BBC รายงานว่าสหรัฐอเมริกา เตรียมออกมาตรการเพื่อควบคุมการเข้าประเทศของผู้ที่เดินทางมาจากจีน อันเป็นผลจากข้อกังวลหลังจากจีนประกาศยกเลิกการกักตัวของผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศ เหลือเพียงแสดงผลตรวจโควิดเป็นลบภายใน 48 ชั่วโมงเท่านั้น จะมีผลตั้งแต่ 8 มกราคม 2023 เป็นต้นไป
ขณะเดียวกันมีรายงานว่าการระบาดระลอกใหม่ในจีนเร่งตัวขึ้นอย่างมากในหลายเมืองสำคัญทั่วประเทศ กอปรกับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในประชากรจีนต่ำกว่ามาตรฐานที่นานาประเทศเป็น เป็นประเด็นที่สร้างความกังวลให้นานาชาติ ไม่น้อยตามมา
ประเด็นการจำกัดการเดินทางโดยดูผลตรวจโควิด แบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือกลุ่มประเทศที่ขอให้แสดงผลตรวจ ได้แก่ อิตาลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย ไต้หวัน อินเดีย และล่าสุดสหรัฐฯ
ขณะที่หลายประเทศ ไม่มีแผนการจำกัดว่าต้องแสดงผลการตรวจโควิดแต่อย่างใด อาทิ สหราชอาณาจักร เยอรมัน หรือไทย
สำหรับสหรัฐ กำหนดให้ผู้ที่เดินทางจากจีน รวมถึง ฮ่องกงและมาเก๊า จะต้องแสดงผลตรวจ PCR หรือ Antigen ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยเที่ยวบินตรง หรือเที่ยวบินต่อจากสนามบินในประเทศอื่นๆ อาทิ โซลเกาหลีใต้ แวนคูเวอร์ หรือ โทรอนโท ก็ตาม (CNN)
กรณีผู้เดินทางมีผลตรวจเป็นบวก เกินกว่า 10 วันก่อนการเดินทาง สามารถแสดงผลตรวจว่าหายจากโรค แทนผลตรวจที่เป็นลบได้เช่นกัน
มาตรการนี้ของสหรัฐ จะมีผล ตั้งแต่หลังเที่ยงคืน (12:01 am ET) วันที่ 5 มกราคม 2023 เป็นต้นไป
ทางการสหรัฐระบุว่า มาตรการนี้ เป็นไปตามความจำเป็นที่เหมาะสม เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ ทั้งนี้ เป็นผลจากข้อกังวลของทางการ ต่อการเร่งตัวขึ้นของการระบาดในจีนเอง และความโปร่งใสของการรายงานจำนวนผู้ป่วย/ผู้เสียชีวิต ที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานนานาชาติ รวมไปถึงการไม่เปิดเผยข้อมูลการตรวจลำดับจีโนมสายพันธุ์ที่ระบาดกับนานาชาติ ที่เป็นกลไกสำคัญต่อการเฝ้าระวังการกลายพันธุ์ของโควิด
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้แถลงในเวลาต่อมาต่อมาตรการของสหรัฐ ว่า มาตรการของทางการและสื่อชาติตะวันตก ไม่ควรบิดเบือนหรือกระพือข่าว เกินจริง แต่ควรตั้งอยู่บนข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์อย่างเหมาะสม และต้องไม่ส่งผลกระทบต่อวิถีชิวิตประชาชน พร้อมกับเรียกร้อง ความพยายาม ความร่วมมือจากนานาชาติที่จะเอื้อให้การเดินระหว่างประเทศ เป็นไปโดยราบรื่น เพื่อหนุนให้เกิดการฟื้นตัวของห่วงโซ่อุตสาหกรรม และนำให้เศรษฐกิจโลกกลับมาเติบโตอีกครั้ง
ด้านสหภาพยุโรป กำหนดจะหารือในวันพฤหัสบดี (29 ธันวาคม) นี้ เกี่ยวกับมาตรการควบคุมที่เหมาะสม ต่อไป
แต่สำหรับสมาชิกอียู อย่าง อิตาลี ชาติที่เจ็บหนักที่สุดจากการระบาดของโควิด ช่วงปลายปี 2019 และ 2020 ไม่สนใจรอมติอีอยู แต่เดินหน้าออกมาตรการของตนเองทันที โดยกำหนดให้ต้องมีการตรวจโควิดกับผู้เดินทางจากจีน "ทุกคน" ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด และเพื่อติดตามการระบาดที่อาจกลายพันธุ์ เพื่อเป็นการปกป้อง "ประชาชนชาวอิตาเลียน" ตามคำกล่วของนาย โอราซิโอ สคิลาชี่ รัฐมนตรีสาธารณสุขของอิตาลี
มีรายงานว่าทางการอิตาลีในเมืองมิลาน เริ่มตรวจผู้โดยสารจากจีนทุกคนบนเครื่อง ก่อนมาตรการประกาศเสียอีก โดยผลตรวจ พบว่า ผู้โดยสารกว่า 52% มีผลตรวจเป็นบวก
มาตรการควบคุมของชาติอื่นๆ
ญี่ปุ่น เริ่มตั้งแต่ศุกร์ที่ 30 ธันวาคม นี้ ผู้ที่เดินทางมาจากจีน และผู้ที่เคยเดินทางไปจีน ในช่วงเวลา 7 วันก่อนหน้า จะต้องแสดงผลตรวจที่สนามบิน ผู้ที่มีผลเป็นบวก ต้องเข้าสู่การกักกันตัว 7 วัน หากมีอาการแสดง หรือกักตัวเพียง 5 วัน หากไม่มีอาการ นอกจากนั้น ทางการยังจำกัดเที่ยวบินที่ไปและเข้ามาจากจีน อีกด้วย
อินเดีย กำหนดให้ผุ้เดินทางจากจีน และอีก 4 ประเทศในเอเซีย ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และกรุงเทพ ต้องแสดงผลตรวจโควิดก่อนขึ้นเครื่อง และถูกตรวจอุณหภูมิเมื่อเดินทางถึงอินเดีย
ไต้หวัน กำหนดตั้งแต่ 1-31 มกราคม 2023 ผู้เดินทางจากจีน ทั้งโดยเครื่องบินและทางเรือ ต้องแสดงผลตรวจโควิด กรณีมีผลเป็นบวก ต้องกักตัวที่บ้าน/ที่พัก
มาเลเซีย กำหนดมาตรการเฝ้าระวังและติดตาม
ขณะที่อีกหลายประเทศ ไม่มีท่าทีหรือมาตรการเข้มงวดเป็นพิเศษใดๆ ต่อการเปิดประเทศของจีน
ออสเตรเลีย นายกรัฐมนตรี แอนโทนี อัลบานีส ระบุว่า ทางการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ทั่วโลกอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว และจะยังไม่มีการออกมาตรการพิเศษใดๆ เพิ่มเติมต่อกรณีการเปิดประเทศของจีนแต่อย่างใด
เบลเยี่ยม เทศมนตรีเมืองบรู๊กส์ ออกมาแนะให้นักท่องเที่ยวชาวจีน ตรวจหาเชื้อและฉีดวัคซีนที่จำเป็น
