คลินิกฝากครรภ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์
เพราะเราเข้าใจช่วงเวลาที่สำคัญของคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคน
การดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ควรได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง โดยโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ มีแพทย์เฉพาะทางเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ร่วมกับทีมแพทย์สูตินรีเวช ที่จะช่วยดูแลการฝากครรภ์แบบเชิงลึก พร้อมตรวจหาความเสี่ยง อัลตราซาวด์ดูความสมบูรณ์ของทารก ประเมินการรักษา และป้องกันความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดตลอดการตั้งครรภ์ เพื่อให้คุณแม่และเจ้าตัวน้อยมีสุขภาพที่แข็งแรงพร้อมเติบโตอย่างมีคุณภาพในอนาคต
การบริการที่ครอบคลุม
ดูแลรับฝากครรภ์ และบริการตรวจเลือดตามมาตรฐาน รวมถึงการตรวจคัดกรองเบาหวานขณะตั้งครรภ์
ตรวจคัดกรองและวินิจฉัยความผิดปกติของทารกในครรภ์
ตรวจอัลตราซาวด์ระหว่างการตั้งครรภ์ เพื่อประเมินความสมบรูณ์ของทารกในครรภ์ แนะนำอย่างน้อย 3 ครั้ง ประกอบด้วย
1. อัลตราซาวด์ประเมินความหนาถุงน้ำหลังคอทารกในช่วงอายุครรภ์ 11-14 สัปดาห์
2. อัลตราซาวด์ประเมินความสมบูรณ์ทางโครงสร้างของทารกในช่วงอายุครรภ์ 18-23 สัปดาห์
3. อัลตราซาวด์ประเมินการเจริญเติบโต ภาวะรกเกาะต่ำ และปริมาณน้ำคร่ำในช่วงอายุครรภ์ 32-36 สัปดาห์
การเจาะเลือดตรวจคัดกรองความเสี่ยงดาวน์ซินโดรม และความผิดปกติทางโครโมโซมที่สำคัญ
ตรวจความผิดปกติทางพันธุกรรมของทารกในครรภ์ เช่น การเจาะน้ำคร่ำ การเจาะชิ้นเนื้อรก เจาะเลือดสายสะดือ
รักษาทารกในครรภ์ที่มีความผิดปกติตั้งแต่อยู่ในครรภ์
แนะนำและให้คำปรึกษาเมื่อสงสัยหรือตรวจพบว่าทารกในครรภ์มีภาวะผิดปกติ
ตรวจสุขภาพทารกในครรภ์ตามข้อบ่งชี้ด้วย Non-stress test
บริการวัคซีนที่จำเป็นสำหรับสตรีตั้งครรภ์ ประกอบด้วยวัคซีนป้องกันบาดทะยัก ไอกรน และไข้หวัดใหญ่
ประโยชน์ของการตรวจอัลตราซาวด์ระหว่างการตั้งครรภ์
เพื่อตรวจความผิดปกติของโครงสร้างร่างกายทารกในครรภ์ และการวัดขนาดของทารกด้วยการอัลตราซาวนด์ช่วยในการยืนยันอายุครรภ์ และกำหนดวันคลอดได้แม่นยำมากขึ้น ซึ่งมีประโยชน์ในการดูแลช่วงเวลาใกล้คลอด อีกทั้งยังช่วยป้องกันการตั้งครรภ์เกินกำหนด ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อทารกในครรภ์ได้ ในปัจจุบันการตรวจอัลตราซาวนด์ตามมาตรฐานถือเป็นการตรวจที่มีประโยชน์และปลอดภัยสำหรับสตรีตั้งครรภ์ แม้จะมีข้อจำกัดของการตรวจอัลตราซาวด์อยู่บ้าง เช่น ความผิดปกติบางอย่างที่วินิจฉัยไม่ได้ โดยเฉพาะความผิดปกติของอวัยวะที่มีขนาดเล็กมาก เช่น หัวใจพิการแต่กำเนิดบางประเภท หรือการทำงานของอวัยวะต่างๆ
ประเภทของอัลตราซาวนด์
อัลตราซาด์ 2 มิติ (2D ultrasound) เป็นภาพระนาบเดียว เพื่อตรวจดูขนาด และความผิดปกติของอวัยวะต่างๆ และการไหลเวียนเลือดของทารกในครรภ์ พร้อมตรวจอวัยวะในอุ้งเชิงกรานของแม่
อัลตราซาวด์ 3 มิติ (3D ultrasound) เป็นภาพนิ่งเสมือนจริง โดยภาพจะมีความลึก ใช้วินิจฉัยร่วมกับอัลตราซาวด์แบบ 2 มิติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวินิจฉัย กรณีพบความผิดปกติของทารกในครรภ์บางอย่าง
อัลตราซาวด์ 4 มิติ (4D ultrasound) เป็นเทคโนโลยีล่าสุดภาพ 3 มิติเคลื่อนไหวได้ สามารถตรวจเห็นภาพในเชิงลึก เห็นภาพการเคลื่อนไหวและอิริยาบถต่างๆ ของทารกในครรภ์ จุดประสงค์การใช้เช่นเดียวกับอัลตราซาวด์ 3 มิติ
ช่วงอายุครรภ์ที่แนะนำตรวจอัลตราซาวด์ แนะนำอย่างน้อย 3 ครั้ง
ช่วงอายุครรภ์ 11-14 สัปดาห์ ควรทำอัลตราซาวนด์ประเมินอายุครรภ์ เนื่องจากการอัลตราซาวด์ในไตรมาสแรกจะสามารถประเมินอายุครรภ์ได้แม่นยำที่สุด นอกจากนี้สามารถประเมินความหนาถุงน้ำหลังคอทารก คัดกรองความเสี่ยงภาวะดาวน์ซินโดรม ประเมินความเสี่ยงภาวะครรภ์เป็นพิษ ตรวจความผิดปกติที่รุนแรงของทารกบางชนิด ร่วมกับตรวจประเมินอวัยวะในอุ้งเชิงกรานของมารดา
ช่วงอายุครรภ์ 18-23 สัปดาห์ ควรทำอัลตราซาวด์ประเมินความสมบูรณ์ทางโครงสร้างของทารก การเจริญเติบโต น้ำคร่ำ ภาวะรกเกาะต่ำ โดยในช่วงอายุครรภ์นี้การประเมินโครงสร้างจะทำได้แม่นยำและมีประโยชน์ในการวางแผนดูแลการรักษาเมื่อเทียบกับช่วงอายุครรภ์อื่น
ช่วงอายุครรภ์ 32-36 สัปดาห์ ควรทำอัลตราซาวด์ประเมินการเจริญเติบโต ภาวะรกเกาะต่ำ ส่วนนำทารก และปริมาณน้ำคร่ำ
คลินิกฝากครรภ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์
วันอังคาร, พุธ, ศุกร์ เวลา 13.00 - 16.00 น.
วันพฤหัสบดี เวลา 09.00 - 12.00 น.