นับจากมีรายงานการพบและ WHO ได้ตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ "โอมิครอน" ในแอฟริกาใต้วันนี้พบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นไวรัสตัวหลักที่พบในผู้ติดเชื้อในจังหวัดเกาเต็ง โจฮันเนสเบอร์กไปแล้ว
ศูนย์เฝ้าระวังตรวจจับจีโนมแห่งแอฟริการะบุว่า ผู้ติดเชื้อโอมิครอนตอนนี้มีอัตรา 74% ของผู้ป่วยทั้งหมด เมื่อวันอังคารมีผู้ติดเชื้อ 8,600 ราย จากที่เคยพบเพียงวันละ 1,300 รายเมื่อสัปดาห์ก่อน
มิเชล กรูม ผู้เชี่ยวชาญแห่งสถาบันโรคติดต่อ กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นรวดเร็วขนาดนี้ค่อนข้างน่ากังวล ส่วนสาเหตุของการเพิ่มขึ้นมากและเร็วอย่างนี้ ยังบ่งชี้ไม่ได้ว่าเกี่ยวกับความสามารถในการแพร่กระจายของโอมิครอนเอง หรือ จากการหลบหลีกภูมิคุ้มกัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว เป็นกลุ่มที่มีการพบปะกันมากและยังได้รับการฉีดวัคซีนในระดับที่ต่ำอีกด้วย แต่กระนั้นเท่าที่สังเกตพบว่าทั้งหมดมี "อาการค่อนข้างเบา" ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะเป็นวัยหนุ่มสาวอีกเช่นกัน จึงไม่ก่อให้เกิดอาการรุนแรง แต่หากเป็นการติดเชื้อในกลุ่มผู้สูงอายุ จะทำให้เห็นได้ชัดเจนว่าไวรัสตัวนี้ จะทำให้เกิดการเจ็บป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิตหรือไม่ หรือจะเพียงอาการเบาๆ ก็เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม
ตัวเลขผู้ติดเชื้อโอมิครอนในแอฟริกาใต้เพิ่มรวดเร็วเป็นเท่าตัว
สำนักข่าว WION ของอินเดีย แสดงตัวเลขผู้ติดเชื้อโอมิครอนในแอฟริกาใต้ ในรอบสัปดาห์ เห็นได้ชัดถึงความชัดของกราฟที่หมายถึงจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก จาก 868 รายในวันที่ 23 พ.ย. เพิ่มขึ้น 3 เท่ามาเป็น 2,465 รายภายใน 2 วัน (25 พ.ย.) ทะลุไปเป็น 8,531 รายในวันที่ 1 ธ.ค. ประมาณ 4 เท่าใน 5 วัน และล่าสุดวันที่ 2 ธ.ค. จำนวนติดเชื้อ 11,535 ราย คิดเป็นราว 25% ของวันที่ 1 ธ.ค.
