ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

หมอชลน่าน ลงนามร่างกฎหมายกัญชาฉบับใหม่ รอเข้า ครม.

หมอชลน่าน ลงนามร่างกฎหมายกัญชาฉบับใหม่ รอเข้า ครม. HealthServ.net
หมอชลน่าน ลงนามร่างกฎหมายกัญชาฉบับใหม่ รอเข้า ครม. ThumbMobile HealthServ.net

ร่างกฎหมายกัญชาฉบับใหม่คืบหน้าไปอีกขั้น ล่าสุด หมอชลน่าน ลงนามร่าง เตรียมนำเข้าครม.เห็นชอบก่อนส่งเข้าสภาฯเพื่อพิจารณา โดยร่างใหม่นี้เน้นควบคุมใช้ทางการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น ห้ามสันทนาการ พร้อมมีบทลงโทษ อ่านถาม-ตอบเกี่ยวกับประเด็นร่างกฏหมายใหม่ กับหมอชลน่าน

 6 ม.ค.2567  ไทยพีบีเอส  และผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข ได้ลงนามร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ฉบับใหม่ แล้ว และอยู่ในขั้นตอนการนำส่งไปยังเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) หาก ครม.พิจารณาเห็นชอบ ก็จะส่งเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ต่อไป
 
นพ.ชลน่าน ยืนยันว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้แตกต่างจากเดิมพอสมควร โดยฉบับนี้ยึดตามหลักการของนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา ในเรื่องกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ 





 
 
 

หลายประเด็นจากร่างกฏหมายฉบับใหม่


นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว กล่าวถึงร่างกฏหมายนี้ว่า โดยหลักการของร่างนี้ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ว่าด้วยการเงินด้วยนั้น คือ จะเป็นกัญชาเพื่อทางการแพทย์และสุขภาพ รวมถึงส่งเสริมให้เกิดประโยชน์ด้านมิติสุขภาพด้วย มีตัวบทที่จะรองรับในการนำไปใช้ด้านการแพทย์และสุขภาพ


ส่วนที่เป็นปัญหากรณีใช้ผิดประเภท ก็มีมาตรการที่จะควบคุมอยู่ในตัวบทกฎหมาย เช่น คำว่าสันทนาการเราเขียนไว้ชัดในตัวกฎหมาย 


"พูดง่ายๆ คือ อะไรที่เกี่ยวกับการแพทย์และสุขภาพจะมีกฎหมายเข้ามารองรับ เป็นการสนับสนุนส่งเสริม ส่วนการใช้ผิดประเภทก็มีการควบคุม ซึ่งตรงนี้อะไรที่จะต้องนำไปสู่การปฏิบัติก็จะมีกฎหมายลำดับรอง อาจจะออกมาเป็นกฎกระทรวงที่ต้องผ่าน ครม. เห็นชอบก่อน หรือประกาศกระทรวง ที่ต้องผ่านคณะกรรมการที่เห็นชอบ" นพ.ชลน่านกล่าว 


ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ กำหนดมาตรการควบคุมออกมารองรับว่าการใช้ในแต่ละประเภทผู้ใดจะสามารถใช้ได้ และใช้อย่างไร เช่น หากเป็นการสูบเป็นเพื่อสุขภาพ ก็ต้องมีความเห็นทางการแพทย์รับรองตามข้อเท็จจริง เช่นเดียวกับร้านขายกัญชา Cannabis Shop ที่เปิดถูกต้องตามกฎหมาย ก็จะกำหนดมาตรการไว้ชัดเจนว่า ร้านขายกัญชาจะทำอะไรได้ หรือทำอะไรไม่ได้ หรือกรณีการปลูกเพื่อเศรษฐกิจ ก็จะต้องควบคุมโดยผ่านการขออนุญาต
 
 
 

 

ถาม-ตอบประเด็นต่างๆ 



 
คำถาม :  ก่อนหน้านี้ที่กรมการแพทย์แผนไทยมีการออกประกาศให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม ต้องมีการปรับแก้ด้วยหรือไม่   
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า อยู่คนละกฎหมาย ก็ต้องไปดูว่าเชื่อมโยงอย่างไร กฎหมายขัดกันไหม ถ้ากฎหมายใหม่ที่ออกมากับกฎหมายเก่าขัดกัน ก็ต้องปรับให้สอดรับกัน    [ผู้จัดการออนไลน์]


คำถาม :  ร่างที่จะเสนอนี้ยังไม่มีแนวทางที่จะส่วนใดส่วนหนึ่งของกัญชาให้กลับไปเป็นยาเสพติดใช่หรือไม่
นพ.ชลน่านกล่าวว่า ในชั้นนี้ยังไม่มี ยังยึดตามแนวเดิมประมวลกฎหมายยาเสพติดที่ออกมา ตัวที่จะเป็นสารเสพติดคือ สารสกัดกัญชาที่มีค่า THC มากกว่า 0.2% ของน้ำหนัก


 
คำถาม :  เกี่ยวกับการควบคุมสาร THC ไม่ให้เกิน 0.2% หากเกินจะเป็นสารเสพติดนั้นมีแนวทางอย่างไร
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หากมีการวัดจากสารสกัด แล้วพบสาร THC เกิน 0.2 % นั้นจะถือเป็นสารเสพติด แต่การใช้ในประเภทอื่น เราไม่ได้สนใจว่ามีการใช้ปริมาณ THC เท่าใด แต่จะควบคุมที่การใช้ เช่น การเอาดอกไปใช้เสพเพื่อสันทนาการ จะถือว่าเป็นการใช้ที่ผิดประเภทตามร่างกฎหมายฉบับใหม่
 
 

คำถาม :  หลายคนอาจอ้างว่าการใช้ในครัวเรือน ที่อาจมีการสูบเป็นการใช้เพื่อสุขภาพ มีมุมมองอย่างไร
นพ.ชลน่านกล่าวว่า จะใช้ความเห็นส่วนบุคคลไม่ได้ ต้องเป็นความเห็นทางการแพทย์ ก็ต้องไปพิจารณาตามข้อเท็จจริง ตามกระบวนการวิธีการ และเอาหลักวิชาการทางการแพทย์ไปจับ มิเช่นนั้นก็อ้างกันหมด



คำถาม : ร่าง พ.ร.บ.กัญชง กัญชา หากออกมาจะกระทบต่อร้านขายกัญชา Cannabis Shop ที่มีอยู่เดิม รวมถึงกลุ่มธุรกิจอาหาร เครื่องสำอางที่ใช้กัญชาหรือไม่
นพ.ชลน่านกล่าวว่า ร้านขายกัญชาที่จดทะเบียนถูกต้องเป็นสถานประกอบการขณะนี้ ยังไม่มีนโยบายหรือตัวบทกฎหมายที่จะไปยกเลิก การประกอบการที่ร้านถ้าเราออกกฎหมายใหม่มา ถ้ากัญชาที่ไม่ใช่สารเสพติด การนำไปใช้ก็ต้องให้ถูกประเภท ไม่ใช่ผิดประเภท เพราะจะมีการควบคุมตรงนั้นอยู่ ส่วนกลุ่มธุรกิจทำผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องสำอางจากกัญชา ดูจากแนวทางการออกกฎหมายแล้วไม่น่าได้รับผลกระทบ แต่จะต้องได้รับการอนุญาต เพราะเมื่อเราใช้ว่า "ควบคุม" ต้องได้รับ "อนุญาต"

"ส่วนที่เปิดแล้วก็เปิดได้ เพราะขออนุญาตถูกต้องเป็นสถานประกอบการ แต่เนื้อหาสาระกฎหมายที่จะออกมาใหม่ก็จะเน้นเรื่องควบคุมการใช้ที่ผิดประเภท" นพ.ชลน่านกล่าว  [ผู้จัดการออนไลน์]


คำถาม : ต่อไปการซื้อกัญชาต้องมีใบรับรองจากแพทย์หรือไม่ หรือการอนุญาตต้องไปเพิ่มติดกล้องวงจรปิด รายงานผลการปลูกหรือไม่
นพ.ชลน่านกล่าวว่า ตรงนี้เป็นรายละเอียด ใน พ.ร.บ.ไม่เขียนลึกขนาดนั้น อาจเขียนว่าโยงไปว่าหลักเกณฑ์วิธีการเฝ้มาระวังควบคุมดูแลให้ไปกำหนดในกฎหมายลูก ว่าจะใช้มาตรการอย่างไร ซึ่งยังบอกไม่ได้ว่าจะมีอะไรบ้าง แต่หลักการคือจะมีมาตรการควบคุม เพราะต้น ราก ใบ ดอก กฎหมายปัจจุบันไม่เป็นยาเสพติด มีแต่สารสกัด THC ที่มีมากกว่า 0.2% เท่านั้น แต่ต้น ราก ใบ ดอก ก็มีสาร THC อยู่ ซึ่งไม่รู้ว่ามีเท่าไร อาจจะมากกว่าหรือน้อยกว่า 0.2% ก็ได้ ถ้านำไปใช้เราจะสันนิษฐานว่านำไปใช้ถูกหรือผิดประเภท เราจึงกำหนดประเภทที่ใช้ วิธีการที่ใช้ สถานที่ที่ใช้ คนที่ใช้ ตรงนี้เรียกว่าควบคุม ก็ต้องไปดูรายละเอียดตรงนั้น
 


คำถาม : ร่าง พ.ร.บ.ใหม่นี้จะเอื้อให้ตำรวจดำเนินการจับกุมคนใช้ผิดประเภทหรือไม่
นพ.ชลน่านกล่าวว่า แน่นอนต้องเขียนออกมา ถ้าใช้ผิดประเภทก็ต้องให้อำนาจตามกฎหมาย เช่น เข้าข่ายว่าสันทนาการก็ต้องมีบทบัญญัติกฎหมายรองรับที่เขาจะใช้อำนาจตามกฎหมายได้ 

แถลงการณ์เขียนอนาคตกัญชาไทย ผิดหวังต่อร่างกฏหมายใหม่

เพจเขียนอนาคตกัญชาไทย ที่มีบทบาทในการเคลื่อนไหว เกี่ยวกับร่างกฏหมายกัญชาฉบับใหม่ ร่วมกับรัฐบาลชุดใหม่มาอย่างต่อเนื่อง ได้ออกแถลงการณ์ต่อร่างกฏหมายที่ลงนามโดย รมว.กระทรวงสาธารณสุข โดยมีเนื้อหาดังนี้

...

ตามที่นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ได้รับปากเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยเมื่อครั้งหารือร่วมกันว่า ก่อนการนำร่างเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีจะเปิดเวทีรับฟังความเห็นของประชาชนก่อนเพื่อทำให้มาตรการต่างๆตั้งอยู่บนข้อเท็จจริง
แต่ปรากฎตามสื่อมวลชนหลายฉบับรายงานข่าวว่าเมื่อวานคือวันที่6มกราคม 2567 รัฐมนตรีชลน่านได้ลงนามร่าง พ.ร.บ.กัญชาส่งไปยังคณะรัฐมนตรีแล้ว
 
ท่านรัฐมนตรีชลน่าน ศรีแก้ว เหตุใดจึงไม่รักษาคำพูด ท่านเป็นแบบนี้บ่อยครั้งมากจนเราคิดว่านี่อุปนิสัยของท่าน การรับฟังนั้นจะต้องทำก่อนการนำส่งร่าง มิใช่ว่านำส่งร่างไปแล้วมารับฟังทีหลัง
 
กฎหมายของท่านเรายังไม่เห็นว่ากำหนดมาตรการทั้งหมดว่าอย่างไร แต่จากการให้สัมภาษณ์ของท่านเราคิดว่าหลายมาตรการมีปัญหา ไม่ตั้งอยู่บนข้อเท็จจริง
 
1.ท่านให้สัมภาษณ์ว่า การสูบในบ้านจะต้องมีหมออนุญาต คำถามคือว่าเมื่อดอกกัญชาไม่เป็นยาเสพติดเหตุใดต้องมีหมอวินิจฉัย สถานะของกัญชาตอนนี้คือเป็นพืชสมุนไพร หากท่านห้ามสูบสมุนไพรที่ชื่อกัญชา เช่นนั้นแล้วท่านต้องออกกฎหมายห้ามสูบดอกปีบ ใบชุมเห็ด ใบตอง ที่เป็นสมุนไพรให้หมดเช่นนั้นใช่หรือไม่
 
2.หลายคนใช้การสูบเพื่อรักษามะเร็ง ท้องอืด  ไมเกรน และอีกหลายโรคที่หมอแผนปัจจุบันจ่ายยาแผนปัจจุบันแล้วไม่เคยหาย หากคนเหล่านี้ใช้กัญชาแล้วตำรวจมาจับ คำถามก็คือว่า ทำไมยาบ้า 5 เม็ดครอบครองได้
 
3.มาตรการการปลูกที่ท่านตัดสิทธิการปลูกของครัวเรือนออกไปนั้น ท่านคิดว่ากระทำเช่นนี้เป็นการสมควรแล้วใช่หรือไม่

 
นอกจากนี้ยังมีมาตรการอีกหลายอย่างที่พรรคเพื่อไทยอาจจะเขียนลงไปใน พรบ.ที่เป็นประโยชน์ต่อพวกพ้องและละเลยประชาชน เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยจึงขอให้กระทรวงสาธารณสุขกลับมากำหนดมาตรการตามข้อเท็จจริงดังนี้
 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุขต้องกลับมาใช้ข้อเท็จจริงมากำหนดมาตรการที่ท่านเห็นว่าสิ่งนั้นเป็นอันตรายต่อประชาชน แต่ก่อนหน้านี้ท่านอนุญาตให้ครอบครองยาบ้า ซึ่งคือยาเสพติดที่ฆ่าชีวิตคน ทำลายครอบครัว และสังคม นอกจากนี้ยังอนุญาตการเปิดสถานบันเทิงตี4เพื่อให้คนกินเหล้า คำถามคือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นก่อเกิดโรคมาแล้วกี่โรค การตายจากอุบัติเหตุจากสุรามีมากมายเท่าไหร่
 
ฉะนั้นเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยขอให้กระทรวงสาธารณสุขทำข้อมูลเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียระหว่าง ยาบ้า กัญชา สุรา ว่าทั้งสามชนิดสิ่งใดมีคุณสมบัติรักษามนุษย์ สิ่งใดมีคุณสมบัติทำลายมนุษย์ แล้วใช้คุณสมบัติเหล่านั้นมากำหนดมาตรการ

กัญชาเป็นยามานับหมื่นปีตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ แต่ห้ามสูบ

ยาบ้าทำลายชีวิตคนมามาก ครอบครองได้แบบถูกกฎหมาย

ทั้งยังส่งเสริมการดื่มสุราด้วยการเปิดสถานบันเทิงตี 4

หากกระทรวงสาธารณสุขยังกำหนดทุกอย่างภายใต้การเมือง ไม่นำข้อเท็จจริงมากำหนด เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยจะกำหนดการเคลื่อนไหวต่อไป เพื่อให้ประเทศนี้กำหนดนโยบายจากข้อเท็จจริง

เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย
7 มกราคม 2567

มีบทบาทสำคัญในการระดมการลงชื่อสนันสนุนร่าง

สำหรับเพจเขียนอนาคตกัญชาไทย ที่ประกาศเจตนารมย์ไว้ชัดเจนว่า "ประชาชนต้องมีสิทธิเข้าถึงกัญชาในฐานะความมั่นคงทางยา กัญชาต้องเป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชน" เป็นกลุ่มกำลังสำคัญ ที่ดำเนินการรณรงค์ลงชื่อให้การสนับสนุนร่างกฏหมายกัญชาฉบับใหม่  บนความคาดหวังถึงกฏระเบียบที่เป็นเหมาะสมต่อธุรกิจและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง 

"การมีกฎหมายที่ดี การควบคุมอย่างเหมาะสม จะทำให้สังคมเราเข้าใจ และอยู่ร่วมกันได้ และทำให้ทุกชีวิตมีความปลอดภัยขึ้นด้วยเช่นกัญครับ และร่างของเรากำลังเดินไปทางนั้น"

ทางเพจให้เหตุผลในการรณรงค์สนับสนุนร่าง ไว้ดังนี้


ทำไมการลงชื่อสนันสนุนร่างฉบับนี้ถึงสำคัญ?
เพราะในการพิจรณาร่างกฎหมาย จะมีผู้เสนอร่างกฎหมายจากหลายฝ่ายเข้ามาร่วมด้วย
ร่างฉบับนี้เป็นร่างฉบับของประชาชน ที่เราลงพื้นที่ รับฟังความคิดเห็นมา
และได้หาข้อสรุป ที่ทุกคนได้ประโยชน์ร่วมกัน โดยที่ผลประโยชน์ไม่ตกไปอยู่ที่กลุ่มหนึ่งกลุ่มใดเพียงเท่านั้น
แต่การที่เราจะสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการพิจารณา และออกมาเป็นกฎหมายบังคับใช้
จะต้องมีเงื่อนไข โดยมีการเห็นด้วย ยอมรับ จากประชาชนจำนวนมากเสียก่อน
ไม่เช่นนั้น เราเองก็จะไม่มีสิทธิ์ที่จะเสนอ และยื่นร่างฉบับนี้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณา
ทำให้กฎหมายที่ออกมาบังคับใช้ ไม่ได้มีประชาชนเป็นส่วนร่วมอยู่เลย ทั้งที่ผู้ที่ได้รับผลจากกฎหมายที่จะบังคับใช้ คือประชาชนคนทั่วไป


การลงชื่อ ไม่ได้ทำให้มีความผิด หรือไม่ได้เป็นการทำให้สูญเสียความเป็นส่วนตัว
หลายคนอาจเป็นห่วง และต้องการรักษาความเป็นส่วนตัว หรือกลัวว่าจะมีผลอะไรเกิดขึ้นตามหลัง ซึ่งทางเราขอยืนยันว่าการลงชื่อเสนอกฎหมาย จะถูกเก็บไว้อย่างดี และไม่เปิดเผยข้อมูลต่อผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง และไม่มีผลอื่นใดตามมา เป็นเพียงการแสดงความเห็นด้วย โดยวิธีการทางกฎหมายเท่านั้น
เราอยากขอแรงสนันสนุนจากทุก ๆ คน ทั้งผู้ใช้งานส่วนตัว ร้านค้า ผู้ปลูก หรือผู้เกียวข้อง
ในการลงชื่อเพื่อให้เราได้ มีสิทธิ์ ในการเสนอร่างฉบับดังกล่าว เข้าสู่การพิจารณากฎหมาย
ที่เป็นธรรม จัดทำขึ้นโดยอาศัยข้อมูลจริง จากผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในเรื่องกัญชามาอย่างนาวนาน และปราศจากอคติ ต่อกัญชา พืชสมุนไพรที่ควรเข้าถึงได้อย่างเป็นธรรม
10,000 รายชื่อ คือจำนวนที่เราต้องการ โดยไม่ช้าไปกว่าวันที่ 15 ธันวาคม 2566
โดยทุกคนสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์ม พิมพ์ลงในกระดาษ จากนั้นกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน

 
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด