รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นต้นแบบความร่วมมือวิสาหกิจชุมชนวิจัยพัฒนาสมุนไพรไทยครบวงจร พร้อมยกระดับผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทยสู่ตลาดโลก
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตรวจเยี่ยมการวิจัยและพัฒนาสมุนไพรไทยของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร และให้สัมภาษณ์ว่า โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นโรงพยาบาลต้นแบบการวิจัยพัฒนาสมุนไพรไทยครบวงจร ตั้งแต่กระบวนการปลูก การผลิต การแปรรูปสมุนไพรเวชภัณฑ์และเครื่องสำอาง การใช้สมุนไพรบำบัดรักษาโรค จนเป็นที่ยอมรับ ได้รับความนิยมจากประชาชน รวมทั้งการศึกษาวิจัยพืชกัญชาทางการแพทย์ เป็นสถานที่ผลิตน้ำมันกัญชาทางการแพทย์ ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนจำนวน 4 แห่ง ปลูก ผลิต และกระจายยากัญชาไปยังคลินิกกัญชาทางการแพทย์ ในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ ข้อมูลวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ได้กระจายยากัญชาไปมากกว่า 37,394 ขวด ใน 458 แห่ง สำหรับโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เปิดคลินิกกัญชาทางการแพทย์ ให้บริการทั้งแผนปัจจุบันและแผนไทยมากว่า 1 ปี โดยแผนปัจจุบันมีผู้ป่วย 133 ราย จ่ายยาน้ำมันกัญชาไปแล้ว 425 ขวด ช่วยลดความปวด ช่วยเจริญอาหารและนอนหลับ ในผู้ป่วยมะเร็งและผู้ป่วยปวดระบบประสาท ส่วนด้านการแพทย์แผนไทย จ่ายตำรับยาสุขไสยาศน์ ช่วยนอนหลับ เจริญอาหาร เพิ่มคุณภาพชีวิต และลดการใช้ยาแผนปัจจุบัน การรักษาได้ผลดี ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้มีการนำกัญชามาใช้ในสปา เช่น นวดน้ำมันอโรมาผสมน้ำมันกัญชา แช่น้ำสมุนไพรผสมกัญชา และนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหาร และเครื่องดื่ม ในปริมาณที่เหมาะสมทำให้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับประชาชนและภาคธุรกิจ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนสมุนไพรอย่างเป็นระบบ ล่าสุดได้ใช้พื้นที่หาดยาง จ.ปราจีนบุรี ทำโครงการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรเกษตรอินทรีย์ต้นแบบ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ สร้างความรู้ความเข้าใจพื้นฐาน ตั้งแต่การปลูก ผลิต แปรรูปและเพิ่มมูลค่าสมุนไพร 5 กลุ่ม คือ สมุนไพรเพื่อสมองดี เช่น บัวบก ตำรับกลีบบัวแดง สมุนไพรปรับสมดุลอารมณ์ เช่น กัญชา กัญชง สมุนไพรดูแลหัวใจดี เช่น บัวหลวง สมุนไพรที่ดูแลกลุ่มกระดูกและข้อ เช่น ขมิ้นชัน เพชรสังฆาต และสมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกัน เช่น ฟ้าทะลายโจร เป็นต้น เป็นการยกระดับอุตสาหกรรมสมุนไพร ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรสมุนไพร สร้างความมั่นคงทางพันธุ์พืชของชาติและเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร
30 มีนาคม 2564