ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

นานาประเทศยุโรป งัดมาตรการเข้มข้น พุ่งเป้าผู้ไม่ฉีดวัคซีน หวังสกัดโควิดฤดูหนาว

นานาประเทศยุโรป งัดมาตรการเข้มข้น พุ่งเป้าผู้ไม่ฉีดวัคซีน หวังสกัดโควิดฤดูหนาว Thumb HealthServ.net
นานาประเทศยุโรป งัดมาตรการเข้มข้น พุ่งเป้าผู้ไม่ฉีดวัคซีน หวังสกัดโควิดฤดูหนาว ThumbMobile HealthServ.net

หลายประเทศสั่ง นำวัคซีนพาส Health pass โควิดพาส กลับมาใช้ ผู้ไม่ฉีดวัคซีนเริ่มลำบาก บางประเทศไล่ออกจนท.รัฐที่ไม่ฉีดวัคซีน

นานาประเทศยุโรป งัดมาตรการเข้มข้น พุ่งเป้าผู้ไม่ฉีดวัคซีน หวังสกัดโควิดฤดูหนาว HealthServ
 
อิตาลี

เป็นประเทศยุโรปล่าสุดที่ออกมาตรการเข้มงวดผู้ไม่ฉีดวัคซีนโควิด โดยทางการประกาศนำบัตรผ่านสุขภาพที่แสดงถึงการได้รับวัคซีนแล้ว กลับมาใช้อีกครั้ง สำหรับแสดงเมื่อต้องการเข้าใช้บริการสาธารณะอย่างโรงภาพยนต์ การชมคอนเสิร์ต เข้าสนามกีฬา หรือภัตตาคารร้านอาหาร  
 
ก่อนหน้านี้ อิตาลีบังคับใช้บัตรผ่านนี้ เท่านั้น โดยอนุญาตให้ผู้ฉีดวัคซีนแล้วหรือหายจากโรคโควิดหรือมีผลตรวจเป็นลบ 
 
อิตาลีเริ่มใช้บัตรผ่านวัคซีนในเดือนสิงหาคม เฉพาะกับบางสถานที่ และขยายคำสั่งให้ใช้กับสถานที่ทำงานในเดือนตุลาคม ตอนนี้ขยายการบังคับใช้กับขนส่งมวลทั้งหมดด้วย
 
ในกรุงโรมเมืองหลวง ทางการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกประจำยังฮับขนส่งที่สำคัญเพื่อตรวจตราบัตรผ่านและบัตรประชาชนในผู้ที่จะใช้ขนส่งสาธารณของเมือง ซึ่งประชาชนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ก็มีผู้โชคร้ายบางรายถูกปรับถึง 400 ยูโรฐานฝ่าฝืนไม่แสดงบัตรผ่าน 
 
อิตาลีเป็นประเทศแรกในยุโรปที่โดนโควิดเล่นงานตั้งแต่ต้นปี 2020 มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 134,000 ราย ขณะนี้ประชากร 85% ของประเทศฉีดวัคซีนแล้ว ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศราว 15,000-20,000 รายต่อวัน
 
 
 
กรีซ 

สภานิติบัญญัติกรีซเห็นชอบผ่านมาตรการบังคับการฉีดวัคซีนในประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเริ่มกลับมาเพิ่มสูงอีกครั้ง โดยกฏหมายจะมีผลบังคับใช้ 16 มกราคม 65 ผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนจะถูกปรับ 100 ยูโร/เดือน นับตามจำนวนเดือนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน
 
83% ของประชากรผู้สูงอายุเกิน 60 ปีของกรีซได้รับวัคซีนแล้ว 
 
 
 
โปรตุเกส

ทางการประกาศนำมาตราการเข้มงวดควบคุมการระบาดอีกครั้ง ตั้งแต่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยกำหนดให้ประชาชนต้องสวมหน้ากากอนามัย  สั่งเข้มงวดควบคุมณจุดผ่านแดนต่างๆ สั่งให้ใช้หนังสือรับรองวัคซีนเพื่อแสดงก่อนเข้าใช้พื้นที่สาธารณะ อย่างร้านอาหาร โรงภาพยนต์และโรงแรม  
 
โปรตุเกสมีอัตราการฉีดวัคซีนราว 86% ในทุกกลุ่มประชากร
 
 
 
ฝรั่งเศส
 
ทางการฝรั่งเศสใช้การคุมเข้ม ณ จุดผ่านแดน กำหนดว่าผู้เดินทางเข้าประเทศจากประเทศนอกอียู รวมชาวอังกฤษ  จะต้องแสดงหลักฐานการตรวจเชื้อเป็นลบภายใน 48 ชั่วโมง แม้ผู้นั้นจะฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม
 
ฝรั่งเศสรายงานผู้ติดเชื้อใหม่วันที่ 1 ธ.ค. ที่จำนวน 49,610 ราย เพิ่มขึ้นจาก 47,177 ของวันก่อนหน้า หากเทียบในรายสัปดาห์ พบว่าเพิ่มขึ้นมากขึ้น 50% จากค่าเฉลี่ยรายสัปดาห์วันที่ 1 ธ.ค. 34,547 ราย วันที่ 27 พ.ย. จำนวน 27,597 ราย หรือเทียบกับเพียง 20,004 ราย เมื่อวันที่ 23 พ.ย.
 
รัฐมนตรีสาธารณสุขฝรั่งระบุว่าเป็นสถานการณ์ที่ "เริ่มจะเลวร้าย" 
 
ตั้งแต่ 15 มกราคม 65 ผู้ใหญ่ทุกคนจะต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อต่ออายุบัตรผ่านสุขภาพ แต่ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมนี้ ผู้มีอายุเกิน 65 ปีทุกคนจะต้องฉีดเข็มกระตุ้น เพื่อต่ออายุบัตรผ่านสุขภาพก่อน
 
ฝรั่งเศสมีอัตราการรับวัคซีนราว 76.8% คิดเป็นจำนวนประชากรราว 67.4 ล้านคน 
 
 
 
 
 
สเปน
 
หลายแคว้นประกาศใช้มาตรการเข้มงวดกับผู้ไม่ฉีดวัคซีนเช่นกัน มีการต่ออายุการบังคับใช้หนังสือรับรองโควิด ที่ต้องแสดงเมื่อประสงค์จะใช้บริการสาธารณะ อาทิ บาร์และร้านอาหาร 
 
ประชากรสเปนกว่า 80% ฉีดวัคซีนแล้ว แต่ความกังวลต่อโอมิครอนกระตุ้นการฉีดวัคซีนให้เพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา จากข้อมูลระบุว่า เดือนพฤศจิกายน มีผู้ที่ยังไม่เคยฉีดวัคซีนเลยราว 200,000 เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกแล้ว สถานการณ์เตียงในโรงพยาบาลขณะนี้ก็เริ่มล้น แพทย์ต้องเตือนประชาชนให้ระวัดระวังตัวเองให้มาก 
 
สเปนมีรายงานผู้ติดเชื้อระดับ 100,000 รายในรอบ 2 สัปดาห์ แต่กระนั้นก็ยังถือว่าปลอดภัยจากภาวะการระบาด 
 
 
 
 
อังกฤษ

นักวิทยาศาสตร์แนะให้ผู้ใหญ่ควรต้องเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อโอมิครอนในอังกฤษ ที่มีอัตราการแพร่ระบาดที่ค่อนข้างเร็ว อังกฤษยืนยันผู้ติดเชื้อโอมิครอนรวม 336 ราย [BBC]   แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ายอดจริงๆไปถึงระดับ 1,000 รายแล้ว [BBC



 
เนเธอร์แลนด์

มาตรการปิดเมืองรอบใหม่มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่สัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน รวมถึงการสั่งปิดร้านอาหาร บาร์ ตั้งแต่ 5 โมงเย็นถึงตีห้า  โรงพยาบาล ศูนย์วัฒนธรรม ต้องจัดที่นั่งให้่ห่างกัน 1.5 เมตร ทำให้มีจำนวนคนใช้น้อยละในแต่ละบริเวณ การจัดแข่งกีฬาอาชีพทำได้แต่ห้ามมีผู้ชม ส่วนกิจกรรมกีฬาสมัครเล่น/ทั่วไป ห้ามจัดตั้งแต่  5 โมงเย็นถึงตีห้า เช่นกัน
 
 
 
สาธารณรัฐเช็ค 

มาตรการฉุกเฉิน 30 วันมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 26 พฤศจิกายน ตลาดคริสมาสทั่วประเทศถูกสั่งปิด ห้ามประชาชนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะ ขณะที่ร้านอาหาร บาร์ ไนท์คลับ ดิสโก้เธค คาสิโน ให้บริการได้ถึง 4 ทุ่ม การแข่งขันกีฬาหรือการแสดงวัฒนธรรมจัดได้ แต่กำหนดมีผู้ชมไม่เกิน 1,000 คนและจำกัดเฉพาะผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้วหรือหายจากโรคโควิดแล้วเท่านั้น  การรวมกลุ่มในพื้นที่สาธารณะจำกัดเพียง 100 คน จากเดิม 1,000 คน
 
 
สโลวาเกีย 

รัฐบาลประกาศมาตรการฉุกเฉิน 90 วัน และล็อกดาวน์ 2 สัปดาห์ เหตุจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งแรงถึง 10,000 รายในช่วงเวลาเพียงสัปดาห์เดียว มาตรการนี้สั่งปิดร้านที่ไม่จำเป็น รวมทั้งร้านอาหารและบาร์ 
 
ประชากรสโลวาเกียเพียง 45.3% จาก 5.5 ล้านคนเท่านั้นที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว 
 
 
 
 
รัสเซีย 

ประเทศยักษ์ใหญ่ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำสุดแห่งหนึ่ง คู่กับอัตราการติดเชื้อสูงที่สุดพร้อมกัน แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงเหลือราว 31,000 รายต่อวัน แต่อัตราผู้เสียชีวิตยังคงสูง  รัสเซียมีเพียง 40% ของประชากร 146 ล้านคนเท่านั้นที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว ทั้งที่รัสเซียเป็นประเทศแรกๆ ที่มีวัคซีนของตนเองและประกาศใช้ก่อนที่อื่นในโลกก็ตาม
 
 
สวีเดน 

รัฐบาลสวีเดน ประกาศใช้บัตรผ่านสุขภาพอีกครั้งตั้งแต่ 1 ธันวาคมเป็นต้นมา สำหรับการเข้าใช้บริการในกิจกรรมที่มีคนร่วมมากกว่า 100 คน เป็นการบังคับใช้บัตรสุขภาพกับกิจกรรมสาธารณะเป็นครั้งแรก จากก่อนหน้านี้เพียงบังคับใช้กับการเดินทางเท่านั้น  บัตรผ่านสุขภาพของสวีเดนมีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว หรือมีผลตรวจโควิดเป็นลบ ภายใน 72 ชั่วโมง หรือหายจากการป่วยโควิดแล้วไม่เกิน 6 เดือน 
 
ทางการได้เริ่มกลับมาตรวจหาเชื้อในผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้วอีกครั้ง หลังจากได้ยกเลิกไปแล้วก่อนหน้านี้ 
 
 
 
ยูเครน

ตั้งแต่ 9 ธันวาคม เป็นต้นไป ข้าราชการและนักสังคมสงเคราะห์ ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน จะถูกไล่ออก ประธานาธิบดี Volodymyr Zelensky ประกาศเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน ให้รางวัล 33 ยูโรสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว หวังกระตุ้นให้ประชาชนเข้ารับการฉีดมากขึ้น 
 
ตัวเลขผู้ได้รับวัคซีนครบโดสในยูเครนอยู่ระหว่าง 20-28% 
 
 
 
สวิตเซอร์แลนด์ 

ทางการสวิสฯ ยกระดับมาตรการกักตัวผู้เดินทางจากต่างชาติ เริ่มตั้งแต่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นผลจากความวิตกเกี่ยวกับโอมิครอน กำหนดให้ผู้เดินทางต้องตรวจก่อนเดินทางและตรวจซ้ำเมื่อเดินทางถึง 
 
ชาวสวิสมีฉันทามติยอมรับ กฏหมายโควิด-19 ของรัฐบาล ที่มีสาระในการบังคับกฏต่างๆ รวมทั้งเงื่อนไขหนังสือรับรองโควิดที่เป็นที่ถกเถียงและมาตราการเยียวยาต่างๆ 
 
สวิสฯ กำหนดให้ต้องแสดงบัตรสุขภาพในการเข้าใช้หรือรวมกลุ่มในพื้นที่หรือกิจกรรมสาธารณะ 
 
 
 
บัลแกเรีย 

สถานการณ์การติดเชื้อเริ่มดีขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงหลักพีคไปแล้วเมื่อเดือนตุลาคม จำนวนผู้ฉีดวัคซีนยังอยู่ในอัตราที่ต่ำ เพียง 1 ใน 4 ของประชากรเท่านั้น (6.8-6.9 ล้านคน - worldometers)
 
 
 
โครเอเชีย

ทางการประกาศมาตรการเข้มงวดบังคับให้เจ้าหน้าที่รัฐ ลูกจ้างและครูโรงเรียนต้องฉีดวัคซีน  เริ่มมีการประท้วงมาตรการนี้ในซาเกร็บ  โครเอเซียมีประชากรราว 4.04 ล้านคน ในจำนวนนี้มีผู้ฉีดวัคซีนเข็มแรกราว 53% มีเพียง 57% ของประชากรวัยผู้ใหญ่ 3.3 ล้านคนที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว (1.88 ล้านคน - worldometers)
 
 

EURO News

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด