ใช้ยาให้ปลอดภัย
ใช้ยาให้ถูกต้อง
1. ใช้ยาให้ถูกวิธีหรือถูกทาง
เราจะใช้ยาได้อย่างปลอดภัยก็ต่อเมื่อรู้ข้อมูลเกี่ยวกับยานั้น ๆ ให้มากที่สุด การรู้ว่ายาที่จะใช้คือยาอะไรและใช้เพื่ออะไรนั้น จะช่วยให้ใช้ยาได้เต็มประโยชน์ และลดโอกาสที่อาจเกิดอันตรายจากยาให้เหลือน้อยที่สุด และถ้าเป็นไปได้ ก็อย่าลืมจดคำถามที่อยากรู้เอาไว้ถามแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับยามาด้วยทุกครั้ง หลักในการใช้ยาที่ถูกต้องคือ ควรปฏิบัติตามคำ แนะนำของแพทย์ เภสัชกร หรือคำแนะนำที่ระบุบนฉลากยาอย่างเคร่งครัดทุกครั้ง โดยเฉพาะยาที่ซื้อกลับมาใช้เองที่บ้าน (ยาบาอย่าง เช่น ยาต้านมะเร็ง ต้องให้แพทย์หรือพยาบาลเป็นผู้ฉีดให้เท่านั้น) ตัวอย่างเช่น
การเรียกชื่อตัวยา
เมื่อจะใช้ยาอะไรก็ตาม เราต้องรู้จักชื่อสามัญของยานั้นด้วย ไม่ใช่รู้จักแต่เฉพาะชื่อการค้าเท่านั้น ชื่อสามัญของยาคือชื่อทั่วไปที่ใช้เรียกตัวยา โดยตัวยาชนิดหนึ่งจะมีชื่อสามัญเพียงชื่อเดียว แต่อาจมีชื่อการค้าได้หลายชื่อ ตามแต่บริษัทผู้ผลิตยาจะตั้งไว้ เมื่อบริษัทยาค้นพบยาใหม่ๆ ตัวใดตัวหนึ่งก็จะตั้งชื่อการค้าและขายยาตามชื่อนั้นจนกระทั่งหมดสิทธิ์ (ส่วนใหญ่ลิขสิทธิ์ยามีอายุประมาณ 20 ปี) หลังจากนั้นยาดังกล่าวก็จะถูกเรียกโดยชื่อสามัญ และบริษัทอื่น ๆ ก็สามารถผลิตออกมาขายได้ ประโยชน์ของการรู้จักชื่อสามัญของยานั้น นอกจากจะทำให้สามารถเลือกใช้ยาที่ถูกกว่า แต่มีประสิทธิภาพเท่าเทียมกันแล้ว ยังช่วยป้องกันความสับสน และความซ้ำซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในการใช้ยาได้ด้วย
การใช้ยา
ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่าเราต้องใช้ยาชนิดนั้น ๆ นานเท่าใด ยาบางอย่าง เช่นยาปฏิชีวนะนั้นจำเป็นต้องใช้ให้ครบตามจำนวนที่แพทย์สั่ง แม้ว่าจะหายป่วยแล้วก็ตาม หรือการหยุดใช้ยาบางชนิดอย่างกะทันหันก็อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ ดังนั้นหากอาการยังไม่ดีขึ้นและต้องการยาเพิ่มจึงควรไปพบแพทย์ก่อนที่ยาชุดเก่าจะหมด ยาบางอย่างแสดงฤทธิ์ได้เร็วมาก เช่น ยากลีเซอริลไตรไนเตรต ซึ่งเป็นยาแก้อาการปวดเค้นหัวใจเนื่องจากหัวใจขาดเลือดที่ออกฤทธิ์ได้เกือบทันที แต่ยาบางอ่างก็แสดงฤทธิ์ช้า ๆ และต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์จึงจะเห็นผล ดังนั้นจึงควรถามแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับเวลาในการออกฤทธิ์ของยา ก่อนที่จะหยุดยาเนื่องจากคิดว่ายานั้นใช้ไม่ได้ผล ยาทุกชนิดล้วนมีอาการข้างเคียง ไม่ว่าจะมากหรือน้อยและจะสังเกตได้หรือไม่ก็ตาม โดยบางชนิดอาจแสดงผลอันไม่พึงประสงค์ทันที แต่ยาบางชนิดอาจแสดงผลอันไม่พึงประสงค์ทันที แต่ยาบางชนิดอาจแสดงผลหลังจากใช้ไปแล้วหลายวัน ดังนั้นหากมีอาการผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นเนื่องจากการใช้ยา ต้องรีบปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรโดยเร็ว นอกจากนั้นการใช้ยาหลาย ๆ อย่างพร้อมกันก็อาจทำให้ยาเกิดปฏิกิริยาต่อกันได้ ไม่ว่าเป็นการเสริมฤทธิ์ ด้านฤทธิ์ หรือทำให้ยาอีกตัวไม่แสดงฤทธิ์ เป็นต้น จึงต้องบอกแพทย์และเภสัชกรทุกครั้งหากกำลังใช้ยาตัวอื่นอยู่ด้วย
เรื่องที่ต้องถาม
คำถามเหล่านี้เป็นคำถามสำคัญที่ต้องถามแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง และต้องทำความเข้าใจกับคำตอบที่ได้ให้ชัดเจนก่อนจะรับยากลับบ้าน
โปรดเข้าใจว่า HealthServ.net ไม่ได้เป็นสถานพยาบาล ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการวิชาชีพด้านแพทย์ใดๆ จึงไม่สามารถให้คำปรึกษาในด้านการแพทย์ การรักษาใดๆ ได้ในทุกๆ กรณี - HealthServ.net เป็นสื่อที่เสนอเนื้อหาด้านสุขภาพ ได้แก่ บทความ ข่าวสาร รวมถึง ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับแพคเกจ/บริการจาก รพ./สถานพยาบาล/ผู้ให้บริการต่างๆ ในประเทศไทย เท่านั้น รายละเอียดเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับบริการ-ราคา-เงื่อนไข-วิธีการบริการ โปรดสอบถามไปยังรพ./สถานพยาบาล/ผู้ให้บริการนั้นๆ โดยตรง (ในส่วนของ รพ./สถานพยาบาล/ผู้ให้บริการ นั้น HealthServ ช่วยได้ในแง่ของข้อมูลติดต่อ สถานที่ตั้ง หรืออื่นๆ ที่เป็นข้อมูลทั่วไป)
HealthServ.net รวบรวมข้อมูลข่าวสาร สาระความรู้ แพคเกจโปรแกรมบริการสุขภาพ จากผู้ให้บริการทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อการเข้าถึงข้อมูล สำหรับใช้ในการตัดสินใจ เลือกใช้บริการสุขภาพได้อย่างคุ้มค่าสูงสุด สำหรับตัวคุณและคนที่คุณห่วงใย
ข้อมูลที่เผยแพร่บนหน้านี้โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับ "วันที่ เวลา รายละเอียด ราคา เงื่อนไข ตลอดจน ภาพถ่าย ภาพประกอบ ภาพวาด ภาพเคลื่อนไหว ไฟล์และสื่อรูปแบบต่างๆ ฯลฯ" เป็นข้อมูลที่บันทึกไว้ ณ เวลาหนึ่ง ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมได้ ณ เวลาที่ท่านได้เข้าชมข้อมูลนี้
ดังนั้น โปรดตรวจสอบความถูกต้องกับบริษัท/หน่วยงานที่เป็นเจ้าของข้อมูลการบริการหรือให้บริการนี้ อีกครั้ง ก่อนตัดสินใจ - เว็บไซต์ HealthServ.net ไม่รับประกันความถูกต้องของข้อมูลที่เปลี่ยนไป และไม่รับผิดชอบต่อการนำข้อมูลไปใช้หรืออ้างอิงในทุกกรณี