Plan B หรือแผนบี ของนายกฯ บอริส จอห์นสัน เป็นแผนสำรอง ที่ไม่ใช่การล็อกดาวน์ (
BBC) ตามที่แถลง ณ ถนนดาวนิ่ง เมื่อวันพุธที่ 8 ธันวาคม
แผนบี จะเป็นมาตรการเข้มงวดทางสังคม ที่รัฐบาลนำกลับมาใช้อีกครั้งหลังจากยกเลิกไปตั้งแต่เดือนกันยายน เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่เกรงว่าจะเป็นการระบาดระลอกใหม่ ที่มีโอมิครอนไวรัสเป็นต้นเหตุ ท่ามกลางความหวั่นวิตกและไร้ข้อมูลบ่งชี้แน่ชัดต่อความเสี่ยงจากไวรัสตัวใหม่นี้ ที่แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วจนน่ากลัว เหมือนที่นายกฯ เปรียบว่าจะเป็น "คลื่นยักษ์" โถมกระหน่ำชาวอังกฤษ
แผนบี คืออะไร
คือมาตรการต่างๆ ดังนี้
• บังคับสวมหน้ากากอนามัย ตั้งแต่ 10 ธันวาคม แต่เดิมบังคับใช้ในระบบขนส่งสาธารณะและร้านค้าอยู่แล้ว รอบนี้ได้เพิ่มสถานที่สาธารณะอื่นๆ อีก ได้แก่ โรงภาพยนต์ โรงละคร สถานที่ทางศาสนา แต่ไม่รวมผับและร้านอาหาร โดยอนุโลมให้ถอดหน้ากากได้ในกิจกรรมการกิน ดื่ม ออกกำลังกายและร้องเพลง
• แนะนำให้ทำงานจากที่บ้าน เท่าที่จะเป็นไปได้ เริ่มตั้งแต่ 13 ธันวาคม
• การใช้ NHS Covid pass แสดงเพื่อเข้าไนท์คลับหรือสถานที่จัดงานขนาดใหญ่ รวมทั้งพื้นที่จัดกิจกรรมในร่มแบบไม่มีที่นั่งที่มีผู้ร่วมงานเกินกว่า 500 คน หรือ กิจกรรมกลางแจ้งที่มีคนร่วมเกินกว่า 4,000 คน จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่พุธ 15 ธันวาคม เป็นต้นไป
แผนบีจะบังคับใช้ไปจนถึง 5 มกราคม 65 อันเป็นกำหนดรีวิวแผนการครั้งต่อไป ซึ่งก็ต้องขึ้นกับสถานการณ์ ซึ่งหากแย่ลง ก็จำเป็นต้องบังคับใช้ต่อไป
สำหรับการจัดงานคริสมาสต์และรื่นเริงปีใหม่นั้น นายกฯ จอห์นสัน กล่าวว่า "ทำได้ด้วยความระมัดระวัง" และขอให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น พร้อมย้ำว่า หากยึดแนวปฏิบัติตามแผนบีไว้เคร่งครัด ก็จะสามารถฉลองคริสมาสได้อย่างปกติได้ ย้ำว่านี้ไม่ใช่การล็อกดาวน์
ที่จริงแผนบีจะนำเข้าสูสภาเพื่อโหวต โดยปฏิกริยาของสมาชิกในพรรคทอรี่บางส่วนไม่หนุนแผนนี้ ขณะที่ฟากของฝ่ายค้านกลับหนุนเพราะเห็นว่าเป็นสิ่งสำคัญต่อส่วนรวม
แผนบี จะคุมโอมิครอนอยู่หรือไม่
เหล่านักวิทยาศาสตร์ที่เป็นที่ปรึกษารัฐบาลระบุว่าต้องใช้มาตรการเข้มข้นเพื่อหยุดการแพร่ระบาด ศ.นีล เฟอร์กูสัน แห่งอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอนเพิ่มรวดเร็วมากเป็นสองเท่าภายในเวลา 3 วันหรืออาจะเป็น 2 วัน เร็วและแรงมาก การ Work from home จะช่วยชะลอการระบาดได้มาก "การชะลอเพื่อซื้อเวลาให้ประชาชนได้ฉีดวัคซีนกระตุ้นให้มากที่สุด และเพื่อซื้อเวลาให้กับการเร่งหาข้อมูลที่แท้จริงของภัยเสี่ยงของไวรัสตัวนี้"
Source :
BBC ,
Independent