กราฟประเทศไทยช่วง 6 วันที่ผ่านมา ยืนยันได้แล้วครับว่า Wave#5 ของสายพันธุ์ Omicron เริ่มต้นขึ้นแล้ว กราฟมีรูปแบบ Vertical ซึ่งทำให้แน่ใจได้ว่าเป็น Omicron ไม่ใช่การระบาดซ้ำของ Delta ครับ
สิ่งที่ต้องทำทันที: ปกป้องกรุงเทพฯครับ ต้องชะลอหน้าคลื่นกระแทกที่นี่ให้เล็กที่สุด ซื้อเวลาให้นานที่สุด ถ้ากรุงเทพฯแตก คลื่นกระแทกจะเข้าปะทะจังหวัดที่เหลืออย่างรวดเร็วครับ
กราฟประเทศไทย:
กราฟต่อเนื่องจาก Wave#4 %Increase วิ่งขึ้นจากระดับต่ำมากที่ 0.1% เข้าสู่เกือบ 0.2% อย่างรวดเร็ว กราฟขึ้นดิ่งมากเมื่อเทียบกับช่วงเปลี่ยนผ่านจาก Alpha เป็น Delta เป็นสัญญาณที่ชัดเจนครับว่านี่คือการระบาดของ Omicron ทรงกราฟแบบเดียวกับต่างประเทศเลยครับ
กราฟกทม.ยัง Ok อยู่นะครับ แต่เริ่มมีแนวโน้มจะขึ้นแล้ว น่าจะได้รับผลกระทบเร็วๆนี้ล่ะครับถ้าไม่ช่วยกัน
ภูเก็ต: กราฟต่อเนื่องจาก Wave#4
%Increase วิ่งจากระดับ 0.2% เข้าสู่ 0.85% ภายใน 7 วัน เร็วมาก แต่ก็ยังถือว่าคุมได้ดีกว่า S.Africa และยุโรปนิดหน่อยนะครับ แต่ผมคิดว่า คงต้องเข้มงวดกันมากกว่านี้อีกเยอะ ต้องรีบตบมันให้ลงให้ได้ครับ
เชียงใหม่: กราฟต่อเนื่องจาก Wave#4
%Increase วิ่งจากระดับ 0.27% เข้าสู่ 0.63% ภายใน 7 วัน เร็วมาก แต่ก็ยังถือว่าคุมได้ในระดับหนึ่ง แต่ผมคิดว่า คงต้องเข้มงวดกันมากกว่านี้อีกเยอะครับ
ขอนแก่น: กราฟต่อเนื่องจาก Wave#4
%Increase วิ่งจากระดับ 0.5% เข้าสู่ 1.1% ภายใน 7 วัน ไม่เร็วมากนัก ยังถือว่าควบคุมได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังเป็นขาขึ้นที่ชัดเจนมากต้องรีบตบมันลงให้ได้ครับ
อุบลฯ และ ชลบุรี:
ผมทำกราฟอีกแบบหนึ่งที่เริ่มนับจาก Wave#5 เลย ทั้ง 2 จังหวัดตอนนี้อยู่ใน Exponential ที่มี %increase ระดับสูงถึง 20% หรือมี Doubling Day แค่ 4 วัน คือผู้ติดเชื้อจะเป็น 2 เท่าทุกๆ 4 วัน ถ้าไม่รีบทำอะไรจริงจังที่นี่ ผมว่าหนักครับ และจากชลบุรี มันจะลามเข้ากทม.เร็วๆนี้ และจากกทม.มันจะลามไปทุกที่ครับ
สิ่งที่ต้องจำให้ขึ้นใจ
1. อัตราการตายเฉลี่ยของ Omicron คือ 0.1 - 0.3% ลดลงจาก สายพันธุ์ก่อนๆที่สูงถึง 2% แต่นั่นหมายถึง ติด 10 ล้านคน ตาย 10,000 - 30,000 ติดทั้งประเทศ 70 ล้านคน ก็ตายมากถึง 70,000 - 210,000 คน ดังนั้นใครที่เที่ยวพูดว่าก็แค่ไข้หวัดธรรมดา หรือจะ Herd Immunity ขอให้คิดให้ดีๆครับ อัตราการตายนี้มากกว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A อีกนะครับ และตายระดับ 2 แสนเรียกตายหมู่ครับ ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ
2. Omicron คือ ที่สุดแห่งไวรัสในประวัติศาสตร์โลก แชมป์เก่าที่แพร่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ คือ หัด แต่ตอนนี้ Omicron ทำลายสถิตินั้นไปแล้ว แบบถล่มทลายด้วย สถิติเทียบกัน จากคนติดเชื้อ 1 คน ภายใน 12 วัน หัดจะแพร่ไปยัง 15 คน แต่ Omicron จะระเบิดไปยัง 216 คน
3. การเข้าประทะของ Wave จะรวดเร็วแบบที่เราไม่เคยเจอมาก่อน และถ้าถ้าเราทำได้ดี ควบคุมได้ดี มันก็จะลงเร็วเช่นกัน แต่ถ้าไม่คุมเลยมันก็จะเละเทะแบบยุโรป
4. วัคซีนที่มีตอนนี้กันป่วยหนักได้ดีมาก แต่กันติดได้น้อยมาก ต้องใส่หน้ากากทุกคนครับ พวกที่ถือว่าตัวเองฉีดวัคซีนแล้วเที่ยวถอดหน้ากากไปเรื่อย ไม่ได้เด็ดขาดครับ
ประชาชนและภารรัฐต้องทำอะไร:
1. ต้องไปฉีดวัคซีนให้ได้ทุกคน ทั้งเข็ม1 2 เข็มบูสต์ จะตายมากน้อยก็อยู่ที่ %การฉีดวัคซีนนี่ละครับ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ไม่อย่างนั้นคุณมีโอกาสสูงครับ ที่จะเป็นหนึ่งใน 200,000 ที่จะต้องตายเพราะ Omicron เวลาที่เขาจะ Herd Immunity กัน
2. ใส่หน้ากาก 2 ชั้น อย่าได้ถอดหน้ากากถ้าไม่จำเป็น เวลาอยู่ใน Office ทำงาน ก็ใส่ไว้ ตื่นเช้ามากินข้าวที่บ้าน ข้าวเที่ยงซื้อมานั่งกินคนเดียว วงเหล้า วงส้มตำ งดให้หมด เย็นก็กลับไปกินที่บ้าน
3. ใคร WFH ได้ให้ทำเลย ช่วงแบ่งเบาความเสี่ยงของคนที่ไม่สามารถ WFH ได้
4. ขนส่งสาธารณะ เลี่ยงได้เลี่ยง ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ N95 +Surgical Mask ครับ
5. เตรียม Restart ศูนย์พักคอย รพ.สนาม Home Isolation Community Isolation ครั้งนี้คนป่วยจะมาก แต่สัดส่วนการเข้ารพ.จะน้อยลงมาก ต้องปกป้องรพ.ให้สามารถรักษาโรคปกติอื่นๆเอาไว้ให้ได้
6. รัฐบาลจะไม่ยอม Lockdown แน่นอน และไม่ควรด้วย ดังนั้นต้องช่วยกันผ่านไปโดยให้ Wave มีขนาดเล็กที่สุด และตายน้อยที่สุด
7. Office โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ต้องตรวจ ATK กันให้ถี่ เตรียม Seal พนักงานจากการสัมผัสที่ไม่จำเป็นกับบุคคลภายนอก
8. "ร้านอาหาร กึ่งผับ" พอเถอะครับ นี่แหละต้นตอของรอบนี้เลย คนไทยจำพวกหนึ่ง ไม่มีวันที่จะรักษากฎระเบียบ หรือกฏหมายอะไรได้เลย
9. ทำใจให้สงบนิ่ง Wave นี้ต่างจาก Wave ก่อน ธรรมชาติจะเป็นผู้เลือกและตัดสิน มากกว่ามนุษย์ แต่ถ้าเราเข้มแข็งและมีวินัยจริง เราก็จะเอาตัวรอดได้อยู่เสมอครับ
มองไปข้างหน้า:
ขนาดของ Wave#5 นี้เป็นไปได้ตั้งแต่ 1 ล้าน 10 ล้าน หรือ 70 ล้าน คือไม่รอดสักคน อาจจะตายกันได้ตั้งแต่หลักพันยันหลักแสน ทั้งนี้ก็ขึ้นกับนโยบายและการปฏิบัติตัวของพวกเรา ปลายสัปดาห์หน้าเราน่าจะโดน Major Impact ของหน้าคลื่นกระแทกอย่างแรงแล้ว ส่วนยอดคลื่นจะแค่ 10,000 ต่อวันแบบปาฏิหารย์ หรือ 30,000 แบบ South Africa หรือไป 200,000 ต่อวันแบบยุโรป ก็ขึ้นอยู่กับพวกเราทุกคนนับจากวันนี้เป็นต้นไปครับ