นานาประเทศต่างมีความกังวลกับการปรับเปลี่ยนนโยบายและเปิดประเทศกระทันหันของทางการจีน ท่ามกลางการระบาดในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงในหลายเมือง ขณะที่ทางการจีนกลับไม่เปิดเผยข้อมูลการระบาด สายพันธุ์ และข้อมูลพันธุกรรมเกี่ยวกับเชื้อไวรัสที่จำเป็นต่อสังคมโลก และที่สำคัญคือตัวเลขจำนวนการฉีดวัคซีนในประชากรจีน
ความไม่โปร่งใสของข้อมูลจากจีน ทำให้นานาชาติกังวลต่อโอกาสการสายพันธุ์ของโควิดและนำไปสู่การระบาดครั้งใหม่ ที่ยากต่อการควบคุม จนนำมาซึ่งมาตรการควบคุมเข้างวดด้วยการกำหนดให้ผู้เดินทางจากจีน รวมถึงฮ่องกงและมาเก๊า จะต้องแสดงผลตรวจโควิดก่อนเดินทาง
ญี่ปุ่น เป็นชาติแรกที่ออกมาตรการควบคุมการเดินทางเข้าประเทศจากจีน ตามมาด้วยอินเดีย อิตาลี สหรัฐอเมริกา และล่าสุดอีกหลายประเทศในยุโรป ได้แก่ สเปน ฝรั่งเศส รวมถึง เกาหลีใต้ มาเลเซียและไต้หวัน ก็ออกมาตรการตามมาเช่นกัน
โมร๊อคโคในแอฟริกา ประกาศห้ามการเดินทางจากจีนโดยสิ้นเชิง ไม่จำกัดว่าเป็นชาติใด
WHO ออกแถลงการณ์
องค์การอนามัยโลก ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่ทางการจีน เกี่ยวกับสถานการณ์โควิดในจีน เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2022 ที่ผ่านมา
ตัวแทนฝ่ายจีนประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูง ด้านการสาธารณสุขและการควบคุมโรคของจีน ได้รายงาน WHO เกี่ยวกับยุทธศาสตร์แผนการจัดการในพื้นที่ระบาด การเฝ้าระวังสายพันธุ์ การฉีดวัคซีน การดูแลผู้ป่วย การสื่อสาร และการค้นคว้าพัฒนา
WHO ระบุว่า ได้ร้องขอให้ทางการจีน แบ่งปันข้อมูลสถานการณ์การระบาดแบบรีลไทม์ และข้อมูลที่จำเพาะเจาะจง รวมถึงข้อมูลการฉีดวัคซีนในประชากร สถานะของวัคซีน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้เปราะบางและผู้สูงอายุ เกิน 60 ปี องค์การพร้อมจะให้การสนับสนุนในทุกด้าน รวมทั้งช่วยเหลือด้านวัคซีนที่อาจหยุดชะงักด้วย และย้ำว่า การเฝ้าระวังและเปิดเผยข้อมูล จะช่วยให้ทั้งจีนและทั่วโลก สามารถจะประเมินและเตรียมการกับสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ WHO แสดงความเห็นต่อการที่นานาชาติออกมาตการมากำกับการเดินทางจากจีน ว่า "เป็นอะไรที่เข้าใจได้" และในวันอังคารนี้ WHO จะมีการประชุมคณะทำงานด้านโควิด และครั้งนี้ได้เชิญนักวิทยาศาสตร์จากจีนมาร่วมนำเสนอข้อมูลด้านการตรวจพันธุกรรมด้วย ด้วยหวังว่าจะได้ข้อมูลที่คืบหน้าและชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ในจีน
