27 ก.ย.2564 ตำรวจรถไฟนำหมายศาล เข้าค้น 6 จุด บ้านผู้ต้องหาร่วมกันทุจริตลงทะเบียนรับวัคซีนโควิด-19 ที่สถานีกลางบางซื่อ ช่วงเดือน ก.ค. กรณีนี้หลังพบความผิดปกติ ตำรวจใช้เวลาถึง 2 เดือน เรียกพยานสอบกว่า 600 ปาก ที่เป็นเจ้าหน้าที่ศูนย์ฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ พนักงานเอาต์ซอร์ส บริษัทเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ผู้เสียหาย พร้อมตรวจสอบหลักฐานอื่นๆ จนได้บทสรุปนำไปขออนุมัติศาลออกหมายจับ
หลังการสอบสวนตำรวจนำผู้ต้องหา 2 คนไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยผู้ต้องหาเป็นพนักงานเอาต์ซอร์ส เครือข่ายโทรศัพท์มือถือ อ้างว่า เพิ่มชื่อบุคคลอื่นเข้าระบบ เพราะต้องการช่วยเหลือให้ได้รับวัคซีนได้เร็วเนื่องจากวัคซีนมีน้อย เริ่มจากคนรู้จักและเพื่อน โดยไม่ได้เรียกรับเงินจนมีการบอกต่อและเสนอให้เงินคนละ 200 บาท รวมรายได้ประมาณ 3-4 ล้านบาท เงินที่ได้นำไปใช้หนี้ ยืนยันไม่ได้แย่งคิวหรือแย่งสิทธิ์ใคร
พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ์ ผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ กล่าวว่า พบความผิดปกติเด่นชัด เดือน ก.ค. ที่มีการลงทะเบียนทุจริตรับฉีดวัคซีนมากถึง 2,800 คน จากการเปิดให้ประชาชนวอล์กอินเข้ามาฉีดวัคซีน จึงประสานตำรวจรถไฟ เข้าดำเนินการจับกุม โดยรอเวลาให้ผู้มารับวัคซีน ตามนัดหมายจนครบและยกเลิก จนจับกุมประชาชนที่มีการนัดหมายมารับวัคซีนในขบวนการนี้เพื่อกันไว้เป็นพยานรวม 600 คน ยอมรับกระบวนการทุจริตที่เกิดขึ้นมาจากการอนุมัติให้เจ้าหน้าที่จิตอาสา สามารถอัพโหลดข้อมูลประชาชนที่มารับวัคซีนได้ เริ่มจากญาติ คนใกล้ชิด ซึ่งปัจจุบันยกเลิกแล้ว คาดว่ามูลค่าความเสียหายรวม 7 ล้านบาท (ข่าวและภาพ
ThaiPBS)
รมว.สาธารณสุข แถลง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีการจับกุมผู้ต้องหาทุจริตการจองคิวรับวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ว่า กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง และกองบังคับการตำรวจรถไฟทำการจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเรียกรับผลประโยชน์จากการฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ ซึ่งรัฐบาลขอยืนยันการให้บริการฉีดวัคซีนเป็นภาระและหน้าที่ของรัฐบาลที่จะดำเนินการให้กับประชาชนคนไทยทุกคนรวมถึงชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศ ขอประชาสัมพันธ์ว่าวัคซีนโควิด 19 เป็นวัคซีนฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะเป็นค่าฉีด ค่าอุปกรณ์ หรือการดูแลโดยบุคลากรทางการแพทย์ ทุกอย่างเป็นค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลรับผิดชอบทั้งสิ้น
ขอให้กรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นบทเรียน หากเข้ารับบริการฉีดวัคซีนของภาครัฐแล้วถูกเรียกร้องใดๆ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฉีดทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิดหรือเอาเปรียบประชาชน
“ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประสานการทำงานใกล้ชิดกับกรมการแพทย์เร่งรัดจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ขอให้ความมั่นใจว่าจะไม่ยกเว้นการกระทำผิดและจะดำเนินคดีเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป” นายอนุทินกล่าว
ทั้งนี้ พบผู้กระทำผิดจากการทุจริตลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีนจำนวน 7 คน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าจิตอาสาที่เข้ามาช่วยงานรับลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนโควิด 19 ส่วนเรื่องคดีได้มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อไป
นายอนุทินกล่าวต่อว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ฉีดวัคซีนโควิด 19 ให้ประชาชนไปแล้วกว่า 50 ล้านโดส และขอเชิญชวนให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีน ทั้งเข็มที่ 1,2 และ 3 ตามที่ได้นัดหมายไว้ หากพื้นที่ใดที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขอให้โรงพยาบาลบริหารจัดการการฉีดวัคซีนที่เหมาะสม เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน เช่น การออกให้บริการนอกสถานที่ เป็นต้น