4. การเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรของคนต่างชาติ
- ระยะที่ 1 - 1 เมย - 30 มิย 64 ให้ยึดแนวปฏิบัติที่ใช้ในห้วงเวลาที่ผ่านมา โดยมีการเพิ่มการกรอกข้อมูลการฉีดวัคซีน และการติดตั้ง Thailand Plus Application ตั้งแต่ต้นทาง
- ระยะต่อไป (ตั้งแต่ 1 กค 64 เป็นต้นไป) พิจารณากลุ่มประเทศที่ผู้เดินทางจากประเทศนั้นๆ อยู่ในมาตรการกักกันแบบผ่อนคลายหรือปรับรูปแบบเป็นการคุมไว้สังเกต (Close Observation) พัฒนารูปแบบไปสู่การคุมไว้สังเกต หรือการเว้นการกักตัวสำหรับผู้ที่เดินทางจากบางประเทศ หรือผู้ที่ฉีดวัคซีนครบตามกำหนดของแต่ละชนิดแล้ว
5.การปรับรูปแบบของสถานที่กักกัน (Quarantine) สำหรับบุคคลผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร
- ระยะที่ 1 - 1 เมย - 30 มิย 64
ยังคง 7 รูปแบบการกักตัวเช่นเดิม ได้แก่ SQ ASQ LQ ALQ HQ AHQ OQ
- ระยะที่ 2 - 1 กค - 30 กย 64
ปรับรูปแบบเหลือเฉพาะรูปแบบที่จำเป็นและเหมาะสม ได้แก่ SQ AQ HQ AHQ OQ
- ระยะที่ 3 - 1 ตค 64
ปรับรูปแบบเป็นสถานที่คุมไว้สังเกต (Close Observation) เน้นมาตรการ D-M-H-T-T พร้อมกับพยายามใช้มาตรการ Bubble and Seal ในขั้นตอนต่างๆ ได้แก่ Bubble ในพื้นที่สนามบิน Sealed route ตามเส้นทางการเคลื่อนย้าย Bubble ตามสถานที่ท่องเที่ยวและชุมชนรอบสถานที่ท่องเที่ยวนั้นๆ
* คนต่างชาติเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เดิมต้องมีเอกสารทั้ง Fit to Fly และ Covid Free เปลี่ยนแปลงเป็น มีเฉพาะเอกสาร Covid Free เพียงอย่างเดียว
6.มาตรการผ่อนคลายสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรและเข้ารับการกักกัน (Quarantine)
- ระยะที่ 1 - 1 เมย - 30 มิย 64
ผ่อนคลายให้ทำกิจกรรมต่างๆ โดยสามารถออกนอกห้องพักได้ตามเวลาและเงื่อนไที่ สธ.กำหนด ได้แก่ สามารถใช้ห้องฟิตเนสได้ ออกกำลังกายกลางแจ้งได้ ใช้สระว่ายน้ำได้ ปั่นจักรยานในพื้นที่ปิดและมีการควบคุมได้ สามารถซื้อสินค้าและอาหารจากภายนอกได้
- ระยะที่ 2 - 1 กค - 30 กย 64
มีการเพิ่มการผ่อนคลายให้ทำกิจกรรมเพิ่มเติมจากระยะที่ 1 ที่ได้รับอนุญาตให้ทำได้แล้ว ได้แก่ สามารถรับประทานอาหารในห้องอาหารของโรงแรมได้ และสามารถใช้บริการนวดเพื่อสุขภาพได้
- ระยะที่ 3 - 1 ตค 64
กำหนดให้มีการกักกันเฉพาะบุคคลผู้เดินทางมาจากพื้นที่ที่คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติกำหนด และมีการปรับกิจกรรมในรูปแบบการกักกัน เป็นรูปแบบคุมไว้สังเกต โดยใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยี มาช่วยในการบริหารจัดการ
หมายเหตุสำหรับระยะที่ 1 และ 2 สำหรับนักธุรกิจที่เดินทางเข้ามาระยะสั้น มีมาตรการผ่อนคลายให้สามารถใช้ห้องประชุมได้ ตามเงื่อนไขที่ สธ.กำหนด
7. การลดระยะเวลากักกันตัวบุคคลผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว และผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน (จาก 14 วัน เหลือ 10 วัน)
ช่วง 1 เมย - 30 กย 64
- คนไทย ที่ไม่มี VC และ CFC
ต้องรับการกักกัน 10 วัน และตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง (วันที่ 3-5 และ วันที่9-10 ของการกักตัว)
- คนต่างชาติ ที่ไม่มี VC แต่มี CFC
ต้องรับการกักกัน 10 วัน และตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง (วันที่ 3-5 และ วันที่9-10 ของการกักตัว)
- เมื่อมีความพร้อม คนไทยและคนต่างชาติ ที่มี VC ที่ฉีดครบถ้วนมากกว่า 14 วัน และ น้อยกว่า 3 เดือน ก่อนเดินทาง และมี CFC ลดวันกักกันตัวเหลือ 7 วัน
- เมื่อมีความพร้อม คนไทยและคนต่างชาติ ที่มี VC ที่ฉีดครบถ้วนมากกว่า 14 วัน และ น้อยกว่า 3 เดือน ก่อนเดินทาง และไม่มี CFC ลดวันกักกันตัวเหลือ 7 วัน แต่ต้องตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง (วันที่ 3-5 และ วันที่ 5-6 ของการกักตัว)
ตั้งแต่ 1 ตค 64 เป็นต้นไป
ไม่ต้องกักกันตัวในบางพื้นที่ โดยมีเงื่อนไขพื้นที่/การดำเนินการดังนี้
- บุคลากรทางการแพทย์ ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว >70%
- ประชาชนที่มีโอกาสสัมผัสบุคคลเสี่ยง ได้รับการฉีดวัคซีนตามเป้าหมายที่กำหนด
- สามารถเปิดรับบุคคลที่เดินทางจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำได้ในระยะเริ่มต้น
หมายเหตุ
1. VC = Vaccine Certificate CFC = Covid-19 Free Certificate ภายใน 72 ชม.ก่อนการเดินทาง
2. กรณีผู้เดินทางจากประเทศที่มีเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ ตามที่ สธ.กำหนด ยังคงต้องรับการกักกัน 14 วัน
3. ระเบียบปฏิบัติสำหรับการผ่อนคลาย ลดระยะเวลากักกัน สธ.จะกำหนดรายละเอียดต่อไป
8. แนวทางการจัดกิจกรรมในเทศกาลสงกรานต์ 2564
กิจกรรมที่สามารถจัดได้
- การจัดพิธีสรงน้ำพระ รวมทั้งกิจกรรมทางศาสนาอื่นๆ
- การจัดพิธีรดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่ ตามประเพณีนิยมหรือตามรูปแบบที่ วธ.กำหนด
- การเดินทางข้ามจังหวัด เพื่อไปท่องเที่ยว สามารถดำเนินการได้ทุกพื้นที่
ข้อห่วงใย - ในทุกกิจกรรม ขอให้ยึดถือแนวทางดำเนินการ ดังนี้
- ยืดถือมาตรการ และหลีกเลี่ยงการสัมผัส
- ควรจัดในพื้นที่โล่งแจ้ง อากาศระบายได้ดี
- หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมในพื้นที่คับแคบ หรือในพื้นที่ห้องปรับอากาศ
งดจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ได้แก่
- งดการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มเล่นสาดน้ำ
- งดการจัดคอนเสริ์ต
- งดการจัดกิจกรรมที่มีการสัมผัสใกล้ชิด ได้แก่ งดการประแป้ง งดการเล่นปาร์ตี้โฟม
กิจกรรมอื่นๆ นอกจากนี้ ให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม.
เน้นย้ำ
- ขอให้ผู้จัดกิจกรรมหรือประกอบกิจการ พิจารณา กำหนดขอบเขตอาณาบริเวณของพื้นที่จัดกิจกรรม หรือกิจการให้ชัดเจน ให้มีช่องทางเข้าออก ตามความเหมาะสมกับขนาดของกิจกรรม รวมทั้งให้มีมาตรการควบคุมและมาตรการป้องกันโควิด บริเวณทางเข้าออก ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
- ให้มีการเน้นย้ำ ขอความร่วมมือผู้เข้าร่วมกิจกรรม สวมหน้ากากอยู่เสมอ เว้นระยะห่าง เลี่ยงการสัมผัสบุคคลอื่น มีมาตรการวัดอุณหภมิและจุดบริการล้างมือ ติดตั้งแอพไทยชนะ หรือ หมอชนะ
- ในกรณีที่มีการจัดกิจกรรมที่มีการดื่มสุรด้วย ขอให้ระมัดระวังมิให้ดื่มจนขาดสติและเสียกิริยา
19 มีนาคม 2564