ดร.ฮันส์ อองรี พี คลูเก้ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภาคพื้นยุโรป ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ระบุถึง 3 เหตุผลสำคัญที่ ยืนยันความเห็นดังกล่าว คือ
1. อัตราการฉีดวัคซีน โควิด-19 ทั้งวัคซีนปกติและวัคซีนกระตุ้น อยู่ในระดับสูง ร่วมกับการได้รับภูมิคุ้มกันธรรมชาติจากเชื้อโอมิครอน
2. การสิ้นสุดฤดูหนาว
3. ความรุนแรงที่ลดลงของสายพันธุ์โอไมครอน
จากตัวเลขผู้ติดเชื้อในยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 12 ล้านคน สูงสุดเป็นสถิติใหม่ สาเหตุจากสายพันธุ์โอไมครอนที่มีความสามารถในการแพร่กระจายเชื้อในอัตราที่สูงและรวดเร็ว การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นไปทั่วภูมิภาค จากฝั่งยุโรปตะวันตกไปยังฝั่งตะวันออก
ดร.คลูเก้ ให้ข้อมูลเพิ่มเติม จากที่พบล่าสุด ว่า
30% ของผู้ติดเชื้อนับตั้งแต่เริ่มการระบาดมา พบว่าเกิดขึ้นในปีนี้เท่านั้น
22% ของผู้ที่ตรวจหาเชื้อ มีผลเป็นบวก
จำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนระดับต่ำ และเกิดกับผู้ที่เปราะบางเป็นส่วนใหญ่
แต่แม้จะพบการระบาดมาก และตัวเลขผู้ป่วยอาการรุนแรง เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะ แต่ที่สำคัญคือ จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด มีจำนวนคงที่ ไม่เพิ่มขึ้น และอยู่ในระดับต่ำ
ดร.คลูเก้ ระบุว่า ความเห็นนี้ไม่ได้แย้งกับที่ ดร.เดทรอส อัคดานอม เกเบรเยซุส ผอ. องค์การอนามัยโลกได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังเร็วเกินไปจะส่งผลกระทบ เนื่องจาก ที่ผอ.ได้กล่าวไว้นั้น เป็นการกล่าวถึงสถานการณ์ในภาพรวมทั่วโลก แต่สำหรับยุโรปนั้น สถานการณ์มีความแตกต่างออกไป
ดร.คลูเก้ ทิ้งท้าย ไว้ว่า ด้วยบทบาทของยุโรปที่มีตั้งแต่แรกเริ่มของโรคระบาด ในการสนับสนุนวัคซีนให้กับทั่วโลกนั้น ยุโรปจะยังคงดำรงบทบาทนี้ต่อไป
"หากปี 2021 จะเป็นปีแห่งการผลิตวัคซีน ปี 2022 จะเป็นปีแห่งความเท่าเทียมด้านวัคซีน "