ข้อมูลบริการสุขภาพ

กรุงเทพมหานคร เริ่มนโยบายการฉีดวัคซีนให้ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ช่วงอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ในโรงเรียนสังกัดกทม. 109 โรงเรียน ตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.64 เป็นต้นไป

โดยผลการสำรวจความต้องการฉีดวัคซีน (Pfizer) ของโรงเรียนต่างๆ มีดังนี้ 

จำนวนนักเรียน ที่ประสงค์จะรับวัคซีน รวม 33,048 คน จากจำนวนนักเรียนทั้งหมด 37,466 คน คิดเป็น 88.21%  จำนวนทั้งหมด 15 โรงเรียน

จำแนกตามกลุ่มเขต 6 กลุ่ม ดังนี้

1. กลุ่มกรุงเทพเหนือ 5,407 คน
จำนวน 3 โรงเรียน ได้แก่ 
รร.มัธยมประชานิเวศน์ เขตจตุจักร
รร.บางเขน (ไว้สาลีอนุสรณ์) เขตหลักสี่
รร.ไทยนิยมสงเคราะห์

2. กลุ่มกรุงเทพกลาง 1,546 คน
จำนวน 1 โรงเรียน ได้แก่ 
รร.สามเสนนอก เขตดินแดง

3. กลุ่มกรุงเทพใต้ 2,777 คน
จำนวน  1 โรงเรียน ได้แก่
รร. วัดปากบ่อ เขตสวนหลวง

4. กลุ่มกรุงเทพตะวันออก 10,886 คน
จำนวน  4 โรงเรียน ได้แก่
รร.มัธยมบ้านบางกะปิ เขตบางกะปิ
รร.มัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ เขตประเวศ
รร.บางชัน (ปลื้มวิทยานุสรณ์) เขตคลองสามวา
รร.หนองจอกพิทยานุสรณ์ เขตหนองจอก

5. กลุ่มกรุงธนเหนือ 3,866 คน 
จำนวน 2 โรงเรียน ได้แก่
รร.มัธยมวัดสุทธาราม เขตคลองสาน
รร.มัธยมปุรณาวาส เขตทวีวัฒนา

6. กลุ่มกรุงธนใต้ 8,566 คน
จำนวน 4 โรงเรียน ได้แก่
รร.นาหลวง เขตทุ่งครุ 
รร.วัดสะแกงาม เขตบางขุนเทียน 
รร.พระยามนธาตุราชศรีพิจิตร์ เขตบางบอน 
รร.วัดอุดมรังสี เขตหนองแขม

แผนการฉีดวัคซีน

กรุงเทพมหานคร ได้มีการประชุม ครั้งที่ 15/2564 เมื่อ13 ก.ย.64  พิจารณาแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนไฟเซอร์ สำหรับเด็กอายุ 12-17 ปี กลุ่มเป้าหมายคือนักเรียน นักศึกษาที่ศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช./ปวส.) หรือเทียบเท่า ซึ่งคาดว่าในพื้นที่กรุงเทพมหานครจะมีกลุ่มเป้าหมายในสถานศึกษาทุกสังกัด ประมาณ 400,000 คน แบ่งกลุ่มเป้าหมายการให้วัคซีนเป็น 2 ระยะ ประกอบด้วย
1. ระยะแรก นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 หรือปวช./ปวส.
2. ระยะต่อไป คือ นักเรียนในระดับชั้นอื่น

โดยกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้ควบคุมบริหารจัดการทั้งหมด ในส่วนของกรุงเทพมหานครจะสำรวจกลุ่มเป้าหมายซึ่งผู้ปกครองต้องให้ความยินยอมในการรับวัคซีน จากนั้นจะจัดทำแผนจัดสรรและช่วงเวลาในการรับวัคซีน นอกจากนี้สถานศึกษาต้องเร่งประสานสถานพยาบาลเพื่อให้บริการวัคซีน พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ปกครองกลุ่มเป้าหมาย และแจ้งจำนวนนักเรียนที่จะเข้ารับวัคซีนโดยเร็วที่สุด

 

           ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้ตั้งข้อสังเกตให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระมัดระวังการควบคุมคุณภาพวัคซีนเนื่องจากวัคซีนไฟเซอร์จะต้องจัดเก็บในอุณหภูมิที่กำหนด โดยให้จัดระบบการบริหารจัดการที่ชัดเจน หากเป็นการฉีด ณ สถานพยาบาล คาดว่าจะไม่มีปัญหา แต่หากเป็นการนำออกไปฉีด ณ โรงเรียน ต้องเป็นการฉีดในที่ร่มและไม่มีแสงแดด เพื่อให้วัคซีนยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคได้ดี รวมทั้งให้เร่งจัดการระบบการฉีดให้แล้วเสร็จภายในเดือนนี้ เพื่อให้นักเรียนกลุ่มเป้าหมายแรกได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มก่อนเปิดเทอม

 

            นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามรายงานทางวิชาการเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีนไฟเซอร์ และให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครองและเด็กนักเรียนในการดูแลตนเองอย่างถูกต้อง อาทิ การงดออกกำลังกายหนักภายหลังรับวัคซีน รวมทั้งเตรียมพร้อมสถานพยาบาลในการดูแลหากมีผู้ได้รับผลข้างเคียงจากการรับวัคซีนไฟเซอร์