กก. ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามข้อ 2 พิจารณารายงานพร้อมทั้งข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ แล้ว โดยเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะดังกล่าว สรุปได้ดังนี้
ข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ
1. ประเด็นเชิงนโยบาย
1.1 กำหนดให้การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเป็นวาระแห่งชาติ จัดตั้งหน่วยงานของภาครัฐที่เป็นเจ้าภาพหลัก หรือมีหน่วยงานพิเศษเฉพาะในการบูรณาการเชิงนโยบายและเชิงกลยุทธ์ เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Thailand Medical Hub และควรเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์เชิงสุขภาพความงาม และแพทย์แผนไทยและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub)
ผลการพิจารณาศึกษา
- ปัจจุบันได้มี คกก. อำนวยการพัฒนาและส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้าน Medical and Wellness Tourism เพื่อรองรับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (นโยบาย Medical Hub) ซึ่ง คกก. ดังกล่าวได้ร่วมกันสนับสนุนและผลักดันนโยบายให้ประเทศไทยเป็น Medical Hub ของเอเชีย ส่วนการเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์จะขอรับประเด็นนี้ไปพิจารณาดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
1.2 ควรกำหนดมาตรการการดำเนินงานเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ และปรับปรุงกฎหมายให้มีการสนับสนุน ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ อาทิ ให้โรงแรมขนาดเล็กสามารถรองรับการท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาว กฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมกำกับการโฆษณาประชาสัมพันธ์การประกอบกิจการสถานพยาบาล รวมทั้งควรทบทวนการจัดเก็บภาษีการประกอบธุรกิจที่สูงถึงร้อยละ 22 และมีการจัดเก็บซ้ำซ้อน การใช้แพลตฟอร์มส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
ผลการพิจารณาศึกษา
- กก. ได้กำหนดมาตรฐานการท่องเที่ยวออกเป็น 6 ประเภท ได้แก่
1) บริการที่พักเพื่อการท่องเที่ยว
2) บริการด้านการท่องเที่ยว
3) กิจกรรมด้านการท่องเที่ยว
4) ด้านแหล่งท่องเที่ยว
5) ธุรกิจนำเที่ยว และ
6) มัคคุเทศก์
ส่วนการปรับปรุงกฎหมายให้โรงแรมขนาดเล็กสามารถรองรับการท่องเที่ยวแบบพำนักระยะยาวได้มีมาตรฐานที่พัก และนักท่องเที่ยวที่จะพำนักระยะยาวกรณีผ่านมาตรฐานการควบคุมการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สามารถพำนักได้ 90 วัน และต่อได้อีก 2 ครั้ง ๆ ละ 90 วัน รวม 270 วัน โดยได้ดำเนินการส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพความงามรวมถึงแพทย์แผนไทย ส่วนประเด็นการควบคุมการโฆษณาประชาสัมพันธ์การประกอบกิจการสถานพยาบาล และการจัดเก็บภาษีการประกอบธุรกิจที่สูงจะขอรับประเด็นนี้ไปพิจารณาดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
1.3 ควรสนับสนุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยการใช้แพลตฟอร์มระบบออนไลน์เป็นช่องทางเชื่อมต่อกับช่องทางของแพลตฟอร์มต่างประเทศ
ผลการพิจารณาศึกษา
- กก. ได้พัฒนาการใช้แพลตฟอร์มอัจฉริยะกลาง (Smart Platform Application) ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงให้เกิดระบบตลาด การลงทุน และดำเนินธุรกิจได้อย่างเป็นระบบ และกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศไทยให้ทัดเทียมกับต่างประเทศมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการสนับสนุนการเข้าถึงข้อมูลการท่องเที่ยวแบบ Real Time ใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานด้านการท่องเที่ยว