สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ แจ้งหมายเลขสายด่วนฮอตไลน์ เพื่อช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล ติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ 055-271-2201 , 053-245-2826 และ 054-636-8150 (หมายเลขเดิม)
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ
Royal Thai Embassy, Tel Aviv, Israel
Ackerstein Tower A, 11th Fl. 11 Hamenofim Street, Herzliya Pituach, 4672562
เวลาทำการ : วันจันทร์ - วันพฤหัสบดี 09.00 - 12.00 น. และ 13.00 - 17.00 น.
วันศุกร์ 09.00 - 12.00 น. (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
ประกาศสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ
ประกาศ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวแห่งใหม่ เพื่อคนไทยที่ต้องการกลับประเทศ ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป ณ โรงแรม Intercontinenal Tel Aviv ที่อยู่ Kaufmann St 12, Tel Aviv-Yafo, 61501 [โลเคชั่น:
maps.app.goo.gl/]
จึงขอแจ้งพี่น้องคนไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับไทยและสามารถเดินทางมาด้วยตนเอง ให้เดินทางมาที่ศูนย์พักพิงดังกล่าว หากใครมีปัญหาการเดินทาง ขอให้ติดต่อ ฮอตไลน์หรือหมายเลขศูนย์พักพิง โทร. 055-271-2201 • 053-245-2826 • 054-636-8150
ช่องทางติดต่อขอรับการช่วยเหลือเร่งด่วน
14 ต.ค.66 แบบสอบถามความประสงค์การขอขึ้นเครื่องบินอพยพเพื่อเดินทางกลับไทยของแรงงานไทยในอิสราเอล
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ขอเรียนว่า การอพยพเดินทางกลับประเทศไทยอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ที่ท่านได้รับ และความเป็นไปได้ของการเดินทางกลับไปทำงานที่อิสราเอล
ผู้ที่ประสงค์ขอขึ้นเครื่องบินอพยพเพื่อเดินทางกลับไทย
กรุณากรอกแบบสอบถาม โดยตอบคำถามทุกข้อ
7 ต.ค.แถลงการณ์ของไทยต่อสถานการณ์การโจมตีอิสราเอล
ตามที่เกิดเหตุการณ์การส่งอากาศยานต่อสู้ไร้คนขับและจรวดจากฉนวนกาซาเข้าโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๖
ในนามของรัฐบาลและประชาชนคนไทย กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลและประชาชนอิสราเอล สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์และความเสียหายต่อทรัพย์สิน ฝ่ายไทยขอแสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อผู้บาดเจ็บ โดยเฉพาะคนไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงและการโจมตีที่ไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมในครั้งนี้
รัฐบาลไทยขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่จะสร้างความตึงเครียดเพิ่มขึ้น และขอร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศในการประณามการใช้ความรุนแรงและการโจมตีในครั้งนี้ รวมทั้งขอแสดงความหวังให้รัฐบาลอิสราเอลสามารถควบคุมสถานการณ์ให้กลับคืนสู่ปกติโดยเร็ว
Thailand’s statement on the incident in Israel on 7 October 2023
Following the unfortunate incident involving the deployment of unmanned combat aircraft and rockets from the Gaza Strip to attack Israel on 7 October 2023, the Royal Thai Government wishes to express our deepest condolences to the Government and people of Israel on the unfortunate loss of lives and injuries from this inhumane and indiscriminate act. The Thai Government is deeply concerned with the safety of Thai nationals working in Israel who have been affected by such violent incidents.
Thailand calls upon all parties involved to refrain from any actions that would further escalate tensions and joins the international community in condemning any use of violence and indiscriminate attacks. We hope that the situation in Israel will soon return to normalcy.
สาธารณสุขเตรียมพร้อมดูแลคนไทยเดินทางกลับจากอิสราเอล
สาธารณสุขเตรียมพร้อมดูแลคนไทยเดินทางกลับจากอิสราเอล
12 ต.ค.แจ้งเตือนจากกระทรวงการต่างประเทศ
พิจารณาเปลี่ยนใจกลับประเทศโดยเร็วที่สุด
สถานการณ์ความรุนแรงในอิสราเอล - กาซาตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2566 และกระทรวงการต่างประเทศได้ออกประกาศเตือนคนไทยและเรียกร้องให้เดินทางกลับประเทศไทยเป็นระยะ นั้น
ขณะนี้ กองทัพอิสราเอลได้เพิ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินในบริเวณฉนวนกาซาอย่างเข้มข้นขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลให้สถานการณ์สู้รบที่รุนแรงยิ่งขึ้น และเป็นอันตรายต่อชีวิตและความปลอดภัยของชาวไทยในอิสราเอล รวมถึงมีความเป็นไปได้ว่า การสู้รบจะขยายพื้นที่ซึ่งอาจส่งผลต่อการเดินทางภายในประเทศ และกระทบต่อกระบวนการอพยพอย่างมีนัยสำคัญ
รัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องคนไทยในอิสราเอลเป็นอย่างยิ่ง และขอเรียกร้องให้คนไทยในอิสราเอล เดินทางกลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุด และขอเชิญชวนให้ญาติพี่น้องที่อยู่ในประเทศไทย ช่วยแจ้งให้พี่น้องแรงงานที่ยังตัดสินใจอยู่ในอิสราเอล พิจารณาเปลี่ยนใจกลับประเทศโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ ท่านที่ประสงค์จะเดินทางกลับ สามารถแจ้งสถานทูตฯ หรือเดินทางมายังศูนย์พักพิงได้ทันที ที่:
รร. David InterContinental, Kaufmann Street 12, Tel Aviv- Yafo, 61501
โทรศัพท์ศูนย์พักพิง : 053-557-4115, 050-443 8094
โทรศัพท์สถานทูตฯ : 055-271 2201, 053-245 2826, 054-636 8150
ประกาศเตือนคนไทยในอิสราเอล
ประกาศเตือนคนไทยในอิสราเอล
ตามที่ได้เกิดเหตุจรวดโจมตีจากฉนวนกาซาไปยังหลายพื้นที่ในอิสราเอลและมีผู้ก่อการร้ายแทรกซึมเข้ามาในพื้นที่ของอิสราเอล ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ (7 ตุลาคม 2566) นั้น สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอเตือนให้คนไทย
- เข้าห้องหลบภัยทันทีที่ได้ยินเสียงไซเรน (หากไม่ทัน ให้หมอบราบลงกับพื้น ไม่ถ่ายรูป ไม่วิ่งไปที่โล่ง)
- ปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด
- ขอให้ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยในเขตภาคใต้ใกล้เคียงฉนวนกาซา และภาคกลาง (รวมถึงกรุงเทลอาวีฟ) ไม่ออกจากที่พักอาศัย
พี่น้องคนไทยที่ได้รับผลกระทบหรือมีข้อกังวล โปรดติดต่อได้ที่
- สถานเอกอัครราชทูตฯ หมายเลขโทรศัพท์ (+972) 546-368150
- กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ หมายเลข 02-5751047 , 02-5751048 , 02-5751049 , 02-5751050 , 02-5751051
- สายด่วน ฮอตไลน์ 055-271-2201 053-245-2826 และ 054-636-8150 (หมายเลขเดิม)
คลิปแนะนำ - ต้องทำอย่างไรเมื่อได้ยินเสียงจรวดโจมตี
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ แนะนำ ชมคลิป Youtube ข้อควรรู้สำหรับคนไทยในอิสราเอล "
ต้องทำอย่างไรเมื่อได้ยินเสียงจรวดโจมตี" เป็นแนวทางปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยของอิสราเอลอย่างเคร่งครัด เน้นย้ำว่าห้ามออกมาถ่ายรูป และเข้าบริเวณหลบภัยทันที
ด้วยความห่วงใย จากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ
ทำอย่างไรดี เมื่อมีเหตุจรวดโจมตีจากทางเหนือของอิสราเอล
ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์การโจมตีจากทางภาคเหนือของอิสราเอล นั้น สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแนะนำแนวทางปฏิบัติตน ดังนี้
1. ดาวน์โหลดแอพ Pikud Haoref ของกองทัพในโทรศัพท์มือถือ เปิดโลเคชั่น เปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ
2. เตรียมหาที่หลบภัยใกล้บ้าน ทดลองจับเวลาจากบ้านไปยังที่หลบภัย
3. เมื่อเสียงไซเรนดังขึ้น ให้รีบไปยังที่หลบภัยทันที และรอจนเสียงไซเรนหยุดลงจึงออกจากที่หลบภัย
4. หากเสียงไซเรนดังขณะที่อยู่นอกบ้าน ให้รีบไปยังบ้านใกล้เคียงเพื่อขอเข้าที่หลบภัย หรือหลบใกล้กำแพง หรือนอนราบบนพื้นโดยใช้มือป้องกันศีรษะ
5. หากอยู่ในอาคาร ให้ทำตามข้อแนะนำของเจ้าหน้าที่
6. หากอยู่ในรถ ให้หยุดรถและออกจากรถทันทีเพื่อไปยังที่หลบภัยที่ใกล้ที่สุด หรือหมอบราบบนพื้นหญ้าข้างทาง (อย่าหมอบราบบนถนน)
7. หากเสียงไซเรนดังขณะอยู่บ้าน ให้เข้าห้องหลบภัยโดยด่วน หรือหากไม่มีให้ไปขอใช้ห้องหลบภัยของเพื่อนบ้าน หรือหลบหลังบันได หากอยู่ชั้นสูงในอาคารที่พัก ให้ลงมาชั้นที่ต่ำกว่า
8. ในห้องหลบภัยควรเตรียมน้ำ ยา ที่ชาร์จโทรศัพท์ ฟูก และสิ่งจำเป็นอื่นๆ ให้พร้อม และเมื่อเสียงไซเรนดังขึ้น ให้รีบเข้าห้องหลบภัยโดยนำโทรศัพท์ติดตัวไปด้วย ปิดหน้าต่างเหล็กห้องนิรภัย และล็อคประตูให้เรียบร้อย
ด้วยความห่วงใย จากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ