28 ตุลาคม 2564 การประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 10/2564 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน ร่วมกับ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กลาโหม มหาดไทย แรงงาน ศึกษาธิการ การต่างประเทศ การท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ UHOSNET โรงพยาบาลเอกชน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์และสาธารณสุข ผู้แทนสภาวิชาชีพและองค์กรอิสระ ร่วมการประชุมและประชุมผ่านระบบออนไลน์
ที่ประชุมเห็นชอบ 3 ประเด็นหลัก ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายเปิดประเทศ ของรัฐบาล ดังนี้
1) แผนการเปิดประเทศ 1 พฤศจิกายน
แผนการเปิดประเทศและแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้
- ประเทศไทยจะเริ่มเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจาก 45 ประเทศ 1 เขตบริหารพิเศษในพื้นที่นำร่อง (สีฟ้า) 17 จังหวัด แบบไม่ต้องกักตัว
- นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องรับวัคซีนครบโดส
- นักท่องเที่ยวต่างชาติ ลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass
- นักท่องเที่ยวต่างชาติมีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
- นักท่องเที่ยวต่างชาติมีเอกสารยืนยันการชำระค่าที่พักอย่างน้อย 1 วันและมีประกันภัยวงเงินไม่น้อยกว่า 5 หมื่นเหรียญสหรัฐ (ยกเว้นผู้มีสัญชาติไทย)
- นักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อเดินทางมาถึง ให้เดินทางไปยังโรงแรมหรือที่พักโดยยานพาหนะที่จัดไว้แบบระบบปิด (Sealed Route) ไม่มีการหยุดพักภายใน 2 ชั่วโมง
- ตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR อีกครั้ง ณ โรงแรมที่เข้าพัก และ รอผล 1 คืน หากไม่พบเชื้อสามารถเดินทางในประเทศได้ ภายใต้การปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด
- โรงแรมจะมอบชุดตรวจ ATK ไว้สำหรับตรวจหาเชื้อด้วยตนเองเมื่อมีความเสี่ยงหรืออาการของโรคระบบทางเดินหายใจ โดยบันทึกผลตรวจในแอปพลิเคชันหมอพร้อม ซึ่งจะมีการเตรียมความพร้อมหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
- นักท่องเที่ยวต่างชาติ กลุ่มที่จะเข้าแซนด์บ็อกซ์ ใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน แต่เป็นผู้เดินทางมาจากประเทศใดก็ได้ อยู่ในแซนด์บ็อกซ์ 7 วันถึงเดินทางต่อได้
2) แนวทางปฏิบัติในการกักตัวกรณีผู้เดินทางโดยเครื่องบิน
เห็นชอบผลการประชุมของคณะกรรมการวิชาการ เรื่องแนวทางปฏิบัติในการกักตัวสำหรับผู้สัมผัสเสี่ยงสูง โดยปรับนิยามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกรณีผู้เดินทางโดยเครื่องบิน จากผู้ที่นั่งใกล้ชิด 2 แถวหน้าหลังและแถวเดียวกับผู้ติดเชื้อ ไม่สวมหน้ากากนานกว่า 5 นาที เป็นผู้ที่นั่งติดกับผู้ติดเชื้อซ้ายขวา ไม่สวมหน้ากากนานกว่า 5 นาที และลดเวลากักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่ได้รับวัคซีนโควิด 19 ครบโดส จาก 14 วัน เป็น 10 วัน ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำจะใช้วิธีการติดตาม ซึ่งจะเสนอ ศบค.ต่อไป
3) กรอบการดำเนินงานรองรับการเปิดประเทศและการระบาด
เห็นชอบกรอบการดำเนินงานรองรับการเปิดประเทศและการระบาดของโรคโควิด 19 ปี พ.ศ. 2565 มีเป้าหมายสร้างความเชื่อมั่นในการใช้ชีวิตวิถีใหม่ ภายใต้มาตรการป้องกันควบคุมโรค สร้างความมั่นคงด้านสุขภาพและฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยมอบคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร จัดทำแผนปฏิบัติการรองรับการเปิดประเทศและการระบาดของโรคโควิด 19 ปี พ.ศ. 2565 และมอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสาน สนับสนุน และติดตามการดำเนินงานตามแนวทาง