ข่าวสุขภาพ
ค้นหา รพ.-คลินิก-ร้านยาทั่วไทย ร้านยาคุณภาพของฉัน บริการสุขภาพ คลินิกเอกชน งาน รพ.
บริการวัคซีนโควิด บริการตรวจโควิด
ตำแหน่งงาน
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าวธุรกิจสุขภาพรอบโลก กิจกรรม-บริการ รพ.ต่างๆ สิทธิสุขภาพชาวไทย สาระความรู้สุขภาพ Health Economy ท่องเที่ยวสุขภาพ กิจกรรม ESG CSR กิจกรรม Event บริจาค
น่าสนใจไทยแลนด์
English
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

ฝนตกบ่อยแบบนี้ สภาพแวดล้อมอย่างดีของไรฝุ่น

ฝนตกบ่อยแบบนี้ สภาพแวดล้อมอย่างดีของไรฝุ่น HealthServ.net

ซ้ำผลการวิจัยพบว่าฝนตกหนักยิ่งทำให้ฝุ่นกระจายและมีขนาดเล็กลง - ผ่านมาแล้วสักพักกับฝนตกหนักทั่วประเทศไทยในฤดูฝนปีนี้ แต่นอกจากน้ำท่วมหรือการเดินทางอันแสนลำบากแล้วนั้นยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่มากับฝนด้วยนั่นก็คือฝุ่น สำหรับใครที่เป็นภูมิแพ้ อย่าเพิ่งชะล่าใจว่าหน้าฝนแบบนี้เหล่าฝนพรำจะคอยช่วยชะล้างฝุ่นละอองให้หายไป จนไม่ต้องสนใจเรื่องคุณภาพอากาศ เพราะแท้จริงแล้วฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ ไม่ได้หายไปไหน แม้จะเป็นช่วงหน้าฝนและยังคงวนเวียนใกล้ตัวคุณมากกว่าที่คิด

ฝนตกบ่อยแบบนี้ สภาพแวดล้อมอย่างดีของไรฝุ่น ThumbMobile HealthServ.net
 
 
 
 
เป็นที่รู้กันว่าฤดูหนาวเป็นเวลาของฝุ่น PM 2.5 ในหลายๆ ปีที่ผ่านมา เราจึงมีการเตรียมตัวเพื่อป้องกันอันตรายจากเจ้าละอองฝุ่นนี้ในช่วงหน้าหนาว ไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่หน้ากากอนามัยที่มีประสิทธิภาพในการกรองสูง หรือการซื้อเครื่องกรองอากาศ หรือแม้แต่การปลูกต้นไม้ฟอกอากาศภายในบ้านเพื่อช่วยดูดซับฝุ่นละออง แต่เมื่อถึงฤดูฝน การป้องกันเหล่านั้นกลับถูกละเลย
 
 
 
จากการศึกษาโดยภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา1 พบว่าพายุฝนทำให้ฝุ่นสามารถกระจายได้ดีกว่าเดิม เพราะแรงกดอากาศสูงและกระแสลมแรงสามารถทำให้ฝุ่นละอองแตกละเอียดขึ้น ฝุ่นจึงมีขนาดเล็กลงและกระจายตัวได้ดีขึ้น เมื่อฝุ่นฟุ้งกระจายมากยิ่งขึ้น ก็ยิ่งทำให้เรามีโอกาสที่จะสูดดมเข้าสู่ร่างกายได้เยอะขึ้น รวมถึงวิกฤตการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลกเราในปัจจุบัน ยังทำให้ฤดูฝุ่นมีระยะเวลานานและหนักขึ้น เรียกได้ว่า ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงฤดูไหนของปี เจ้าฝุ่นขนาดเล็กซึ่งรวมไปถึง PM 2.5 ที่เรารู้จักกันดีก็ไม่ได้หายไปเลย
 
 
นอกจากนี้ในช่วงฤดูฝน ยังมีอีกเรื่องที่น่าห่วงไม่แพ้กันก็คือ ไรฝุ่น ศัตรูตัวร้ายของคนเป็นภูมิแพ้ ที่ซ่อนตัวอยู่ตามชุดเครื่องนอน โซฟา ผ้าม่านต่างๆ ในบ้าน ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าในช่วงฤดูฝนนั้น เป็นช่วงที่สภาพอากาศมีความชื้นสูง ไรฝุ่นจึงเจริญเติบโตได้ดี ดังนั้นการหมั่นตรวจตราความชื้นที่เกิดขึ้นภายในบ้านก็เป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรละเลย
 
 
 
จะเห็นได้ว่า สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้แล้ว ไม่ว่าจะฤดูไหน การดูแลคุณภาพของอากาศในที่อยู่อาศัยจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเราไม่อาจควบคุมสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นนอกบ้านได้ แต่เมื่อเข้ามาในบ้านของเราแล้ว การได้รับอากาศที่บริสุทธิ์ สะอาด ไร้ฝุ่น PM 2.5 รวมถึงสามารถรู้ถึงอุณหภูมิและความชื้นได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ย่อมต้องดีกับสุขภาพของเราอย่างแน่นอน ดังนั้นทางเลือกเพื่อสุขภาพที่น่าสนใจสำหรับใครที่เป็นภูมิแพ้หรือมีสมาชิกในครอบครัวคนไหนเป็นภูมิแพ้ การมีเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพในบ้านสักเครื่องจึงเป็นสิ่งจำเป็น เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพราะสามารถใช้ได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นฤดูอะไรก็ตาม
 
 
 
สิ่งที่ควรมองหาในเครื่องกรองอากาศประการแรกคือเครื่องต้องมีระบบฟูลซีล  ที่ปิดผนึกไม่ให้อากาศที่ไม่สะอาดไหลรอดออกมาได้ รวมถึงความสามารถในการกรองมลพิษในอากาศได้หลายชนิดรวมถึงความสามารถในการตรวจจับฝุ่นละอองที่มีประสิทธิภาพด้วย และเพื่อให้มั่นใจได้ว่าอากาศที่ผ่านการกรองแล้วจะไม่กระจุกอยู่แค่บริเวณรอบๆ เครื่องกรองอากาศของคุณ ก็อย่าลืมมองหาเครื่องกรองอากาศที่ทำหน้าที่เหมือนพัดลมที่สามารถส่งกระแสลมบริสุทธิ์ไปทั่วบ้านได้ ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนก็มั่นใจได้ว่าอากาศจะไร้มลพิษ
 
 
 
ทั้งหมดนี้สามารถทำได้ด้วยพัดลมกรองอากาศ Dyson Purifier Cool TP07 และ Dyson Purifier Cool Formaldehyde TP09 เครื่องกรองอากาศจาก Dyson ที่มีเทคโนโลยีปิดผนึกมิดชิดตามมาตรฐาน HEPA H13 สามารถดักจับฝุ่น สารก่อภูมิแพ้และไวรัสได้ถึง 99.9% ซึ่งรุ่น TP09 เป็นรุ่นที่สามารถดักจับสารฟอร์มัลดีไฮด์ที่เกิดจากเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านได้อีกด้วย ใครที่กำลังมองหาเครื่องกรองอากาศสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
ฝนตกบ่อยแบบนี้ สภาพแวดล้อมอย่างดีของไรฝุ่น HealthServ

เกี่ยวกับ Dyson
 
Dyson คือบริษัทด้านการวิจัยและเทคโนโลยีระดับโลก ด้วยงานด้านวิศวกรรม วิจัย พัฒนา ผลิต และทดสอบการปฏิบัติการในสิงคโปร์ สหราชอาณาจักร มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ เริ่มต้นจากโรงรถในสหราชอาณาจักร Dyson เติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1993 ปัจจุบัน Dyson มีสำนักงานเทคโนโลยี 2 แห่งในสหราชอาณาจักรภายใต้พื้นที่กว่า 800 เอเคอร์ใน มาล์มสบิวรี และ ฮัลลาวิงตัน และสำนักงานใหญ่ที่สิงคโปร์ Dyson ได้ลงทุนในสำนักงานที่ วิลต์เชอร์ และห้องทดลองไปกว่า 1 พันล้านปอนด์เพื่อวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของ Dyson ในอนาคต Dyson ยังคงเป็นบริษัทของครอบครัวที่มีพนักงานกว่า 13,000 คนทั่วโลก รวมถึงวิศวกรกว่า 5,000 คน วางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใน 84 ประเทศทั่วโลก มีร้าน Dyson Demo Store กว่า 318 แห่ง โดยเปิดร้านใหม่ในปี  2021 จำนวน 50 ร้านทั่วโลกรวมถึงร้าน Dyson Virtual Reality Demo Store ด้วย
 
 
 
Dyson จะลงทุนเป็นมูลค่า 2.75 พันล้านปอนด์เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนแปลงโลก โดยภายในปีนี้ Dyson จะลงทุนอีก 600 ล้านปอนด์ในด้านเทคโนโลยี อุปกรณ์ และห้องทดลอง Dyson มีทีมวิศวกร นักวิทยาศาสตร์ และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ทั่วโลกที่ร่วมพัฒนาแบตตเตอรี่แบบโซลิดสเตท ดิจิทัลมอเตอร์ความเร็วสูง ระบบเซนเซอร์และวิชั่น หุ่นยนต์ เทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่อง และปัญญาประดิษฐ์ ตั้งแต่ประดิษฐ์เครื่องดูดฝุ่นแบบไร้ถุงเครื่องแรกในปี 1993 Dyson ได้สร้างเทคโนโลยีที่สามารถแก้ปัญหาในหลากหลายแขนง ตั้งแต่การดูแลเส้นผม การกรองอากาศ หุ่นยนต์ โคมไฟ และเครื่องเป่ามือ 
ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด