นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีตามโครงการศึกษาดูงานติดตามการดำเนินงานตามนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชาชนด้านสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดทีมบูรณาการให้ความช่วยเหลือและดูแลผู้สูงอายุแบบครบวงจร ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านสุขภาพ ความเป็นอยู่ การศึกษา รายได้ และบริการภาครัฐ
นอกจากนี้ ยังได้เดินหน้าพัฒนา 12 จังหวัดต้นแบบ “ครอบครัวมั่นคง สังคมสุขภาพดี” ได้แก่ จังหวัดพะเยา พิษณุโลก พิจิตร อ่างทอง เพชรบุรี ระยอง กาฬสินธุ์ สกลนคร บุรีรัมย์ อำนาจเจริญ สุราษฎร์ธานี และตรัง เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาสุขภาวะระดับบุคคลและครอบครัวทุกกลุ่มวัย โดยใช้ฐานข้อมูลจากระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (Thai People Map and Analytics :TPMAP) ร่วมบูรณาการหน่วยงานระดับส่วนกลางผ่านกลไกคณะกรรมการ นำไปสู่หน่วยงานระดับภูมิภาค และโครงการขับเคลื่อนระบบการส่งเสริมสุขภาพดูแลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิงระยะยาวแบบบูรณาการ ผ่านกิจกรรมพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว (Long Term Care) และการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะกลางในชุมชน (Intermediate Care in Community)
นอกจากนี้ ยังได้ขับเคลื่อนการพัฒนาศักยภาพบุคลากรผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ป่วยระยะกลางและมีภาวะพึ่งพิงในชุมชน และผู้สูงอายุอายุในเรือนจำ ณ เรือนจำกลางคลองไผ่ จังหวัดนครราชสีมา โดยจัดอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพและทักษะของผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุ (Care Manager) ในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุระยะยาวในเรือนจำ เพื่อรองรับสังคมสูงวัยในทุกมิติ และนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุอย่างเป็นรูปธรรม