รายงานสถานการณ์โควิด 11 เมษายน 64
วันที่ 11 เมษายน 2564 ศบค.รายงานสถานการณ์สถานการณ์การติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข้อมูล COVID-19 เมื่อเวลา 11.00 น. ระบุว่า
- พบผู้ป่วยรายใหม่ 967 ราย
- ผู้ป่วยยืนยันสะสม 32,625 ราย
- หายป่วยแล้ว 28,214 ราย
- เสียชีวิตสะสม 97 ราย
ข้อมูลผู้รับวัคซีน (ณ วันที่ 10 เมษายน 2564)
เข็มที่ 1 จำนวน 15,656 ราย l สะสม 485,957 ราย
เข็มที่ 2 จำนวน 2,360 ราย l สะสม 69,439 ราย
ทั้งนี้ สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก มียอดผู้ติดเชื้อรวม 136,002,033 ราย อาการรุนแรง 102,598 ราย รักษาหายแล้ว 109,362,892 ราย เสียชีวิต 2,939,054 ราย
กทม.ติดโควิด 3,233 ราย กระจาย 50 เขต - ประชาชาติ LINK
กทม.เปิดยอดผู้ป่วยโควิดระลอกใหม่ รวมสะสม 3,233 ราย กระจายทั้ง 50 เขต มากสุด บางแค 421 ราย บางเขน 359 ราย บางขุนเทียน 225 ราย ภาษีเจริญ 212 ราย วัฒนา 100 ราย เผยเฉพาะวันที่ 4-10 เม.ย. ติดเชื้อพุ่ง 999 ราย จากคลัสเตอร์สถานบันเทิง
วันที่ 11 เม.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ระลอกใหม่ในพื้นที่ กทม. นับตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.2563-10 เม.ย.2564 พบติดเชื้อสะสมตามประกาศของ ศบค. จำนวน 3,233 ราย แยกเป็นในพื้นที่ กทม. จำนวน 2,581 ราย และพำนักนอกพื้นที่ กทม. จำนวน 636 ราย
โดย กทม.มีผู้ติดเชื้อทั้ง 50 เขต เรียงลำดับมากสุดถึงน้อยสุด ได้ดังนี้
1.เขตบางแค 421 ราย
2.เขตบางเขน 359 ราย
3.เขตบางขุนเทียน 225 ราย
4.เขตภาษีเจริญ 212 ราย
5.เขตวัฒนา 100 ราย
6.เขตหนองแขม 78 ราย
7.เขตสวนหลวง 66 ราย
8.เขตห้วยขวาง 65 ราย
9.เขตบางบอน 55 ราย
10.เขตบางกะปิ 54 ราย
11.เขตจอมทอง 47 ราย
12.เขตธนบุรี 44 ราย
13.เขตคลองเตย 43 ราย
14.เขตบางพลัด 41 ราย
15.เขตจตุจักร 39 ราย
16.เขตคลองสามวา 34 ราย
17.เขตบางกอกน้อย 33 ราย
18.เขตดินแดง 33 ราย
19.เขตสาทร 29 ราย
20.เขตวังทองหลาง 29 ราย
21.เขตทวีวัฒนา 27 ราย
22.เขตลาดกระบัง 26 ราย
23.เขตปทุมวัน 25 ราย
24.เขตพระโขนง 25 ราย
25.เขตตลิ่งชัน 23 ราย
26.เขตดอนเมือง 23 ราย
27.เขตประเวศ 22 ราย
28.เขตคลองสาน 21 ราย
29.เขตบางคอแหลม 20 ราย
30.เขตหลักสี่ 20 ราย
31.เขตบางนา 20 ราย
32.เขตบึงกุ่ม 20 ราย
33.เขตลาดพร้าว 20 ราย
34.เขตดุสิต 19 ราย
35.เขตยานนาวา 19 ราย
36.เขตสายไหม 19 ราย
37.เขตราชเทวี 18 ราย
38.เขตบางรัก 17 ราย
39.เขตพญาไท 17 ราย
40.เขตบางกอกใหญ่ 16 ราย
41.เขตทุ่งครุ 16 ราย
42.เขตมีนบุรี 15 ราย
43.เขตราษฎร์บูรณะ 11 ราย
44.เขตบางซื่อ 11 ราย
45.เขตคันนายาว 10 ราย
46.เขตพระนคร 9 ราย
47.เขตหนองจอก 6 ราย
48.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย 5 ราย
49.เขตสะพานสูง 4 ราย
50.เขตสัมพันธวงศ์ 3 ราย
ทั้งนี้จากตัวเลขพบว่าเฉพาะช่วงวันที่ 4-10 เม.ย.2564 ที่มีเป็นการระบาดของกลุ่มคลัสเตอร์สถานบันเทิง พบว่าใน กทม.มีผู้ติดเชื้อตามประกาศ ศบค.อยู่ที่ 999 ราย ในพื้นที่ กทม. 817 รายและพำนักนอกพื้นที่ กทม. 166 ราย
ทั้งนี้ข้อมูลล่าสุดวันที่ 11 เม.ย. 2564 จาก ศบค.ระบุว่า พื้นที่ กทม.มียอดติดโควิดระลอกใหม่เมษายน (1-11 เม.ย.) อยู่ที่ 1,294 ราย ในวันนี้พบเพิ่ม 236 ราย
เชียงใหม่ - เพิ่มจุดบริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 (10/4/64) และ สถานที่ที่เกิดการระบาดเพิ่มเติม
เชียงใหม่ติดโควิด-19 เพิ่มอีก 186 ราย ยอดสะสมเกือบ 400 คน ผุดร้านเสี่ยงเพิ่ม “ตะวันแดง-พอใจ บาร์-วาเลนไทน์ คาราโอเกะ-Too Nice” คกก.โรคติดต่อสั่งปิดสถานบริการเพิ่มเป็น 14 วัน พร้อมห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร
ทีมสอบสวนโรคได้สรุปข้อมูลสถานที่ที่เกิดการระบาดเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ร้านวอร์มอัพ คาเฟ่ เชียงใหม่ ร้านท่าช้าง คาเฟ่ เชียงใหม่ ร้านDC เชียงใหม่ ร้าน Infinity club เชียงใหม่ ร้าน Ground ร้าน Living Machine ร้าน Consol’s Garden และที่เพิ่มมาใหม่คือ ร้าน ตะวันแดง เชียงใหม่ ร้าน พอใจ บาร์ ร้าน วาเลนไทน์ คาราโอเกะ และ ร้าน Too Nice Nimman
“วันนี้ได้ตั้งจุดตรวจรถตรวจหาเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน บริเวณหน้าร้านวอร์มอัพ คาเฟ่ จำนวน 418 ราย จุดตรวจ โรงพยาบาลประสาท เชียงใหม่ จำนวน 303 ราย และจุดตรวจศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 135 ราย รวมทั้งสิ้น 856 ราย” นพ.สสจ.เชียงใหม่ กล่าว
การตรวจคัดกรองเชิงรุก สสจ.เชียงใหม่ ได้เพิ่มจุดตรวจ
- จากเดิม ที่จุดตรวจที่โรงพยาบาลประสาท และจุดตรวจ รถตรวจหาเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน บริเวณหน้าร้านวอร์มอัพ คาเฟ่
- เพิ่มจุดตรวจที่่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ และจุดตรวจในอำเภอรอบเมือง ได้แก่ อำเภอสันทราย อำเภอดอยสะเก็ด อำเภอสารภี อำเภอสันกำแพง อำเภอหางดง อำเภอแม่ริม
โดยแต่ละจุดตรวจของอำเภอจะมีการประชาสัมพันธ์แจ้งสถานที่ตั้ง ผ่านทางเพจ เว็ปไซต์ของแต่ละอำเภอ รวมถึงสามารถติดตามได้จากเพจเฟสบุ๊ค : งานประชาสัมพันธ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เพจเฟสบุ๊ค : ศูนย์ข่าวสารเฉพาะกิจ จังหวัดเชียงใหม่ , เพจเฟสบุ๊ค : PR Chaingmai ซึ่งจะให้ข้อมูลสถานที่เสี่ยงเพิ่มเติมในทุกวัน
ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลและรับคำแนะนำเกี่ยวกับโควิด-19 ได้ที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โทร 053-211048-50 ต่อ 433 , 434 และสอบถามข้อมูลและรับคำแนะนำเกี่ยวกับโรงพยาบาลสนาม ได้ที่ โรงพยาบาลสนาม จังหวัดเชียงใหม่ โทร 053-010561-2
ชลบุรี - เปิดเข้าได้ ไม่กักตัว เตรียมรพ.สนามสัตหีบ 320 เตียง LINK
(10/4/64) ผู้ว่าฯ ชลบุรี ให้ข้อมูล ดังนี้ เตรียมรพ.สนาม ที่อ.เมือง รับแล้ว 40 เตียง
ให้ทุกอำเภอเปิดเพิ่ม
สัตหีบเปิดอีก 320 เตียง
แต่ไม่ปิดจังหวัด เข้ามาท่องเที่ยวได้ ไม่กักตัว แต่อยู่ใต้มาตรการ (ที่เข้มงวด) เช่น จำกัดจำนวน ระยะห่าง ตรวจอุณหภูมิ ลงแอปไทยชนะ หมอชนะ เผื่อเกิดเหตุจะได้ติดตาม ควบคุมโรคได้
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 16 ราย ส่วนใหญ่เชื่อมโยง ผับ บาร์ LINK
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 16 ราย สาธารณสุขเร่งตรวจคัดกรองผู้มีความเสี่ยง ควบคุมการแพร่ระบาด
วันที่ 11 เมษายน เวลา 13.00 น. นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้รับรายงานจาก นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า มีจำนวนเพิ่มขึ้นอีก 16 ราย ขณะนี้ทางทีมสอบสวนโรคกำลังดำเนินการสอบสวนและทำไทมไลน์เพื่อเผยแพร่ โดยตลอดทั้งวันได้ดำเนินการตรวจคัดกรอง ผู้มีความเสี่ยงระดับต่าง ๆ ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยในพื้นที่ต่าง ๆ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะนี้กลุ่มของผู้ท่องเที่ยวที่มวกเหล็กมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการนำเชื้อมาติดกันภายในครอบครัว ทางสาธารณสุขได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกคัดกรอง คัดแยก พร้อมแนะนำวิธีปฏิบัติให้กับผู้สัมผัสใกล้ชิด และกักตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้งหมด เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในวงกว้าง ทั้งนี้จะดำเนินการตรวจคัดกรองอย่างต่อเนื่อง และจะทยอยแจ้งผลการตรวจให้ทราบเป็นระยะ พร้อมเน้นย้ำผู้เดินทางมาเที่ยวยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องปฏิบัติตามมาตรการ D-M-H-T-T-A อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ทางจังหวัดได้แจ้งถึงผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ ควบคุม เมื่อเข้าจุดตรวจของจังหวัด ขอความร่วมมือให้กรอกข้อมูลผ่าน QR Code แสดงบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรแสดงตนอื่น ๆ ควบคู่กับเอกสารรับรองความจำเป็นที่ออกโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดซึ่งเป็นจังหวัดต้นทางออกให้