สธ.ไทยแลกเปลี่ยนแนวทางการควบคุมโรคในกลุ่มแรงงาน กับประเทศสิงคโปร์ เผยหลักระบาดวิทยาช่วยลดการระบาดของโรคโควิด 19 ได้
วานนี้ (8 กุมภาพันธ์ 2564) ที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นายเเพทย์ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย สพญ.ดร.เสาวพักตร์ ฮิ้นจ้อย ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศ ผู้เเทนจากสำนักงานคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค และผู้แทนจากสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ (IHPP) ร่วมประชุมหารือผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) กับกระทรวงสาธารณสุขประเทศสิงคโปร์ และกระทรวงแรงงานประเทศสิงคโปร์ ผ่านการประสานงานเป็นอย่างดีจากสถานเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ ประจำประเทศไทย เพื่อติดตามสถานการณ์และมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19
นายเเพทย์ขจรศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขไทยยังคงเข้มมาตรการสำคัญ คือ การค้นหาผู้ติดเชื้อและกลุ่มผู้สัมผัสกับแรงงานที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด 19 ให้ครอบคลุม เพื่อให้กลุ่มดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการรักษาและวินิจฉัยอย่างรวดเร็ว ร่วมกับการรณรงค์ให้ใช้มาตรการป้องกันส่วนบุคคล ทั้งการสวมหน้ากาก 100% เว้นระยะห่าง และล้างมือบ่อยๆ ส่วนในสิงคโปร์ใช้มาตรการปลอดภัย 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงทำงาน ช่วงพักผ่อน และช่วงที่อยู่ด้วยกัน อันเป็นแนวคิดหลักในการป้องกันควบคุมโรค พร้อมเน้นย้ำการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลเช่นกัน ทั้งนี้ ทางสิงคโปร์ยังกล่าวอีกว่าวัคซีนไม่ใช่เครื่องมือเพียงอย่างเดียวที่จะช่วยลดการระบาด เเต่เป็นหลักระบาดวิทยา คือ การค้นหาเชิงรุก สอบสวนโรค และติดตามผู้สัมผัส จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยลดการระบาดของโรคได้ อีกทั้งการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีต่างๆ มาสนับสนุนในการค้นหาผู้ที่เข้าข่ายสงสัยว่าป่วยให้เข้าสู่ระบบการดูเเลรักษาโดยเร็วที่สุด
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564