ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

มาตรการสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศไทย โดยศบค. ประกาศในราชกิจจาฯ

มาตรการสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศไทย โดยศบค. ประกาศในราชกิจจาฯ Thumb HealthServ.net
มาตรการสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศไทย โดยศบค. ประกาศในราชกิจจาฯ ThumbMobile HealthServ.net

ครอบคลุม 3 ระดับ ของการเดินทาง คือ ก่อนเดินทางเข้า เมื่อเดินทางถึง/ระหว่างอยู่ในประเทศ และ มาตรการก่อนเดินทางออก เป็นไปตามแผนนโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่กักตัว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 64 เป็นต้นไป

มาตรการสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศไทย โดยศบค. ประกาศในราชกิจจาฯ HealthServ
21 ตุลาคม 2564 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คำสั่ง ศบค. เรื่อง แนวปฏิบัติ มาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ครอบคลุม 3 ระดับ ของการเดินทาง คือ ก่อนเดินทางเข้า  เมื่อเดินทางถึง/ระหว่างอยู่ในประเทศ และ มาตรการก่อนเดินทางออก พร้อมกับ ระบุหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะดูแลรับผิดชอบและดำเนินการ ให้เป็นไปตามแผนนโยบายเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่กักตัว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 64 เป็นต้นไป ลงนามโดยนายกรัฐมนตรี รายละเอียดมาตรการ ดังนี้

มาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร

1. การเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรของผู้โดยสารหรือผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร
(13) ผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจควบคู่กับความมั่นคงด้านสาธารณสุขตามแผนการเปิดประเทศของรัฐบาล
 
 
มาตรการก่อนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร
1) เดินทางมาจากประเทศ/พื้นที่ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการมาตรการเดินทางเข้าออกประเทศและการดูแลคนไทยในต่างประเทศอนุมัติตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยการเสนอของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และได้มีการลงทะเบียนผ่านระบบหรือเว็บไซต์ที่ทางราชการกำหนด ทั้งนี้เฉพาะกรณีผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศทางอากาศ โดยผู้เดินทางต้องอยู่ในประเทศ/พื้นที่ดังกล่าวไม่น้อยกว่า 21 วันก่อนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เว้นแต่ผู้ที่พำนักอยู่ในราชอาณาจักรซึ่งได้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรและได้เดินทางไปยังประเทศ/พื้นที่ ที่ได้รับอนุมัติข้างต้น
 
2) ให้มีเอกสารที่ใช้ในการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร

ดังนี้

- หนังสือที่รับรองว่าเป็นบุคคลที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ (Certificate of Entry - COE) หรือหลักฐานการลงทะเบียนการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ตามที่ศูนย์ปฏิบัติการมาตรการเดินทางเข้าออกประเทศและการดูแลคนไทยในต่างประเทศกำหนด
 
- เอกสารรับรองการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ที่ยืนยันว่าผู้เดินทางไม่มีเชื้อโรคโควิด-19 (Medical certificate with a laboratory result indicating that COVID-19 is not detected) โดยวิธี RT-PCR โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง ทั้งนี้ หากผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบว่ามีเชื้อโรคโควิด - 19 ให้มีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าเป็นผู้เคยติดเชื้อและหายแล้วไม่เกิน 3 เดือนด้วย
 
- กรมธรรม์ประกันภัย ที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลหรือหลักประกันอื่นใดตลอดระยะเวลาที่ผู้เดินทางอยู่ในราชอาณาจักรในวงเงินไม่น้อยกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือตามที่ทางราชการกำหนด เว้นแต่กรณีผู้เดินทางที่มีสัญชาติไทยและมีสิทธิในการรักษาพยาบาลตามที่กฎหมายบัญญัติ ไม่ต้องมีกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าว
 
- หลักฐานการชำระค่าที่พัก เมื่อผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร อย่างน้อย 1 วัน และค่าตรวจหาเชื้อโดยวิธี RT-PCR ในโรงแรมหรือสถานที่พักซึ่งได้ขึ้นทะเบียนตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกำหนด หรือสถานที่ซึ่งผู้เดินทางต้องเข้ารับการกักกันตามที่ทางราชการกำหนด ได้แก่ สถานที่ซึ่งผู้เดินทางต้องเข้ารับการกักกันซึ่งได้ขึ้นทะเบียนต่อกรมสนับสนุนบริการสุขภาพกระทรวงสาธารณสุข หรือสถานที่ซึ่งผู้เดินทางต้องเข้ารับการกักกันตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครหรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด แล้วแต่กรณี อนุมัติและตรวจสอบ
 
- เอกสารหรือหลักฐานรับรองการได้รับวัคซีน (Certificate of Vaccination) ครบตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตวัคซีนกำหนด โดยวัคซีนดังกล่าวต้องเป็นวัคซีนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยยาหรือได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกหรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนออกเดินทาง

เว้นแต่กรณีผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรมีอายุต่ำกว่า 12 ปี ซึ่งมิได้อยู่ในเกณฑ์การได้รับวัคซีนที่ได้เดินทางมาพร้อมบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล ให้มีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าผู้เดินทางไม่มีเชื้อโรคโควิด - 19 (Medical certificate with a laboratory result indicating that COVID-19 is not detected) โดยวิธี RT-PCR โดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง

ทั้งนี้ สำหรับกรณีผู้ที่เคยติดเชื้อและได้รับการรักษาหายแล้ว ให้มีใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่าเคยติดเชื้อโรคโควิด-19 และหลักฐานการได้รับวัคซีน 1 เข็มภายในเวลา 3 เดือนหลังการติดเชื้อโรคโควิด-19 เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 14 วันก่อนการออกเดินทาง
 
 
 

มาตรการเมื่อเดินทางถึง/ระหว่างอยู่ในราชอาณาจักร
1) ให้คัดกรองอาการทางเดินหายใจและวัดไข้ผู้เดินทาง ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ ก่อนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร (Entry screening)

2) ให้ยื่นเอกสารหรือแสดงหลักฐาน ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ

3) ให้เดินทางออกจากท่าอากาศยาน ไปยังโรงแรมหรือสถานที่พัก สถานที่ซึ่งผู้เดินทางต้องเข้ารับการกักกันตามที่ทางราชการกำหนด หรือสถานที่ที่โรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการกำหนด แล้วแต่กรณี เพื่อทำการตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR จำนวน 1 ครั้ง โดยยานพาหนะที่จัดไว้เป็นการเฉพาะ โดยต้องไม่มีการแวะหรือหยุดพัก ณ สถานที่ใด ๆ (Sealed Route) ภายในระยะเวลา 2 ชั่วโมง

ทั้งนี้ ในระหว่างที่รอผลการตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 ห้ามผู้เดินทางเดินทางออกนอกโรงแรมหรือสถานที่พัก หรือสถานที่กักกันซึ่งทางราชการกำหนด

4) ในกรณีที่ผลการตรวจเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ในครั้งแรก ยืนยันว่าผู้เดินทาง "ไม่มี" เชื้อโรคโควิด-19 ให้ผู้เดินทางสามารถเดินทางในราชอาณาจักรได้ โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ราชการกำหนดอย่างเคร่งครัดตลอดเวลาที่อยู่ในราชอาณาจักร และให้โรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการโรงแรมหรือสถานที่พัก หรือสถานที่ซึ่งผู้เดินทางต้องเข้ารับการกักกันตามที่ทางราชการกำหนด แล้วแต่กรณี มอบชุดตรวจและน้ำยาที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยการติดเชื้อ SARS-CoV-2 (เชื้อก่อโรค COVID-19) แบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเอง (Antigen Self-test Kit หรือ ATK) ให้กับผู้เดินทาง สำหรับการตรวจหาเชื้อด้วยตนเอง จำนวน 1 ครั้ง ระหว่างวันที่ 6 - 7 ของระยะเวลาที่พำนักหรือเมื่อมีอาการของโรคระบบทางเดินหายใจหรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด เพื่อยืนยันว่าผู้เดินทางไม่มีเชื้อโรคโควิด-19

5) กรณีผลการตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ในครั้งแรก ยืนยันว่าผู้เดินทาง "มีเชื้อ" โรคโควิด-19 โรงพยาบาลคู่ปฏิบัติการ พิจารณาดำเนินการดูแลรักษาพยาบาลตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด หรือประสานส่งต่อผู้เดินทางไปยังสถานพยาบาลหรือสถานที่ตามที่กระทรวงสาธารณสุขหรือทางราชการกำหนด และแจ้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อทันทีโดยผู้เดินทางเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการตรวจหรือรักษาพยาบาลทั้งหมด หรือเป็นไปตามข้อตกลงเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายระหว่างโรงแรมหรือที่พักกับผู้เดินทาง หรือเป็นไปตามสิทธิในการตรวจหรือรักษาพยาบาลตามที่กฎหมายบัญญัติในกรณีที่ผู้เดินทางเป็นผู้มีสัญชาติไทย
 
6) ให้ใช้ระบบติดตามหรือติดตั้งแอปพลิเคชัน ตามที่ทางราชการกำหนด โดยให้เปิดระบบติดตามดังกล่าวไว้ตลอดเวลา เพื่อเฝ้าระวังหรือติดตามอาการและบันทึกผลการตรวจหาเชื้อด้วยตนเองระหว่างที่ผู้เดินทางอยู่ในราชอาณาจักร
 
มาตรการก่อนเดินทางออกจากราชอาณาจักร
- ให้ตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 โดยวิธี RT-PCR กรณีประเทศ/พื้นที่ปลายทางกำหนด โดยให้ผู้เดินทางหรือหน่วยงานต้นสังกัดของผู้เดินทางเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย
 
 
หมายเหตุ :
1. ควรสนับสนุนและส่งเสริมให้ใช้กรมธรรม์โดยบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทย ภายใต้การกำกับและรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ
ประกันภัย โดยกรมธรรม์ประกันภัยต้องครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาลกรณีการติดเชื้อโรคโควิด - 19 ที่ไม่แสดงอาการด้วย
 
 

หน่วยงานรับผิดชอบ

 กระทรวงการต่างประเทศ
ออกคู่มือเกณฑ์การปฏิบัติการตรวจสอบเอกสาร การให้ข้อมูลกรมธรรม์กับผู้เดินทางและการประเมินความพร้อมของผู้เดินทางก่อนเดินทางตามมาตรการที่กำหนด และร่วมกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล(องค์การมหาชน) จัดทำระบบลงทะเบียนแจ้งกา รเดินทางเข้าราชอาณาจักร


กรมควบคุมโรค
ตรวจสอบเอกสารรับรองการได้รับวัคซีน (Certificate of Vaccination) 
 

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ร่วมรับผิดชอบ ดังนี้
1) กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับโรงแรมที่พัก
2) ตรวจสอบเอกสารหลักฐานการชำระค่าที่พักและระยะเวลาพำนักในราชอาณาจักรกรณีเข้าพำนักในโรงแรมหรือที่พักที่ขึ้นทะเบียนตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกำหนด
3) ร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกำกับดูแลระบบหรือแอปพลิเคชัน ระหว่างพำนักในราชอาณาจักร เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการสำหรับการป้องกันและควบคุมโรค
4) ประชาสัมพันธ์และกำชับให้มีการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด และ
5) จัดระบบสนับสนุนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว
 

กระทรวงสาธารณสุข
ออกคู่มือหลักเกณฑ์ หรือแนวทางเกี่ยวกับสถานที่ซึ่งผู้เดินทางต้องเข้ารับการกักกันและการตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 สำหรับผู้เดินทางตลอดจนกำกับติดตามการคัดกรองอาการป่วย การตรวจหาเชื้อโรคโควิด - 19 และการประเมินผลการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค
 

กระทรวงมหาดไทยและกรุงเทพมหานคร

รับผิดชอบดังนี้
 
1) ควบคุม กำกับ ดูแลและจัดการสถานที่กักกันซึ่งทางราชการกำหนดให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด
2) กำกับดูแลการปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (COVID-Free Setting) และ
3) ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขกำกับ ดูแล และประเมินการจัดการด้านการแพทย์ในสถานที่กักกันให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค
 

กระทรวงคมนาคม
ควบคุมกำกับการเดินทางจากช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศไปยังโรงแรมที่พัก หรือสถานที่กักกันซึ่งทางราชการกำหนด - สำนักงานการบินพลเรือนร่วมกับการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย กำกับดูแลระบบการเดินอากาศภายในประเทศและระหว่างประเทศ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
 

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย 
ตรวจสอบและพิจารณากรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันภัย ให้มีความเหมาะสมและเป็นธรรม และไม่เป็นภาระต่อระบบสาธารณสุข
 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ตรวจสอบระบบการตรวจคนเข้าเมืองและดูแลความปลอดภัยของผู้เดินทางระหว่างอยู่ในราชอาณาจักร
 
 

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด