชาติ
21 กุมภาพันธ์ 2567
 

เอกสารอ้างอิง
1. A prospective randomised clinical study on evaluation of platelet-rich fibrin versus zinc
oxide eugenol in the management of alveolar osteitis - Scientific Figure on ResearchGate.
Available from: https://www.researchgate.net/figure/A-Different-layers-of-centrifuged-
blood-B-Platelet-Rich-Fibrin-PRF_fig2_319411472 [accessed 21 Feb, 2024]
 
2. www.who.int/thailand/th/
3. www.antifakenewscenter.com/
4. facebook.com/SureAndShare
5. google.com/factcheck/

อรรถาธิบายเพิ่มเติม โดย Center for Medical Genomics ม.มหิดล

คลิปวิดีโอ ในชื่อ “White clots common” หรือ "แท่งย้วยสีขาว” ของ ดร.จอห์น แคมป์เบลล์ (John Cambell) ซึ่งเผยแพร่ในยูทูบเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 และมีผู้เข้าชมถึง 1.4 ล้านคนถือว่าเป็นข้อมูลเท็จ (Fake news) หรือไม่?
Youtube.com
 
ปี 2565 หรือ 2 ปีที่แล้วมีวิดีโอที่ชื่อ "เสียชีวิตกะทันหัน 2022 (died suddenly 2022) " เผยแพร่สะพัดบนโซเชียลมีเดีย ทั้งยูทูบ และ เน็ตฟลิกซ์ คลิปวิดีโอความยาว 1 ชั่วโมงได้อ้างว่าพบลิ่มเลือดหลังการชันสูตรศพเป็นหลักฐานสำคัญแสดงให้เห็นว่าฝ่ายหนึ่งมีแผนลดจำนวนประชากรโลกโดยใช้การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่ไม่มีหลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีนี้
 
วิดีโอดังกล่าวนำเสนอว่ามีผู้ฉีดยารักษาศพและผู้อำนวยการงานศพจำนวนหนึ่งเปิดเผยว่าพบลิ่มเลือดขนาดใหญ่ในศพถือเป็นความผิดปกติที่ไม่เคยพบมาก่อน และคาดว่าเกิดจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้หักล้างคำกล่าวอ้างเหล่านี้ โดยระบุว่าลิ่มเลือดดังกล่าวดูเหมือนจะเป็นลิ่มเลือดที่พบบ่อยหลังการชันสูตรพลิกศพ
 
วิดีโอดังกล่าวได้นำฟุตเทจที่ได้ตัดต่อมาจากวิดีโอการศึกษาทางการแพทย์ที่โพสต์บน YouTube ในเดือนเมษายน 2019 ซึ่งแสดงให้เห็นขั้นตอนที่เรียกว่าการผ่าตัดเอาหลอดเลือดอุดตันในปอดออกมา ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่อย่างใด
 
องค์กรอิสระ FactCheck ได้ตรวจสอบคลิปวิดีโอดังกล่าวแล้วพบว่า “ เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง (fake news)”
 
factcheck.org/
 
ต่อมานายทหารอากาศสหรัฐนอกราชการ พันตรี โธมัส ฮาวิแลนด์ (Thomas Haviland) ได้นำแนวคิดคล้ายกับวิดีโอดังกล่าว “มาทำโพล” ที่ไม่แสดงแหล่งอ้างอิง สอบถามไปยังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการฉีดยารักษาศพ และส่งข้อมูลที่สรุปได้ไปยังหน่วยงานด้านสาธารณสุขในสหรัฐ กล่าวคือ US NIH, US CDCม และ US FDA ให้พิจารณาถึงความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมทั้งให้สัมภาษณ์ในรายการของดร.จอห์น แคมป์เบลล์ (John Cambell) อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังของอังกฤษในด้านสุขภาพ มียอดผู้เข้าชมคลิปการสัมภาษณ์ถึง 1.4 ล้านครั้ง ตั้งแต่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา
youtube.com ทำให้เกิดการตื่นตระหนกไปทั่วโลก
 
อย่างไรก็ดีคลิปการสัมภาษณ์ของรายการดังกล่าวยังไม่มีองค์กรอิสระอย่าง “Factcheck” มาตรวจสอบว่าถูกต้องหรือไม่เพียงใด อาจต้องรอผลการศึกษาวิจัยและการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการที่มีผู้เชี่ยวชาญร่วมตรวจสอบ (Peer review) ดังนั้นคลิปการสัมภาษณ์และข้อมูลที่นำเสนอในรายการดังกล่าวไม่อาจระบุได้ว่าเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนหรือไม่ถูกต้อง (fake new) ปัจจุบันจัดอยู่ในหมวดข้อมูลที่ต้องรอการพิสูจน์
 
การพิสูจน์เบื้องต้นสามารถทำโพลสอบถามผู้ที่มีหน้าที่ฉีดยารักษาศพได้เช่นกัน โดยอาจพิจารณาสอบถามในเบื้องต้นว่าในประเทศไทย
• ก่อนปี 2019/2562 พบลิ่มเลือดในหลอดเลือดของศพหรือไม่ (ยังไม่เกิดการระบาดของโควิด-19)
• ปี 2020/2563 พบลิ่มเลือดในหลอดเลือดของศพหรือไม่ (ไวรัสอู่ฮั่นและไวรัสอัลฟา ระบาด ยังไม่มีวัคซีนใช้)
• ปี 2021-2022 /2564-2565 พบลิ่มเลือดในหลอดเลือดของศพหรือไม่ (มีการระดมฉีดวัคซีนโควิด-19 มีผู้เข้ารับการฉีดถึง 80%)
• ปี 2023/2024 พบลิ่มเลือดในหลอดเลือดของศพหรือไม่ (มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ลดลง) หากพบมีมากหรือน้อยเมื่อเทียบกับปี 2021-2022
 
หากในปี 2019-2020 ไม่พบแท่งย้วยสีขาวหรือพบจำนวนไม่ต่างกันในหลอดเลือดของศพ แต่กลับพบเป็นจำนวนมากขึ้นในปี 2021-2022 และมีลดลงในปี 2023-2024 อาจเป็นข้อมูลเบื้องต้นให้ควรมีการวิจัยอย่างเป็นระบบต่อไป
 
ผลข้างคียงจากวัคซีนไม่ว่าจะน้อยหรือมาก ควรได้รับความสนใจเพราะประชากรส่วนใหญ่ของโลกได้รับการฉีดวัคซีน

Center for Medical Genomics 22 กุมภาพันธ์ 2024
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด