ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

หมอปุยเมฆ โชว์จดหมายลาออกจากราชการ (โรงพยาบาลรัฐ)

หมอปุยเมฆ โชว์จดหมายลาออกจากราชการ (โรงพยาบาลรัฐ) Thumb HealthServ.net
หมอปุยเมฆ โชว์จดหมายลาออกจากราชการ (โรงพยาบาลรัฐ) ThumbMobile HealthServ.net

หมอปุยเมฆ (นภสร วีระยุทธวิไล) หมอคนดังที่นิยามตัวเองว่า "เป็นนักแสดง เป็นนักร้อง เป็นหมอ เป็นให้เธอได้ทุกทุกอย่างแต่ไม่ได้เป็นตัวจิ๊ง" หลังจากจบการศึกษาแพทยศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยรังสิตเมื่อปี 2565 ก็ได้เข้าทำงานเป็นแพทย์อินเทิร์น ณ โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ดูแลช่วยเหลือคนไข้มากมาย

 สดๆ ร้อนๆ 3 มิถุนายน หมอปุยเมฆ โชว์หนังสือลาออกจากราชการ ผ่านทวิตเตอร์ตนเอง ปุยเมฆสะเต้อ (@PuimekSter) พร้อมแคปชั่นที่อ่านดูจะรู้เลยว่าทำไม
 
"เห็นช่วงนี้กระแสข่าว intern ลาออกจากระบบกันเยอะ ขอพูดในฐานะคนที่เพิ่งตัดสินใจลาออกมาละกัน งานในระบบหนักจริง แต่ถามว่าอยู่ในระดับทนได้มั้ย ทนได้ ไม่ตาย แต่ใกล้ตาย เสียทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต วินาทีที่ตัดสินใจลาออก คือ ตอนนั้นวน med อยู่เวรทั้งคืน มาราวน์เช้าต่อ ชาร์ตกองตรงหน้าเกือบ 40 คนไข้นอนล้นวอร์ดเสริมเตียงไปถึงหน้าลิฟต์ ภาพหดหู่มาก แถมเหนื่อยและง่วง ราวน์คนเดียวทั้งสาย สต๊าฟมา 10 โมง เดินมาถาม "น้องยังราวน์ไม่เสร็จหรอ ต้องเร็วกว่านี้น" วินาทีนั้นตัดสินใจเลย ดอบบี้ขอลา"
 
10 นาทีถัดมา หมอปุยเมฆเสริมอีกว่า 
 
"คือเข้าใจว่างานมันเยอะ หนักทั้ง intern ทั้ง staff แหล่ะ (staffเองก็ไม่ไหว ลาออกก็เยอะ) และมันดูไม่มีทางออกให้กับปัญหานี้เลย รพ.ไม่มีแนวโน้มจ้างคนเพิ่ม ลดลงทุกปี บอกกระทรวงลดงบ คนทำงานหารหน้าที่กันจนไม่รู้จะหารยังไง เหมือนอยู่เป็นแรงงานทาสไปเรื่อยๆอ่ะ ไม่มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์"
 
 
 
หนักหนาอย่างไร จับอารมณ์จากน้ำตาแห่งความท้อแท้ที่ไหลทาบแก้ม อารมณ์คว้างแบบไม่รู้จะหายึดเหนี่ยวจากไหน ไม่รู้จะมีกำลังใจอีกไหมที่จะสู้ต่อ ซึ่งเธอบรรยายความในใจไว้ 
 
 
หมอปุยเมฆ โชว์จดหมายลาออกจากราชการ (โรงพยาบาลรัฐ) HealthServ
 อันนี้ตลกมาก ตอนนั้นรู้สึกอยู่ในจุดอ่อนแอสุดๆจนต้องเซลฟี่เก็บไว้
 
รูปแรก งานเยอะจนท้อ น้ำตาไหลอยู่หน้าคอมตอนดูแลปคนไข้ ไม่อยากให้คนเห็นว่าร้อง อายเค้า เลยหลบมาร้องในห้องน้ำหลังวอร์ด
 
รูปสอง โมเม้นในทุกเช้า ถามตัวเอง สู้6ปีเพื่อมาเจอสิ่งนี้หรอ จึงเกิดภาพ "หนูนิดไม่อยากไปทำงาน" 555"
 
ภาพนั้นคงบอกชัดในทุกสิ่งที่เธอรู้สึกและสัมผัสมา สุดท้ายจะมีอะไรดีไปกว่าการมองลึกไปในตัวเอง 
 
"ถือว่าแชร์ให้ฟังละกัน มันก็มีทั้งคนที่ทนได้ กับทนไม่ได้ เราคงมี threshold ความเหนื่อยไม่สูงมาก ไม่ชอบการพักผ่อนน้อยแล้วมาทำงาน รู้สึกตัวเองจะทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพที่ดีเท่าที่ควร ก็คิดว่าถอยดีกว่า ไปหางานที่เหมาะกับเราข้างนอกทำดีกว่า ไม่เป็นข้าราชการก็ไม่ตายแก สู้"
 
 
 
 
 

ใช่ว่าด้านบวกจะไม่มี

 
แน่นอนว่าไม่ใช่ทั้งหมดที่ผ่านมาไร้ซึ่งความดีงาม หมอปุยเมฆกล่าวถึงโมเม้นต์ดีๆ ที่ได้รับ ที่เป็นกำลังใจให้เธอผ่านมาได้นั่นเอง
 
"เดี๋ยวจะหาว่าพูดแต่เรื่องไม่ดี เอาเป็นว่าขอแชร์เรื่องดีๆบ้างแล้วกัน ส่วนนึงที่ยังทำให้รักคนในระบบอยู่คือ พี่ๆ young staff เป็น support system ที่ดีสุดๆ งานตัวเองก็เยอะ staffจบใหม่คือเดอะแบก รพ.มากๆ แต่ก็ยังใส่ใจน้องๆ จริงๆข้อความเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราอยู่จนจบปีเลย"
 
 
เป็นน้ำทิพย์พรมใจให้อ่อนโยนและมีความหวังถึงอนาคต เป็นกำลังใจต่อวงการ
หมอปุยเมฆ โชว์จดหมายลาออกจากราชการ (โรงพยาบาลรัฐ) HealthServ

 ความหวังต่อวงการหมอในอนาคต

 
แน่นอนว่าเธอย่อมไม่หมดหวังกับแวดวงวิชาชีพอันมีเกียรตินี้ 
 
"เราเชื่อว่าอนาคต อย่างน้อยวงการหมอก็จะไม่ toxic เท่าเหมือนที่ผ่านๆมา น่าจะน่าอยู่มากขึ้น (ในด้านสังคม) เพราะเท่าที่สัมผัส ไม่ค่อยพบเจอถ้อยคำบั่นทอนจาก young staff เลย เหมือนคนรุ่นใหม่มีค.เห็นอกเห็นใจ ใจเขาใจเรากันมากขึ้นอ่ะ ทั้งกับคนทำงานด้วยกันและกับคนไข้ พี่ๆ เป็นหมอที่ดีมากจริงๆ"
 
 
 
 
สุดท้าย หมอปุยเมฆกำลังจะมูพออนไปสู่อีกเส้นทางอย่างไร จับตากันต่อไป ก่อนไป เธอทิ้งท้าย คำอธิบายต่อกรณีที่มีผู้มาทวิตตอบ ต่อการตัดสินใจของเธอ ในทำนองว่า คนป่วยเยอะ หมอควรที่จะต้องเสียสละ กว่าจะผลิต 1 คน รัฐต้องใช้งบฯ มหาศาล ไว้ว่า 
 
"ไม่ได้เจ็บกับทวิตนี้มาก เพราะ 
1. ถ้าศึกษาเรื่องของเราดีๆก่อนตัดสิน จะรู้ว่าเราจบหมอรังสิตมา ค่าเทอมจ่ายเองทุกบาททุกสตางค์ ค่าสอบlicenseก็จ่ายเอง ฉะนั้นการลาออกของเราไม่มีผลอะไรกับงบรัฐฯ อยู่แล้ว 
2. จบจากที่ไหนก็ไม่ควรเอาคำว่า "เสียสละ" มากดดันให้ต้องทำงานหนัก we’re not machines"
 
 
เรื่องราวของหมอปุยเมฆวันนี้ อาจฉายภาพหลายๆ มิติในการปฏิบัติงานการแพทย์ดูแลประชาชนในพ.ศ.นี้ และหวังว่าจะเกิดความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจกันและกันมากขึ้นระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่แพทย์ 
 
 
ข้อมูลและภาพจากทวิตเตอร์ ปุยเมฆสะเต้อ (@PuimekSter)

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด