ปัจจุบันในพื้นที่ กรุงเทพฯ มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 กลุ่มสีแดง ที่มีอาการอยู่ในภาวะวิกฤต เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กทม. ได้เร่งหาทางออกรับมือกับปัญหานี้ โดยร่วมมือกับบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (SCG) สร้างอาคาร Modular ICU เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มนี้เป็นการเร่งด่วน
SCG ใช้นวัตกรรม Modular ICU ในการปรับเพิ่มห้อง ICU ภายในศูนย์การเรียนรู้ของโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ เขตบางแค โดยออกแบบตรงตามมาตรฐานของห้อง ICU ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ทุกประการ อีกทั้งยังปรับระบบการรักษาและพื้นที่บริเวณ ชั้น 1 ของโรงพยาบาลสนามราชพิพัฒน์ 1 (ศูนย์การเรียนรู้ของโรงพยาบาลราชพิพัฒน์) จากเดิมใช้สำหรับดูแลผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเหลือง โดยสร้างเป็นห้องความดันลบ (Negative Pressure Room) เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีแดงเพิ่มเติม ขณะนี้ได้สร้างเสร็จแล้วทั้งหมด สามารถรองรับผู้ป่วยได้ 40 เตียง และเริ่มเปิดรับผู้ป่วยโควิดที่อาการรุนแรง (กลุ่มสีแดง) เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา"
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เปิดบริการ Modular ICU แล้ว 4 อาคาร (ICU 1,2,3,4) รองรับผู้ป่วยได้ 40 เตียง และมีผู้ป่วยเข้าพักรักษาแล้วเต็มจำนวน พร้อมทั้งมีแพทย์และพยาบาลจากโรงพยาบาลราชพิพัฒน์และโรงพยาบาลธนบุรีร่วมดูแลผู้ป่วย
ตั้งแต่ กทม. เริ่มเปิดให้บริการ Modular ICU เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาประมาณ 200 ราย ภายหลังจากที่อาการดีขึ้น ได้ย้ายไปพักรักษาตัวในโรงพยาบาลที่รองรับผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเหลืองและกลุ่มสีเขียว เพื่อรักษาตัวต่อจนหายกลับบ้านแล้วกว่า 50 คน ซึ่งในขณะนี้โรงพยาบาลสนามราชพิพัฒน์ 1 (ศูนย์การเรียนรู้ของโรงพยาบาลราชพิพัฒน์) มีเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยโควิดรวมทั้งหมด 160 เตียง แบ่งเป็นผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีแดง 80 เตียง และผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเหลือง 80 เตียง
นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ให้เหตุผลเกี่ยวกับการนำนวัตกรรม Modular ICU มาใช้ เนื่องจากโรงพยาบาลต่าง ๆ ในสังกัดของ กทม. มีการปรับปรุงพื้นที่อาคารเพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 เต็มพื้นที่ และการจะขยายห้อง ICU ในตัวอาคารไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องปรับปรุงซ่อมแซมและใช้งบประมาณจำนวนมาก จึงมีแนวคิดในการใช้นวัตกรรมของ SCG มาสร้างห้อง ICU ในพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่ว่าง โดย Modular ICU จะมีขนาดประมาณ 24.79 x 11.29 เมตร ซึ่ง SCG ได้ทำการผลิตและนำมาประกอบได้รวดเร็ว
โดย Modular ICU มีลักษณะตรงตามมาตรฐานของ ICU ในโรงพยาบาลต่าง ๆ โดยทำเป็นห้องความดันลบ มีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เรียกว่า Ante room ก่อนเข้าไปยังห้อง ICU และมี Workstation หรือเคาน์เตอร์พยาบาล ห้องปฏิบัติการทำงานของเจ้าหน้าที่จะเป็นความดันบวก มีอุปกรณ์ประกอบเหมือนห้อง ICU มีเครื่องติดตามสัญญาณชีพติดตั้งทุกเตียง มีระบบติดตามสัญญาณชีพส่วนกลางที่เรียกว่า Central Monitor นอกจากนี้ ยังมีเครื่องช่วยหายใจ มีเครื่องให้ออกซิเจนอัตราการไหลสูง เครื่องให้สารน้ำทางหลอดเลือด มีอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับช่วยชีวิต เช่น เครื่องกระตุกหัวใจ เป็นต้น
ณ ขณะนี้ การจัดตั้ง Modular ICU เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตรงตามแผนที่กำหนดไว้ และค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการจัดตั้งในโรงพยาบาล อีกทั้งมีความรวดเร็วในการจัดติดตั้งและมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับโรงพยาบาล ซึ่งความสำเร็จที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งก็มาจากความร่วมมือของหลายฝ่ายที่ให้การสนับสนุนอย่างเต็มกำลังความสามารถ
นอกจากโครงสร้างพื้นฐานในการจัดตั้งห้องความดันลบ ICU ที่ร่วมกับ SCG แล้ว ในส่วนของการปฏิบัติงานของทีมแพทย์พยาบาล 4 Modular ICU เราได้ร่วมมือกับภาคีสมาคมโรงพยาบาลเอกชน โดยมีโรงพยาบาลธนบุรี ส่งทีมบุคลากรมาร่วมดูแล และในเรื่องของอุปกรณ์ เช่น เตียง เครื่องช่วยหายใจ โดยอุปกรณ์ทุกอย่างใน 4 Modular ICU ดำเนินการจัดซื้อโดยโรงพยาบาลธนบุรี และเมื่อดูแลผู้ป่วยโควิดหายดี หรือสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น อุปกรณ์ทั้งหมดทาง SCG จะมอบให้กับสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป