สถานการณ์โควิด-19 ในเด็กไทย (อายุ 0-18 ปี) ตั้งแต่มีการระบาดระลอกใหม่ (ฉบับที่6)
1 เมษายน 2564 – 25 สิงหาคม 2564 (สัปดาห์ที่ 15 -35)
เด็กติดเชื้อสะสม 114,039 ราย
(ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข)
รศ.พลตรีหญิง ฤดีวิไล สามโกเศศ
21 กันยายน 2564
การระบาดอย่างกว้างขวางของโรคโควิด-19 ระลอกที่ 3 ในประเทศไทย ตั้งแต่ 1 เมษายน 2564 จนถึง 25 สิงหาคม 2564 ยังมีความรุนแรง มีจ านวนผู้ป่วยรวมถึง 1,073,505 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสม 10,085 ราย การระบาดเกิดขึ้นในชุมชนและครอบครัว การติดเชื้อในเด็กและวัยรุ่นยังคงสูงขึ้น โดยมีรายละเอียดระหว่างวันที่ 12 สิงหาคม-25 สิงหาคม 2564 (สัปดาห์ที่ 34-35) จากข้อมูลของกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข ดังนี้
• จาก 12-18 สิงหาคม 2564 (สัปดาห์ที่ 34) มีเด็กติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้น 21,098 ราย เป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 ของยอดผู้ป่วยรายใหม่จากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ผู้ป่วยเด็กรายใหม่ในสัปดาห์นี้คิดเป็นร้อยละ 13.9 ของผู้ติดเชื้อใหม่รวมทุกกลุ่มอายุ (21,098/151,968)
• จาก 12-18 สิงหาคม 2564 (สัปดาห์ที่ 34) มีรายงานเด็กติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิต 2 ราย
1. เพศชาย อายุ 12 ปี ไม่ระบุข้อมูลโรคประจ าตัว เสียชีวิตวันที่ 11 สิงหาคม 2564 จ.ยะลา (วินิจฉัย MIS-C * ข้อมูลเพิ่มเติม)
2. เพศหญิง สัญชาติเมียนมา โรคประจ าตัว Thalassemia น้ าหนักตัวน้อย จาก กทม.
• จาก 19–25 สิงหาคม 2564 (สัปดาห์ ที่ 35) มีเด็กติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้น 19,257 ราย เป็นการเพิ่มในอัตราที่ต่ ากว่าสัปดาห์ก่อนหน้า ร้อยละ 7 และ ผู้ป่วยเด็กรายใหม่ในสัปดาห์นี้คิดเป็นร้อยละ 15.6 ของผู้ติดเชื้อใหม่รวมทุกกลุ่มอายุ (19,257/133,411) จะเห็นได้ว่า การติดเชื้อรายใหม่เริ่มมีการชะลอตัว แต่สัดส่วนผู้ติดเชื้อเด็กต่อผู้ติดเชื้อทุกกลุ่มอายุจะสูงขึ้น
• จาก 19–25 สิงหาคม 2564 (สัปดาห์ ที่ 35) มีเด็กรายงานติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิต 5 ราย
1. เพศหญิง อายุ 1 ปี โรคที่เป็นอยู่ก่อน CA, IFG , จาก กทม.
2. อายุ 7 เดือน ไม่ระบุโรคประจ าตัว มี metabolic acidosis จาก จ.สมุทรสาคร
3. เพศหญิง อายุ 15 ปี ปฏิเสธโรคประจ าตัว จากประจวบคีรีขันธ์ เสียชีวิต 19 สิงหาคม 2564
4. อายุ 7 เดือน ปฏิเสธโรคประจ าตัว จาก จ.ประจวบคีรีขันธ์เสียชีวิต 21 สิงหาคม 2564
5. อายุ 7 เดือน ปฏิเสธโรคประจ าตัว จาก จ.ตาก เสียชีวิต 22 สิงหาคม 2564
รูปที่ 1 จำนวนเด็ก (0-18 ปี) ติดเชื้อโควิดรายใหม่เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า ในประเทศไทยระหว่าง 1 เมษายน – 11 สิงหาคม 2564 (สัปดาห์ที่ 15-35) ยอดสะสม 133,286 ราย
ที่มา: ทีม SATCOVID-19 กรมควบคุมโรค 8 สิงหาคม 2564
รูปที่ 2 จำนวนการติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า ในประเทศไทยระหว่าง 1 เมษายน 2564-11 สิงหาคม 2564 (สัปดาห์ที่ 15-33) ในเด็ก 0-18 ปี เทียบกับผู้ติดเชื้อรวมทุกกลุ่มอายุ
ที่มา: ทีม SATCOVID-19 กรมควบคุมโรค 8 สิงหาคม 2564
โควิด-19 NEWS & Update
• มีการฉีดวัคซีนแล้ว 28 ล้านโดส การประเมินความเสี่ยงคาดว่าการระบาดจะเริ่มชะลอตัว 1
• ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ขอให้กุมารแพทย์ในท้องที่ที่มีการระบาดของโควิด-19 สังเกตอาการเด็กที่เข้าได้กับ MIS-C (Multisystem Inflammatory Syndrome in Children) หรือกลุ่มอาการอักเสบหลายระบบที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 ในเด็ก ตามนิยามดังต่อไปนี้
1. ผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 0-21 ปี ที่มีไข้ ≥ 38 C นาน 24 ชั่วโมง ร่วมกับมีอาการอย่างน้อย 2 ระบบขึ้นไปได้แก่
- ผื่น, ตาแดง, หรือมีอาการอักเสบของเยื่อบุต่าง ๆ
- ความดันโลหิตต่ า หรือ ช็อก
- มีอาการทางระบบหัวใจและหลอดเลือด
- มีภาวะเลือดออกง่าย จากการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
- มีอาการทางระบบทางเดินอาหาร
- มีอาการทางเดินหายใจ เช่น ปอดอักเสบ pulmonary embolism
- มีอาการทางระบบประสาท เช่น ชัก เยื่อหุ้มสมองอักเสบ stroke
- มีอาการไตวายเฉียบพลัน
2. มีผลเลือดแสดงถึงการอักเสบ เช่น CRP, ESR, Fibrinogen ขึ้นสูง
3. มีผลตรวจยืนยัน ข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
- ผลการตรวจ PCR ของ SAR-CoV-2 เป็นบวก
- ผลการตรวจ serology ของ SAR-CoV-2 เป็นบวก
- ผลการตรวจ antigen test ของ SAR-CoV-2 เป็นบวก
- หรือ เคยมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยโควิด -19
4. สามารถตัดสาเหตุโรคอื่นๆ ที่มีลักษณะอาการคล้ายกันได้ ได้แก่ Toxic shock syndrome, SSSS,
Macrophage activation syndrome เป็นต้น
เด็กที่รับไว้ในโรงพยาบาลด้วยกลุ่มอาการนี้ควรดูแลโดยทีมสหสาขา เพราะอาจมีอาการหนักมากได้
ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและพิจารณาส่งต่อไปรับการรักษาที่ รพ.ระดับตติยภูมิที่มีหอผู้ป่วยเด็กอาการหนัก2
เอกสารอ้างอิง
1. รายงานสถานการณ์โรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 โดยศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค
2. แนวทางปฏิบัติในการวินิจฉัย และดูแลรักษากลุ่มอาการอักเสบหลายระบบที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19
ในเด็ก (Multisystem Inflammatory Syndrome in Children; MIS-C) ในประเทศไทย. ราช
วิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ฉบับ กันยายน 2564 www.Thaipediatrics.org (to be
published)