ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

ดันร่างกม.ห้ามสูบกัญชา กัญชง เหตุกลิ่นและควัน เข้าข่ายเป็นเหตุรำคาญ ผิดกฏหมาย

ดันร่างกม.ห้ามสูบกัญชา กัญชง เหตุกลิ่นและควัน เข้าข่ายเป็นเหตุรำคาญ ผิดกฏหมาย Thumb HealthServ.net
ดันร่างกม.ห้ามสูบกัญชา กัญชง เหตุกลิ่นและควัน เข้าข่ายเป็นเหตุรำคาญ ผิดกฏหมาย ThumbMobile HealthServ.net

กรมอนามัย ดันร่างกฏกระทรวงเพื่อการควบคุมป้องกัน การนำกัญชาไปใช้ สันทนาการหรือสูบ ที่อาจก่อให้เกิดกลิ่นและควัน จนเป็นเหตุให้เสื่อม หรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน เข้าข่ายเป็นเหตุรำคาญ

กรมอนามัย เตรียมเสนอร่างคำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุขฯ และ ร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขฯ กำหนดให้กลิ่นและควันกัญชา กัญชง เข้าข่ายเป็นเหตุรำคาญ ต่อคณะกรรมการสาธารณสุข
 
          กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตรียมเสนอร่างคำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่อง แนวทางควบคุมเหตุรำคาญจากกลิ่นและควันของกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใดในทำนองเดียงกัน  พ.ศ. .... และ เสนอร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดให้กลิ่นและควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใดในทำนองเดียวกัน เป็นเหตุรำคาญ พ.ศ. ....รองรับการปลดล็อคกัญชาหรือกัญชงออกจากยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 เพื่อเป็นการควบคุมป้องกันการนำกัญชาไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม เช่น สันทนาการ ที่อาจก่อให้เกิดกลิ่นและควัน จนเป็นเหตุให้เสื่อม หรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน เข้าข่ายเป็นเหตุรำคาญ ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม   

 
 
            นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ภายหลังที่กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2565 ประกาศเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา และจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 โดยผลจากการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าวจะส่งผลให้ทุกส่วนของกัญชา กัญชง ไม่เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ยกเว้นสารสกัดที่มีสาร Tetrahydrocannabinol, THC เกินร้อยละ 0.2

            ดังนั้น จึงอาจทำให้มีการนำพืชกัญชา กัญชง ไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม หรือส่งผลกระทบต่อสุขภาพของตนเองหรือผู้อื่น เช่น สันทนาการต่าง ๆ แพร่หลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ในครัวเรือน สถานที่สาธารณะ รวมทั้งการส่งเสริมให้มีการใช้ในสถานประกอบการ เช่น ร้านอาหาร สถานบริการ สถานบันเทิง ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหากลิ่นและควันรบกวน หรือส่งผลกระทบ จนเป็นเหตุให้เสื่อม หรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพแก่ประชาชนที่อยู่หรืออาศัยบริเวณใกล้เคียง จึงอาจเข้าข่ายเป็นเหตุรำคาญ ตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข


 
           นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า คณะกรรมการพิจารณาการกำกับและควบคุมการใช้กัญชากระทรวงสาธารณสุข ซึ่งได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2565 โดยมี นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทวงสาธารณสุข เป็นประธาน มีมติมอบกรมอนามัยดำเนินการออกกฎหมายระดับอนุบัญญัติภายใต้ พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 เพื่อควบคุมการนำส่วนของกัญชาไปใช้ไม่เหมาะสม และอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 25 ซึ่งกองกฎหมาย และสำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย ได้ร่วมกันวิเคราะห์ขอบเขตของ พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง และนำเสนอในการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองร่างกฎหมายระดับอนุบัญญัติ และร่างคำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุข ตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข ครั้งที่ 53-4/2565 เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา
 
 
             ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้กรมอนามัยดำเนินการ ดังนี้

1) เสนอร่างคำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่อง แนวทางควบคุมเหตุรำคาญจากกลิ่นและควันของกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใดในทำนองเดียวกัน พ.ศ. .... เพื่อเป็นแนวทางสำหรับราชการส่วนท้องถิ่นใช้ควบคุมเหตุรำคาญ

และ

2) เสนอร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดให้กลิ่นและควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใดในทำนองเดียวกัน เป็นเหตุรำคาญ พ.ศ. ....


ซึ่งขณะนี้กรมอนามัยอยู่ในขั้นตอนของการจัดทำร่างคำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุขฯ และ ร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุขฯ ดังกล่าว เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการสาธารณสุขในการประชุม ครั้งที่ 137-2/2565 วันที่ 30 พฤษภาคม 2565 ต่อไป

 

ดันร่างกม.ห้ามสูบกัญชา กัญชง เหตุกลิ่นและควัน เข้าข่ายเป็นเหตุรำคาญ ผิดกฏหมาย HealthServ

30 พฤษภาคม 2565 ร่างผ่านคณะกรรมการแล้ว รอลงนาม

 
        30 พฤษภาคม 2565 ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวระหว่างเปิดการประชุมการส่งเสริมการประกอบการด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพจากกัญชา กัญชง เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นและความคาดหวังของผู้ประกอบการ ต่อการปรับปรุงกฎระเบียบ กระบวนการให้บริการ รวมทั้งมาตรการส่งเสริมการประกอบการ รองรับการปลดล็อกกัญชา กัญชง ว่า นโยบายกัญชากัญชงจะประสบความสำเร็จได้นั้น การขับเคลื่อนของปลายน้ำมีความสำคัญ เนื่องจากเป็นการนำกัญชากัญชงไปใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์สุขภาพ ทั้งอาหาร สมุนไพรและเครื่องสำอาง เป็นโอกาสสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้ฟื้นตัวจากโควิด 19 ซึ่งประเทศไทยได้รับการยอมรับในระดับโลก ว่าสามารถรับมือสถานการณ์โควิด 19 ได้อย่างดี มีการพัฒนาระบบสาธารณสุขอย่างเข้มแข็ง ทำให้การผลิตสินค้าเกี่ยวกับยาและสุขภาพจะได้รับการยอมรับโดยปริยาย
 
       “กระทรวงสาธารณสุข ย้ำมาตลอดในการใช้กัญชาในทางที่ดี เป็นประโยชน์ทางการแพทย์ สุขภาพ และการเสริมสร้างรายได้ การนำไปใช้ในทางที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น การนำไปสูบ จึงไม่อยู่ในเจตนารมณ์ของกฎหมาย ทั้งนี้ กฎหมายกัญชากัญชงที่ขณะนี้ยังอยู่ในสภา ยืนยันว่าจะไม่เลื่อนการปลดล็อก เพราะจะกระทบกับคนจำนวนมากที่จะใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ขับเคลื่อนรายได้และเศรษฐกิจ ซึ่งผู้ประกอบการต่างๆ ได้เตรียมดำเนินการไปมากแล้ว” นายอนุทินกล่าว
 
       นายอนุทินกล่าวต่อว่า วันนี้คณะกรรมการการสาธารณสุข ได้มีการประชุมพิจารณาประกาศกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับการกำหนดกลิ่นและควันจากกัญชากัญชงเป็นเหตุรำคาญเรียบร้อยแล้ว และจะส่งร่างประกาศมาให้พิจารณาในวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 ซึ่งจะรีบพิจารณาและลงนามโดยเร็วที่สุด หลังลงนามแล้วจะส่งไปยัง
ราชกิจจานุเบกษาเพื่อประกาศและมีผลบังคับใช้ต่อไป  [สารนิเทศ สธ.]

1 มิถุนายน 2565 กรมอนามัย เล็งชี้แจงท้องถิ่น หลังร่าง ผ่านมติเห็นชอบ

       นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากการที่กรมอนามัยได้เสนอร่างคำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่อง คำแนะนำของคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่อง แนวทางควบคุมเหตุรำคาญ จากการกระทำให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด พ.ศ. .... เพื่อเป็นแนวทางสำหรับราชการส่วนท้องถิ่นใช้ควบคุมเหตุรำคาญและเสนอร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดให้การกระทำให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด เป็นเหตุรำคาญ พ.ศ. .... ต่อคณะกรรมการสาธารณสุขในการประชุม ครั้งที่ 137-2/2565 วันที่ 30 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งคณะกรรมการสาธารณสุขมีมติเห็นชอบร่างคำแนะนำฯ ดังกล่าว โดยหลังจากนี้ กรมอนามัยจะได้ชี้แจงให้กับท้องถิ่นเพื่อถือปฏิบัติต่อไป

ทั้งนี้ ร่างคำแนะนำ ต่อราชการส่วนท้องถิ่นได้กำหนดให้การควบคุมเหตุรำคาญตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข มีดังนี้

1) ควบคุมการใช้กัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใดในทำนองเดียวกัน โดยไม่ก่อเหตุรำคาญจากกลิ่น หรือ ควันรบกวนประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง

2) เมื่อได้รับแจ้งเรื่องร้องเรียนเหตุรำคาญ เรื่อง กลิ่นหรือควันจากการสูบกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด ให้เจ้าพนักงานดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย โดยศึกษาข้อมูลเบื้องต้น เช่น สถานที่หรือบริเวณที่ถูกร้องเรียน สถานที่ที่ประชาชนร้องเรียน แหล่งกำเนิดกลิ่นหรือควัน ลักษณะกลิ่น ช่วงเวลาที่ได้รับผลกระทบ เป็นต้น

3) ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่าเรื่องร้องเรียนไม่เป็นเหตุรำคาญตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นแจ้งผู้ร้องเรียนทราบ และยุติเรื่อง
 
        กรณีพบว่าเรื่องร้องเรียนนั้น เข้าข่ายเป็นเหตุรำคาญตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้เจ้าพนักงานพิจารณาออกคำแนะนำ เพื่อให้ผู้ก่อเหตุปรับปรุงแก้ไขปัญหาเหตุรำคาญ โดยให้ระบุข้อเท็จจริงที่ตรวจพบ รวมทั้งระบุมาตรการหรือวิธีการที่ใช้ในการแก้ไข หรือปรับปรุงให้เหตุรำคาญนั้นระงับไปภายในระยะเวลาที่กำหนด

4) ให้เจ้าพนักงานติดตามตรวจสอบการดำเนินการตามคำแนะนำของเจ้าพนักงานที่กำหนดให้ผู้ถูกร้องเรียนต้องปฏิบัติ หากผู้ถูกร้องเรียนไม่ดำเนินการตามคำแนะนำ ให้ เจ้าพนักงานท้องถิ่นออกคำสั่งทางปกครอง โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 27 หรือ มาตรา 28  แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แล้วแต่กรณี เพื่อให้ผู้ก่อเหตุดำเนินการปรับปรุงแก้ไข หรือระงับเหตุรำคาญ
 
             “กรณีผู้ถูกร้องเรียนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งทางปกครอง ให้เจ้าพนักงานดำเนินการส่งเรื่องให้ผู้มีอำนาจเปรียบเทียบ ตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข โดยอัตราโทษกรณีไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นดังกล่าวข้างต้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสองหมื่นห้าพันบาทถ้วน หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนกรณีผู้ถูกร้องเรียนปฏิบัติตามคำสั่งทางปกครอง เรื่องยุติ ให้เจ้าพนักงานแจ้งผลการดำเนินการให้ผู้ร้องเรียนทราบต่อไป”  อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด