ข่าวดีสำหรับประเทศไทย อังกฤษถอดประเทศไทยจากกลุ่มประเทศสีแดงที่ต้องกักตัว 14 วัน หากเดินทางเข้าอังกฤษ ย้ายไปอยู่ในประเภทที่ 2 คือผู้ที่ยังได้รับวัคซีนไม่ครบแทน
อังกฤษมีการปรับเปลี่ยนมาตรการการคัดกรองการเดินทางเข้าประเทศใหม่ โดยกำหนดเป็น 2 ระดับ คือระดับประเทศ และ ระดับบุคคล
ระดับประเทศ - ยกเลิกการแบ่งกลุ่มประเทศ 3 สี คงกลุ่มประเทศสีแดงไว้เท่านั้น
ระดับบุคคล - จำแนกตามลักษณะการได้รับวัคซีน แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทได้รับวัคซีนครบ และ ประเภทได้รับวัคซีนไม่ครบ
• ประเภทที่ 1 ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว
หมายถึง ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสมาแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน (ไม่นับวันที่ฉีดวัคซีนเข็ม 2) และเป็นวัคซีนที่ผ่านการรับรองของอังกฤษ 4 ชนิดเท่านั้น ได้แก่ ไฟเซอร์/ไบออนเทค แอสตร้าเซเนกา โมเดอร์นา และ แจนเซ่น (จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน)
แนวปฏิบัติ ทั้งก่อนเดินทางและเมื่อเดินทางถึง ดังนี้
ก่อนเดินทาง
- จองตรวจโควิด 1 ครั้งในวันที่ 2 หลังจากเดินทางถึงอังกฤษแล้ว
- กรอกข้อมูลผู้โดยสาร ภายใน 48 ชม.ก่อนเดินทาง
เมื่อเดินทางถึง
- ไม่ต้องกักตัว และเข้าตรวจโควิดตามที่ได้จองไว้ในวันที่ 2 หลังจากเดินทางถึง
*แม้ว่าจะพำนักอยู่ในอังกฤษน้อยกว่า 2 วัน ก็จะต้องทำการจองตรวจโควิดไว้ด้วยเช่นกันและเข้ารับการตรวจตามกำหนดหากอยู่ถึงวันที่ 2
• ประเภทที่ 2 ผู้ที่ยังได้ไม่ครบหรือยังไม่ได้รับวัคซีน
รวมถึง การได้รับวัคซีนชนิดอื่นนอกเหนือจาก 4 ชนิดที่อังกฤษรับรองไว้ (อาทิ ซิโนฟาร์ม ซิโนแวค สปุตนิค โนวาแวกซ์) จะจัดอยู่ในประเภทนี้เช่นกัน
โดยต้องปฏิบัติตามมาตรการดังนี้
ก่อนเดินทาง
- ตรวจโควิดภายใน 3 วันก่อนเดินทาง
- จองตรวจโควิด 2 ครั้ง ในวันที่ 2 และวันที่ 8 หลังเดินทางถึง
- กรอกข้อมูลการเดินทาง
เมื่อเดินทางถึง
- กักตัวที่บ้านหรือที่พัก 10 วัน
- ตรวจโควิดวันที่ 2 และวันที่ 8 หลังจากเดินทางมาถึงแล้ว
*หากพำนักในอังกฤษน้อยกว่า 10 วัน จะต้องจองการตรวจโควิดสำหรับ 2 วันเช่นกัน และทำการตรวจตามวันที่กำหนดระหว่างที่พำนักอยู่
Countries with an approved proof of vaccination and examples of proof required
https://www.gov.uk/guidance/countries-with-approved-covid-19-vaccination-programmes-and-proof-of-vaccination
เอกสารที่ใช้รับรองการได้รับวัคซีน กรณีไม่ใช่ชาวอังกฤษหรือสหราชอาณาจักร จะมีรูปแบบที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ
ประเทศไทย
สำหรับประเทศไทย ได้ถูกถอดจากกลุ่มประเทศสีแดง ออกมาอยู่ในกลุ่ม "ผู้ที่ยังได้ไม่ครบ" มีผลตั้งแต่ ตี 4 วันที่ 11 ตุลาคม 2564 ผลคือผู้ที่จะเดินทางเข้าอังกฤษจากประเทศไทย หรือผ่านประเทศไทย ไม่ต้องกักตัว 14 วัน แต่ต้องกักตัวที่บ้านหรือที่พำนัก 10 วันแทน และต้องตรวจโควิด 2 ครั้ง (วันที่ 2 และ 8) สามารถใช้หนังสือรับรองการฉีดวัคซีนของประเทศไทยแสดงได้
*หากเดินทางเข้าก่อนวันที่ 11 ตุลาคม จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขกลุ่มประเทศสีแดง คือกักตัว 14 วัน และตรวจโควิด 2 ครั้ง
นอกจากไทย ประเทศส่วนใหญ่ในโลกที่เคยอยู่ในกลุ่มสีแดง ก็ถูกถอดออกเช่นกัน รวมถึงประเทศที่มีการระบาดมากในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะกลุ่มประเทศในแถบละตินอเมริกา แอฟริกาและเอเซีย อาทิ อาร์เจนตินา บราซิล ชิลี อินโดนีเซีย เม็กซิโก เมียนมาร์ เนปาล ฟิลิปปินส์ แอฟริกาใต้ โซมาเลีย ซูดาน แทนซาเนีย ตูนิเซีย อุรุกวัย
ประเทศที่ยังคงติดกลุ่มสีแดง ขณะนี้เหลือเพียง 7 ประเทศเท่านั้น ได้แก่ เวเนซูเอล่า เปรู ปานามา เฮติ เอกวาดอร์ สาธารณรัฐโดมินิกัน โคลอมเบีย
แนวปฏิบัติประเทศกลุ่มสีแดง
รัฐบาลอังกฤษ กำหนดว่า ห้ามการเดินทางจากประเทศกลุ่มสีแดงเข้าประเทศเด็ดขาด ยกเว้นผู้มีสัญชาติอังกฤษหรือไอร์แลนด์ หรือผู้ที่พักอาศัยในสหราชอาณาจักร ซึ่งหากเป็นประชากรกลุ่มดังกล่าวเดินทางเข้ามา จะต้องกักตัว 10 วัน และทำการตรวจโควิด 2 ครั้งในวันที่ 2 และวันที่ 8 ของการกักตัว หากละเมิดกฏจะถูกปรับ 1 หมื่นปอนด์
ตัวอย่างค่าใช้จ่ายกักตัว
1) ค่าห้องพัก 1 ห้องสำหรับ 1 คน 10 วัน 11 คืน 2,285 ปอนด์
2) บุคคลที่ 2 จ่ายเพิ่ม 1,430 ปอนด์
3) สำหรับเด็กอายุ 5-11 จ่ายเพิ่ม 325 ปอนด์
หากมีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
*ค่าบริการนี้รวมค่าพาหนะรับส่งถึงโรงแรมกักตัว อาหาร เครื่องดื่ม ที่พัก ตลอดการกักตัว และค่าตรวจโควิด 2 ครั้ง
กำหนดการเดินทางเข้า ผ่าน 8 สนามบิน ได้แก่ ฮีธโรว แกตวิค ลอนดอนซิดี้ เบอร์มิ่งแฮม บริสตอล นิวแคสเซิ่ล ฟาร์นโบโรห์ และบิกกิ้นฮิลล์
*กรณีบินตรงหรือเครื่องส่วนตัวหรือเหมาลำ อนุญาตลงได้เฉพาะสนามบิน ฮีธโรว์และเบอร์มิ่งแฮม เท่านั้น