1. รูปแบบโครงการฯ
ดำเนินการออกแบบโครงการฯ ภายใต้หลักสถาปัตยกรรมเพื่อทุกคน (Universal Design Architecture) ซึ่งคำนึงถึงสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ ภายใต้การกำกับดูแลของกรมธนารักษ์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยโครงการฯ ระยะที่ 1 มีห้องพักรวมทั้งสิ้น 921 ห้อง พื้นที่ใช้สอยประมาณ 31.71 ตารางเมตร - 49.66 ตารางเมตร ต่อห้อง เป็นอาคาร 8 ชั้น จำนวน 7 อาคาร พร้อมห้องพยาบาลประจำตึก พื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่จัดกิกรมสำหรับผู้สูงอายุ ได้แก่ สระว่ายน้ำ อาคาร Club House ห้องฟิตเนส เป็นต้น
2. คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ
2.1 มีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 58 (ห้าสิบแปด) ปี ณ วันที่จองสิทธิ และหรือมีอายุตั้งแต่ 60 (หกสิบ) ปีขึ้นไป ณ วันที่เข้าพักอาศัยจริง
2.2 มีสุขภาพแข็งแรง ช่วยเหลือพึ่งพาตัวเองได้ดี ไม่มีโรคหรืออาการของโรคอันเป็นอุปสรรคในการเข้าพักอาศัยภายในโครงการฯ ตามความเห็นของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
2.3 สามารถยอมรับเงื่อนไขค่าใช้จ่ายตามที่โครงการฯ กำหนด หรือยอมรับเงื่อนไขการขอสินเชื่อจากธนาคารที่เข้าร่วมโครงการฯ
3. สิทธิประโยชน์ของโครงการฯ
3.1 สิทธิประโยชน์ในการเข้าพักอาศัยในโครงการฯ ผู้สูงอายุได้รับสิทธิการพักอาศัย 30 (สามสิ) ปี และสามารถพักอาศัยได้ไม่เกิน 2 (สอง) คนต่อหน่วย/ยูนิต โดยเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตามข้อ 2.1 อย่างน้อย 1 (หนึ่ง) คน และไม่สามารถซื้อขายหรือโอนสิทธิให้บุคคลอื่นได้ เว้นแต่ขายคืนให้แก่ผู้บริหารโครงการฯ และหรือกรณีที่ประสงค์จะออกจากโครงการฯ ก่อนกำหนดหรือกรณีที่สุขภาพทรุดลงจนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ตามหลักเกณฑ์ของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี หรือ กรณีเสียชีวิต สิทธิการพักอาศัยจะถูกระงับทันทีโดยไม่ตกทอดแก่ทายาท ทั้งนี้ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) รัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงการคลังในฐานะผู้จัดสร้างและบริหารโครงการฯ จะมีข้อกำหนดในการคืนเงินของผู้ได้รับสิทธิอยู่อาศัยทั้ง 2 กรณี ให้กับผู้รับผลประโยชน์ในข้อเสนอโครงการฯ
3.2 สิทธิประโยชน์ด้านการดูแลรักษาพยาบาล
(1) กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถใช้บริการของสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์หรือโรงพยาบาลอื่นๆ ตามสิทธิของบุคคลนั้นๆ หรือหากเจ็บป่วยในะดับปฐมภูมิสามารถใช้บริการห้องตรวจผู้ป่วยนอก (Extended OPD) ที่ศูนย์เรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุแบบครบวงจรและบริบาลผู้ป่วยระยะท้าย (มีค่าใช้จ่ายตามสิทธิการรักษา)
(2) โครงการฯ มีการจัดทำโครการส่งเสริมสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ โดยใช้ระบบสมาชิก (Member) หรือรูปแบบผลิตภัณฑ์สุขภาพ (Health Package) ให้เลือกตามค่าใช้จ่ายที่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยศูนย์เรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุแบบครบวงจรและบริบาลผู้ป่วยระยะท้ายกำหนด
(3) เมื่อเข้าสู่ภาวะต้องพึ่งพิงหรือติดเตียงและเป็นผู้ป่วยระยะท้าย สามารถใช้บริการ Nursing Home Zone (พื้นที่ส่วนให้การดูแลสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการพักฟื้นและฟื้นฟูสุขภาพ) บริหารโดย คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และ Hospice Zone (พื้นที่ส่วนให้การดูแลผู้สูงอายุที่เป็นผู้ป่วยระยะท้าย) บริหารโดยศูนย์เรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุแบบครบวงจรและบริบาลผู้ป่วยระยะท้าย โดยมีหลักเกณฑ์และค่าใช้จ่ายตามที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีกำหนด
(4) สิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพอื่นๆ ตามที่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดีกำหนด
3.3 สิทธิประโยชน์ด้านสินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรนพิเศษจากสถาบันการเงินเฉพาะกิจและธนาคารรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงการคลัง
ผู้สูงอายุหรือบุตรหลานของผู้สูงอายุที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ สามารถขอรับสินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรนพิเศษเพื่อเช่าที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามาฯ - ธนารักษ์ จากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน หรือ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร ผู้เข้าร่วมโครงการฯ สามารถนำสิทธิการพักอาศัยไปผูกพันในการกู้เงินกับสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้ตามระเบียบของทางราชการ ทั้งนี้ ธนาคารทั้ง 3 แห่ง ขอสวนสิทธิในการพิจารณาสินเชื่อตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ธนาคารแต่ละแห่งกำหนด
4. การเปิดจองสิทธิ
ผู้สูงอายุหรือบุตรหลานของผู้สูงอายุสามารถศึกษารายละเอียดของโครงการฯ คุณสมบัติ เงือนไข และแนวทางการคัดเลือกผู้สูงอายุผ่านทางเว็บไซต์ของกรมธนารักษ์
https://www.treasury.go.th หรือสำนักงานธนารักษ์พื้นที่สมุทรปราการ
https://samutprakan.treasury.go.th และเว็บไซต์เครือข่ายพันธมิตรโครงการฯ ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
https:/med.mahidol.ac.th และ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด https:/www.dad.co.th หรือหน่วยงานพันธมิตรโครงการฯ ซึ่งจะได้ประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน สำหรับ
โครงการฯ ในระยะที่ 1 มีกำหนดรับจองสิทธิพร้อมกันทั่ประเทศ วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2563 ถึงวันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2563 โดยมีรายละเอียดดังนี้
4.1 รูปแบบการเปิดจอง
(1) จองผ่านระบบอินเตอร์เน็ต โดยให้ผู้สูงอายุหรือตัวแทนแสดงความประสงค์และจัดส่งเอกสาร (upload) ผ่านเว็บไซต์ของกรมธนารักษ์
https://www.treasury.go.th หรือสำนักงานธนารักษ์พื้นที่สมุทรปราการ https://samutprakan.treasury.go.th และเว็บไซต์เครือข่ายพันธมิตรโครงการฯ ได้แก่ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
https://med.mahidol.ac.th และ บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด
https://www.dad.co.th
(2) จองผ่านเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย (Walk in) ตามจุดต่างๆ ที่ทางราชการได้จัดเตรียมไว้เพื่ออำนวยความสะดวก (เฉพาะวันและเวลาราชการ 08.30 น. - 16.30 น. เท่านั้น เว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) โดยต้องจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการจองสิทธิผ่านระบบข้างต้น และหน่วยงานผู้รับจองจะได้จัดส่งเอกสารประกอบการจองที่เกี่ยวข้องผ่านระบบตามลำดับต่อไป ทั้งนี้ จะประกาศแจ้งวัน เวลา และสถานที่ของหน่วยรับจองให้ทราบโดยทั่วกันต่อไป
ลำดับในการจองตามข้อ (1) - (2) ไม่มีผลต่อการเลือกห้อง ชั้น และอาคาร และการจองสิทธิไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
4.2 เอกสารประกอบการจองสิทธิในระบบ
ผู้สนใจจะต้องจัดเตรียมเอกสารหลักฐาน (pdf fle) ประกอบด้วย
(1) สำเนาบัตรประชาชน
(2) สำเนาใบเปลี่ยนชื่อสกุล (ถ้ามี)
(3) เอกสารอื่นๆ ซึ่งทางราชการขอให้จัดส่งเพิ่มเติม หรือใช้ประกอบการ upload ในระบบจองสิทธิ (จะแจ้งให้ทราบก่อน)
ทั้งนี้ ในการเปิดจอง จะแบ่งห้องพักเป็นกลุ่มราคาต่างๆ โดยผู้สนใจจะต้องแสดงความประสงค์ห้องพักประเภทใดประเภทหนึ่ง พร้อมทั้ง upload เอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยผู้แสดงความประสงค์ และผู้ได้รับสิทธิจะต้องป็นบุคคลเดียวกัน และสามารถเปลี่ยนแปลงความประสงค์ได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563
โดยราคาที่ระบุในระบบจองเป็นราคาเริ่มต้นของห้องพักในแต่ละแบบ ซึ่ง ธพส. จะแจ้งรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระก่อนดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
กรมธนารักษ์สงวนสิทธิในการพิจารณากำหนดหรือขยายระยะเวลาในการเปิดจองสิทธิ (วันที่เริ่มต้นและวันที่สิ้นสุดการจองสิทธิ) โดยถือว่าข้อมูลบุคคลที่ระบุไว้ในระบบเป็นข้อมูลที่ผู้แสดงความประสงค์ได้ตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องแล้ว อีกทั้งในการใช้ข้อมูลบุคคลที่ได้จัดส่งในระบบเพื่อวัตถุประสงค์ในการคัดกรองสิทธิร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ธนาคารอาคารสเคราะห์ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธพส. ตลอดจนสงวนสิทธิในการพิจารณาผู้ได้รับการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ทางราชการกำหนด
5. แนวทางการคัดเลือกผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิเข้าพักอาศัยภายในโครงการฯ
5.1 การดำเนินการคัดเลือก
ธพส. โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารโครงการฯ จะดำเนินการพิจารณา คัดเลือกผู้สูงอายุตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) ผู้สูงอายุจะต้องมีคุณสมบัติตามที่โครงการฯ กำหนด โดยเริ่มพิจารณาผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 58 (ห้าสิบแปด) ปี ขึ้นไป ที่ได้แสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านระบบจองสิทธิในช่องทางต่งๆ ที่คณะกรรมการบริหารโครงการๆ กำหนด
(2) มีความสามารถทางการเงินในการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการพักอาศัยภายในโครงการฯ และหรือสามาถรับเงื่อนไขการขอสินเชื่อกับธนาคารที่เข้าร่วมโครงการฯ (เฉพาะกรณีที่ผู้สูงอายุหรือบุตรหลานมีความประสด์ขอรับสินเชื่อ) และมีรายได้หลังเกษียณอย่างน้อย 30,000 บาท (สามหมื่นบาทถ้วน) ต่อเดือน โดยอาจเป็นรายได้โดยตรงของผู้สูงอายุ เช่น เงินบำนาญ เงินฝาก เงินออม หรือเงินสนับสนุนจากบุตรหลาน
(3) สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่มีโรคหรืออาการของโรคอันเป็นอุปสรรคต่อการเข้าพักภายในโครงการฯ และจะต้องยินยอมให้คัดกรองสุขภาพตามหลักเกณฑ์ที่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดีกำหนดก่อน จึงจะสามารถข้าพักอาศัยในโครงการฯ ทั้งนี้ รายละเอียดการเข้ารับการคัดกรองสุขภาพ วัน เวลา และสถานที่ คณะกรรมการบริหารโครงการฯ จะประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
(4) สามารถทำสัญญาภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนด
(5) หลักเกณฑ์อื่นๆ ซึ่งคณะกรรมการบริหารโครงการฯ พิจารณาแล้วเห็นสมควรกำหนดเป็นหลักเกณฑ์ประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ โดยจะได้ประกาศให้ประชาชนทราบโดยทั่วกัน
5.2 วิธีการคัดเลือก
ธพส. จะเป็นผู้ดำเนินการจับสลากห้องพักให้กับผู้ที่ผ่านการพิจารณาตามข้อ 5.1 ทั้งนี้ การพิจารณาของ ธพส. โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารโครงการฯ ถือเป็นที่สุด
5.3 การประกาศผลการคัดเลือก
ธพส.โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารโครงการฯ จะประกาศผลการตรวจสอบเอกสารหลักฐานและการคัดเลือกตามช่องทางที่ทางราชการกำหนดต่อไป โดยผู้ได้รับการคัดเลือกต้องดำเนินการตามขั้นตอนภายในระยะเวลาที่ทางราชการกำหนดเท่านั้น
6. การดำเนินการจัดสร้างและบริหารโครงการฯ
ดำเนินการจัดสร้างและบริหารโครงการ "ที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามาฯ - ธนารักษ์" จังหวัดสมุทรปรการ โดย ธพส. ซึ่งสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดโครงการฯ ได้ที่ ธพส. (ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ) เลขที่ 120 อาคารธนพิพัฒน์ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210 โทรศัพท์ 021422276, 021422283
7. ประมาณการค่าใช้จ่าย
ผู้สูงอายุต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเพื่อเข้าพักอาศัย โดยมีประมาณการค่าใช้จ่ายประกอบด้วย
(1) ค่าเช่าสิทธิห้องพักจาก ธพส. ซึ่งมี 5 ระดับราคา ดังนี้
- ขนาดห้อง 31.71 ตรม / จำนวน 190 ห้อง / ราคาเริ่มต้น 1,820,000 บาท
- ขนาดห้อง 31.71 ตรม / จำนวน 79 ห้อง / ราคาเริ่มต้น 1,999,999 บาท
ขนาดห้อง 31.87 ตรม / จำนวน 488 ห้อง / ราคาเริ่มต้น 1,999,999 บาท
- ขนาดห้อง 33.16 ตรม / จำนวน 53 ห้อง / ราคาเริ่มต้น 2,100,000 บาท
ขนาดห้อง 33.68 ตรม / จำนวน 51 ห้อง / ราคาเริ่มต้น 2,100,000 บาท
- ขนาดห้อง 45.72 ตรม / จำนวน 36 ห้อง / ราคาเริ่มต้น 2,800,000 บาท
ขนาดห้อง 46.48 ตรม / จำนวน 10 ห้อง / ราคาเริ่มต้น 2,800,000 บาท
- ขนาดห้อง 49.66 ตรม / จำนวน 14 ห้อง / ราคาเริ่มต้น 2,999,999 บาท
หมายเหตุ
ราคารวมเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าบางรายการ ประกอบด้วย โทรทัศน์ ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น และ ไมโครเวฟ (ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ธพส.) ทั้งนี้จะต้องชำระเงินดาวน์และเงินงวดตลอดระยะเวลาก่อสร้างตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ธพส. กำหนด
(2) ค่าใช้จ่ายส่วนกลางในการดูแลรักษาอาคารเริ่มต้น ประมาณเดือนละ 2,000 บาท (สองพันบาทถ้วน) ชำระเป็นรายปี กำหนดล่วงหน้า 3 ปี
(3) ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพเดือนละ 2,000 บาท (สองพันบาทถ้วน) ต่อท่านชำระเป็นรายปี กำหนดล่วงหน้า 1 ปี
(4) ผู้สูงอายุที่ได้รับการคัดเลือกจะต้องเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารพันธมิตรโครงการฯ ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน หรือ บมจ. ธนาคารกรุงไทย ในลักษณะเงินฝากประจำ (Escrow Account) จำนวนเงิน 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) โดยมีเงื่อนไขในการเบิกจ่ายเพื่อให้เป็นทุนสำรองในการดำรงชีพขณะอยู่ในโครงการฯ เท่านั้น และจะต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้บริหารโครงการฯ ในการถอนหรือปิดบัญชี
(5) ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ (ชำระตามจริง)
ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้เป็นไปตามที่ ธพส. และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีกำหนด โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารโครงการฯ โดยสงวนสิทธิในการปรับปรุงค่าใช้จ่ายดังกล่าวให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
8. การเข้าพักอาศัยภายในโครงการฯ
ธพส. จะแจ้งให้ผู้สูงอายุแต่ละรายทราบเมื่อโครงการฯ ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมส่งมอบห้องพักให้ผู้สูงอายุตามที่ได้จองสิทธิไว้ โดยผู้สูงอายุมีหน้าที่ในการดูแลรักษาห้องพักดั่งวิญญูชน จะพึงสวนทรัพย์สินของตนเอง ตลอดจนมีหน้าที่ในการชำระค่าสาธารณูปโภค ค่าส่วนกลาง ค่าดูแลสุขภาพ ตามที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยบาลรามาธิบดีกำหนด ค่าใช้จ่ายอื่นระหว่างที่พักในโครงการฯ ด้วยตัวเอง ซึ่ง ธพส. จะแจ้งรายละเอียดให้ทราบโดยทั่วกัน ทั้งนี้ ผู้สูงอายุจะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพตามข้อ 3.2 และตามที่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี จะประกาศกำหนดในภายภาคหน้า และเพื่อให้โครงการ "ที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามาฯ - ธนรักษ์" เป็นโครงการต้นแบบในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุแบบองค์รวม จึงกำหนดให้โครงการ "ที่พักอาศัยผู้สูงอยุ รามาฯ - ธนารักษ์" เป็นเขตปลอดบุหรี่ทั้งโครงการ (พื้นที่ภายในห้องพักและพื้นที่ส่วนกลาง)
9. การออกจากโครงการฯ
ผู้สูงอายุในโครงการฯ สามารถออกจากโครงการฯ ได้ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) เสียชีวิต โดยคู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายที่อาศัยอยู่ร่วมกัน มีอายุ 60 (หกสิบ) ปืขึ้นไป และมีสภาวะสุขภาพตามหลักเกณฑ์ที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีกำหนดเท่านั้น สามารถที่จะพักอาศัยในโครงการฯ ต่อไปได้จนครบอายุสัญญา
(2) ผู้สูงอายุที่มีสุขภาพทรุดลงและไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ต้องย้ายออกจากโครงการฯ ตามเกณฑ์ที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดีกำหนด
อนึ่ง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการส่งต่อผู้สูงอายุ (Discharge) ไปยังศูนย์เรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุแบบครบวงจรและบริบาลผู้ป่วยระยะท้าย (Hospice Zone) และพื้นที่สำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการพักฟื้นและฟื้นฟูสุขภาพ (Nursing Home Zone) ให้เป็นไปตามที่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดีกำหนด
(3) ประสงค์จะออกจากโครงการฯ ก่อนกำหนด โดยแจ้งความประสงค์ต่อผู้บริหารโครงการฯ
ทั้งนี้ สิทธิการพักอาศัยจะถูกระงับทันที่โดยไม่ตกทอดแก่ทายาท และผู้สูงอายุหรือทายาทสามารถขายสิทธิคืนให้กับผู้บริหารโครงการฯ เท่านั้น โดยจะพิจารณาคืนเงินเป็นจำนวนร้อยละของราคาห้องพักอาศัยตามข้อตกลงที่กำหนดและจะคืนเงินให้ภายหลังจากที่หาผู้เข้าพักอาศัยรายใหม่ได้แล้ว
10. ข้อสงวนสิทธิ
คณะกรมการบริหารโครงการฯ สงวนสิทธิในการปรับปรุงแก้ไขหรือยกเลิกรายละเอียดในประกาศฉบับนี้ หรือในกรณีที่การดำเนิโครงการฯ มีประเด็นซึ่งต้องวินิจฉัย หรือไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ได้ประกาศไว้ หรือมิได้กำหนดไว้ในประกาศฉบับนี้ ให้การวินิจฉัยของคณะกรรมการบริหารโครงการฯถือเป็นที่สิ้นสุด
จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
ประกาศ ณ วันที่ 2 พ.ย. 2563
(นายยุทธนา หยิมการุณ)
อธิบดีกรมธนารักษ์
ประธานกรรมการ
(ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ปิยะมิตร ศรีธรา)
คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
ประธานกรรมการร่วม
/// NEWS ////////
กรมธนารักษ์เดินหน้าพัฒนาโครงการ “ที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามา-ธนารักษ์ บ้านสวัสดิการกรมธนารักษ์ และบ้านพักข้าราชการ”
กรมธนารักษ์จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU : Memorandum of Understanding) โครงการบูรณาการสวัสดิการที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามา - ธนารักษ์ และบ้านพักข้าราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563
กรมธนารักษ์จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU : Memorandum of Understanding) การบริหารจัดการที่ราชพัสดุ โครงการ “ที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามา-ธนารักษ์” โครงการ “บ้านสวัสดิการกรมธนารักษ์บนที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ นม.2612 (บางส่วน) ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา” โครงการ “บูรณาการสวัสดิการที่พักอาศัยกับสถานที่ทำงานและศูนย์บริการของข้าราชการพลเรือนสามัญ” เพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Ageing Society) ของประเทศ และเพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากจากโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บนที่ราชพัสดุที่มีศักยภาพ รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เจ้าหน้าที่ และบุคลากรของรัฐ
วันนี้ (14 สิงหาคม 2563) ณ กรมธนารักษ์ นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU : Memorandum of Understanding) โครงการบูรณาการสวัสดิการที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามา - ธนารักษ์ และบ้านพักข้าราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง กรมธนารักษ์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้เกียรติเป็นประธานพิธีลงนาม ซึ่งมีรายละเอียดของโครงการ ดังนี้
1. โครงการ “ที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามา-ธนารักษ์” บนที่ราชพัสดุ จังหวัดสมุทรปราการ
กรมธนารักษ์ได้ร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ดำเนินโครงการฯ บนที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สป.623 ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เนื้อที่ประมาณ 20-0-00 ไร่ และยังได้มีการขยายโครงการดังกล่าวในระยะที่ 2 อีก 50 ไร่ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้สูงอายุมีระบบการดูแลสุขภาพและสวัสดิการอื่นๆ แบบครบวงจร รวมทั้งให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยโครงการดังกล่าวถือว่าเป็นโครงการนำร่องของกรมธนารักษ์และจะนำไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในจังหวัดอื่นต่อไป
2. โครงการ “บ้านสวัสดิการกรมธนารักษ์บนที่ราชพัสดุ” จังหวัดนครราชสีมา
กรมธนารักษ์ได้ร่วมมือกับส่วนราชการต่างๆ ดำเนินโครงการฯ บนที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ นม.2612 (บางส่วน) ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เนื้อที่ประมาณ 31-1-89 ไร่ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการจัดสวัสดิการด้านที่พักอาศัยให้แก่ข้าราชการและลูกจ้างของหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างขวัญและกำลังใจของข้าราชการและลูกจ้างตามความจำเป็นขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะเปิดจองพร้อมกันในวันที่ 14 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป
3. โครงการ “บูรณาการสวัสดิการที่พักอาศัยกับสถานที่ทำงานและศูนย์บริการของข้าราชการพลเรือนสามัญ”
กรมธนารักษ์ได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) เพื่อพัฒนาแนวคิดในการจัดสวัสดิการและเสริมสร้างคุณภาพงาน คุณภาพชีวิตให้แก่ข้าราชการพลเรือน โดยได้บูรณาการเรื่องของสถานที่พักอาศัย สถานที่ทำงาน และศูนย์บริการประชาชนให้อยู่ในพื้นที่เดียวกัน โดยนำ ที่ราชพัสดุมาดำเนินโครงการบูรณาการสวัสดิการที่พักอาศัยกับสถานที่ทำงาน และศูนย์บริการของข้าราชการพลเรือนสามัญ
นอกจากนี้ กรมธนารักษ์ยังได้มีการเปิดให้จองโครงการบ้านสวัสดิการในพื้นที่จังหวัดชลบุรี บนที่ราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชบ.633 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เนื้อที่ประมาณ 46-2-88 ไร่ เพื่อเป็นสวัสดิการด้านที่พักอาศัยให้กับข้าราชการและลูกจ้างของหน่วยงานภาครัฐ ภายในงานแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย
สำหรับโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุทั้ง 4 โครงการดังกล่าว กรมธนารักษ์ได้ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากผ่านโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บนที่ราชพัสดุที่มีศักยภาพเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้ง ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เจ้าหน้าที่และบุคลากรของรัฐอีกด้วย
ThaiGov News