ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

วัคซีนโมเสค - วัคซีนโควิดรุ่นที่ 3 ออกแบบเพื่อป้องกันโควิดกลายพันธุ์ได้

วัคซีนโมเสค - วัคซีนโควิดรุ่นที่ 3 ออกแบบเพื่อป้องกันโควิดกลายพันธุ์ได้ Thumb HealthServ.net
วัคซีนโมเสค - วัคซีนโควิดรุ่นที่ 3 ออกแบบเพื่อป้องกันโควิดกลายพันธุ์ได้ ThumbMobile HealthServ.net

ศูนย์จีโนมทางการแพทย์กล่าวถึงการเร่งพัฒนาวัคซีนรุ่นที่ 3 (Third generation vaccine) ของทีมวิจัย ม.วอชิงตันในซีแอตเติล และสถาบันคาลเทค แห่งแคลิฟอร์เนีย ด้วยแนวคิด “วัคซีนโมเสก (mosaic vaccine)” ที่ประกอบด้วย “อนุภาคนาโน RBD” ผลิตมาจากไวรัสโคโรนาหลายตระกูล เพื่อให้เป็นวัคซีนที่สามารถป้องกันโควิด-19 กลายพันธุ์ที่จะระบาดในอนาคต

วัคซีนโมเสค - วัคซีนโควิดรุ่นที่ 3 ออกแบบเพื่อป้องกันโควิดกลายพันธุ์ได้ HealthServ
วัคซีนรุ่นที่ 1 (First generation vaccines) ที่ใช้หัวเชื้อเป็นโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิม “อู่ฮั่น” และวัคซีนรุ่นที่ 2 (COVID-19 Bivalent Vaccine Boosters) ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น ใช้หัวเชื้อเป็นไวรัสสองสายพันธุ์ ระหว่างโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิม “อู่ฮั่น” และ “โอมิครอน BA.4/BA.5”  พบว่าการพัฒนาของวัคซีนไม่ทันกับการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิด-19 (ที่สามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันจากวัคซีน) อยู่หนึ่งถึงสองก้าวเสมอ


นักวิทยาศาสตร์จึงเร่งพัฒนาวัคซีนรุ่นที่ 3 ซึ่งป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในวงกว้าง (broadly protective vaccines) ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโควิดสายพันธุ์ปัจจุบัน หรือสายพันธุ์ในอนาคตที่โปรตีนส่วนหนามเปลี่ยนแปลงไปจนภูมิคุ้มกันที่ถูกสร้างขึ้นจากการกระตุ้นด้วยวัคซีนรุ่นที่ 1 หรือวัคซีนรุ่นที่ 2 ไม่สามารถเข้าจับและทำลายไวรัสกลายพันธุ์เหล่านั้นเพื่อป้องกันการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ  แม้ว่าสามารถป้องกันมิให้ผู้ได้รับวัคซีนเมื่อติดเชื้อโควิดมีอาการรุนแรงต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิต
 
วัคซีนรุ่นที่ 3 จะใช้บางส่วนของโปรตีนหนามจากโควิดหลายสายพันธุ์ โดยเลือกบริเวณที่ไม่ค่อยมีการกลายพันธุ์ (conserved region) มาป้ายติดกับบน “อนุภาคนาโน (Nanoparticles)”  บริเวณที่ว่าคือส่วน “โดเมนจับตัวรับบนผิวเซลล์มนุษย์ (the receptor-binding domain; RBD)” บนหนามของไวรัสโควิด-19 ซึ่งไวรัสจะใช้จับกับโปรตีนตัวรับ “ACE2” บนผิวเซลล์ของมนุษย์ ก่อนที่จะแทรกเข้าสู่เซลล์ 
 
ทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยวอชิงตันในซีแอตเติลและจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนีย (คาลเทค) ในเมืองพาซาดีนา กำลังเร่งผลิตวัคซีนรุ่นที่ 3 ที่เรียกว่า “วัคซีนโมเสก (mosaic vaccine)” ประกอบด้วย “อนุภาคนาโน” ที่ถูกแต้มด้วย ส่วน “RBD” ผลิตมาจากไวรัสโคโรนาหลายตระกูลที่แยกได้จากทั้งในมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่นค้างคาวเป็นต้น
 
วัคซีนรุ่นที่ 3 หรือ“วัคซีนโมเสก” แตกต่างจากวัคซีนรุ่นที่ 1 และ 2 ตรงที่จะไม่จำเพาะต่อโควิดใดสายพันธุ์หนึ่ง (broadly protective vaccine)  เพราะวัคซีนโมเสกถูกสร้างจากการนำชิ้นส่วนของ “RBD” จากไวรัสโคโรนาหลากหลายสายพันธุ์มาเกาะรวมกันในอนุภาคเดียวเพื่อสามารถกระตุ้นให้สร้างแอนติบอดีหลากหลายชนิดในร่างกายมนุษย์พร้อมกันที่มีการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่กว้างขึ้น
 
“แอนติบอดี” ที่สร้างจากเม็ดเลือดขาวประเภทเซลล์ B (B lymphocyte) ที่ถูกกระตุ้นด้วย “อนุภาคนาโน” ที่ถูกแต้มด้วยโปรตีน RBD จากโควิด-19 หลากหลายสายพันธุ์ จะเข้าจับยึดกับอนุภาคไวรัสได้อย่างแน่นหนามั่นคงกว่า 
 
“อนุภาคนาโน” ที่ถูกแต้มด้วยโปรตีน RBD จะกระตุ้นให้ B เซลล์  เพิ่มจำนวนและผลิตแอนติบอดีมากขึ้น พร้อมกับการสร้างบีเซลล์ที่มีความจำ (memory  B cell) เก็บไว้เพื่อต่อสู้กับการติดเชื้อโควิด-19 ในอนาคต ที่มีการกลายพันธุ์ต่างไปจากโควิด-19 ในปัจจุบัน 
วัคซีนโมเสค - วัคซีนโควิดรุ่นที่ 3 ออกแบบเพื่อป้องกันโควิดกลายพันธุ์ได้ HealthServ

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด