ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

โรคเอดส์ รู้จักกันดีขึ้นหรือยัง

โรคเอดส์ คือกลุ่มอาการของความเจ็บป่วยที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอดส์หรือเอชไอวีทำให้ร่างกายอ่อนแอลงเนื่องจากภูมิคุ้มกันบกพร่องผู้ป่วยเอดส์อาจมีอาการได้มากมายหลายอย่าง เช่น มีไข้ ผื่นขึ้นตามตัวการลุกลามของโรคเริมปอดอักเสบท้องเสียเรื้อรังผอมลงและน้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว

โรคเอดส์จัดเป็นโรคที่ติดต่ออันตรายร้ายแรงโรคหนึ่ง เพราะผู้ติดเชื้อเอดส์ทุกรายจะเสียชีวิตในเวลาที่ไม่นานนักปัจจุบันยังไม่มีตัวยาใดๆที่จะรักษาโรคเอดส์ให้หายขาดได้และยังไม่มีวัคซีนที่จะใช้ป้องกันโรคเอดส์ อย่างได้ผล


เมื่อไวรัสเอดส์เข้าสู่ร้างกายคนเราจะมีระยะฟักตัวเพื่อเพิ่มจำนวนไวรัสระยะหนึ่งก่อนเกิดอาการต่างๆผู้ติดเชื้อบางคนมีอาการของโรคเอดส์ภายใน2-3ปี หรือมากกว่านั้นโดยไม่มีอาการผิดปกติใดๆเลย เมื่อไวรัสเอดส์เข้าไปแพร่ในเม็ดเลือดขาวซึ่งทำหน้าที่ทำลายเชื้อโรคต่างๆทำให้เม็ดเลือดขาวถูกทำลายจึงเป็นเหตุให้ผู้ติดเชื้อเอดส์ไม่สามารถป้องกันตนเองจากเชื้อโรคซึ่งไม่ทำให้เกิดโรคในคนปกติได้เชื้อกันว่าผู้ติดเชื้อไวรัสเอดส์ทุกคนจะกลายเป็นโรคเอดส์ในโอกาสต่อไป

เนื่องจากไวรัสเอดส์มิได้ทำให้เกิดโรคกับคนโดยตรงแต่เป็นตัวทำให้ภูมิคุ้มกันของผู้ที่ได้รับไวรัสเอดส์บกพร่องเสียหายไปอาการของผู้ป่วยเอดส์จึงไม่มีอาการเฉพาะที่จะบอกได้ว่าเป็นโรคเอดส์ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเชื้อโรคที่ฉวยโอกาสทำให้เกิดโรคในผู้รับเชื้อไวรัสเอดส์นั้นเป็นเชื้ออะไรดังนั้นผู้ป่วยเอดส์จึงมีอาการมากมายหลายระบบ เช่น ท้องเสียปอดอักเสบหรือมะเร็งบางชนิดอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างได้

สถานการณ์โรคเอดส์ในประเทศไทย

โรคเอดส์เป็นโรคที่พบและมีรายงานเป็นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ.2524 จากชายรักร่วมเพศ ในประเทศไทยมีรายงานของโรคเอดส์เป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2527 จากชายรักร่วมเพศเช่นกันจากนั้นจำนวนผู้ป่วยโรคเอดส์ในประเทศไทย ก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากปี พ.ศ.2527 ถึงปี พ.ศ.2531 มีผู้ป่วยเพียง 19 รายจนกระทั่งล่าสุดในปี พ.ศ.2547 (30มิ.ย.47) มีรายงานผู้ป่วยโรคเอดส์ที่เกิดภายในปีนี้มีถึง 326,651 ราย

การติดต่อ

ไวรัสเอดส์พบได้ในปริมาณสูงในเลือดน้ำอสุจิน้ำหลั่งในช่องคลอดและน้ำหลั่งต่างๆที่มีอยู่ในร่างกาย เช่น น้ำไขสันหลัง,น้ำในช่องปอด,น้ำในช่องท้อง,น้ำในช่องเยื่อหัวใจนอกจากนี้ไวรัสเอดส์ยังพบได้อีกแต่ในปริมาณน้อยในสิ่งเหล่านี้เช่นน้ำนม,น้ำมูก,น้ำตาน้ำลาย,เสมหะ,เหงื่อ,อุจจาระและปัสสาวะ

จากรายงานของสำนักระบาดวิทยากระทรวงสาธารณสุข พบผู้ป่วยเอดส์ที่เสียชีวิตแล้ว 72,801 ราย พบมากใน

  • กลุ่มอายุ25-29ปี มี26.12 %
  • อายุ30-34ปี 25.59 %
  • อายุ 35-39ปี16.05%
  • เพศหญิงมีอัตราการป่วยสูงกว่าเพศชาย


ดังนั้นไวรัสติดต่อโดย

  1. การมีเพศสัมพันธ์กับผู้มีเชื้อไวรัสเอดส์
  2. การใช้เข็มหรือของมีคมอื่นใดร่วมกับผู้มีเชื้อไวรัสเอดส์รวมทั้งมีการรับเลือดจากผู้มีเชื้อไวรัสเอดส์
  3. ทารกติดเชื้อไวรัสเอดส์จากมารดาซึ่งอาจเกิดขึ้นตั้งแต่อยู่ในครรภ์หรือระหว่างคลอดหรือดื่มนมมารดามีเชื้อไวรัสเอดส์

การป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอดส์

  1. งดการสำส่อนทางเพศ
  2. หากมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ไม่ใช่คู่ครองของตนต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง
  3. สตรีติดเชื้อไวรัสเอดส์ควรขอคำแนะนำก่อนการตั้งครรภ์
  4. หลีกเลี่ยงการรับเลือดโดยไม่จำเป็นหากมีความจำเป็นต้องเป็นเลือดที่ผ่านการทดสอบว่าปราศจากเชื้อไวรัสเอดส์แล้วเท่านั้นและจะปลอดภัยยิ่งขึ้นหากได้รับเลือดจากผู้ป่วยที่ไม่มีประวัติสำส่อนทางเพศหรือติดยาเสพติด
  5. หลีกเลี่ยงการใช้ของมีคมร่วมกันเช่น เข็มฉีดยามีดโกนรวมทั้งการฝังเข็มและเจาะหูสักยันต์
แม้ว่าโรคเอดส์จะเป็นโรคอันตรายร้ายแรงก็ตามแต่เชื้อไวรัสเอดส์จะไม่ติดต่อเมื่อมีการกินอาหารร่วมกัน การสัมผัสกอดรัดจับมือหรือนั่งใกล้และพูดคุยกับผู้ป่วยที่เป็นโรคเอดส์เชื้อไวรัสเอดส์จะไม่ติดต่อโดยการใช้ของใช้ที่ไม่มีคมร่วมกันเช่นหวีเสื้อผ้าหรือการใช้ห้องน้ำห้องส้วมอีกทั้งเชื้อไวรัสเอดส์จะไม่ติดต่อโดยผ่านแมลงเช่นยุงหรือหมัด

ดังนั้นผู้ป่วยโรคเอดส์จึงสามารถอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในสังคมได้อย่างปกติ

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด