ข่าวสุขภาพ
ข่าวสุขภาพทั่วไป ข่าวธุรกิจสุขภาพไทย ข่าว/กิจกรรม/สาระ รพ.ต่างๆ ข้อมูลบริการ รพ.ต่างๆ สาระความรู้สุขภาพ กิจกรรม ESG CSR Health Economy บริจาครพ.ต่างๆ
น่าสนใจไทยแลนด์
About us เผยแพร่เนื้อหา สถิติเว็บไซต์ สำรวจความเห็นสุขภาพ โฆษณา
healthserv.net@gmail.com

[สรุปสธ.2/12/63] ตามประเด็นพบผู้ติดเชื้อโควิดที่เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และมาตรการ

[สรุปสธ.2/12/63] ตามประเด็นพบผู้ติดเชื้อโควิดที่เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และมาตรการ Thumb HealthServ.net
[สรุปสธ.2/12/63] ตามประเด็นพบผู้ติดเชื้อโควิดที่เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และมาตรการ ThumbMobile HealthServ.net

ประเด็นการพบผู้ติดเชื้อโควิดที่เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา มาตรการของ สธ. มาตรการของศบค. สถานการณ์โควิดในต่างประเทศ

โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

มาตรการของ สธ.
  • นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สธ. ให้สัมภาษณ์ว่า มาตรการบริเวณชายแดนเข้มข้นอยู่แล้ว แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากคนในชาติด้วย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะคนที่ติดเชื้อไม่มีความรับผิดชอบ ได้สั่ง สสจ. ผ่าน คกก.ควบคุมโรคจังหวัดร้องทุกข์ดําเนินคดีกับบุคคลเหล่านี้ให้ถึงที่สุดเพราะจากที่กําลังจะเปิดประเทศกลับต้องมาทบทวนมาตรการใหม่ มาตรการการลดวันกักตัวเหลือ 10 วัน อาจต้องเลื่อนการพิจารณาไปก่อน
  • นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. ยืนยันว่า การพบผู้ติดเชื้อโควิด 4 รายในเชียงใหม่และเชียงรายยังอยู่ในภาวะควบคุมได้ และให้ความร่วมมืออย่างดี ไม่ได้มีการแพร่ระบาดรุนแรง ประชาชนในพื้นที่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และคนยังไปท่องเที่ยวได้ แต่ขอให้คงมาตรการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่ง ล้างมือบ่อยๆ
  • นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า ผู้ป่วยรายแรกใน จ.เชียงใหม่ตรวจพบเชื้อเมื่อ 26 พ.ย. ทําให้เพื่อนที่ทํางานที่เดียวกันในประเทศเมียนมาทราบข่าวและเดินทางกลับ โดยผู้ป่วยรายที่ 2 หญิงไทย อายุ 26 ปี  เริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่ 25 พ.ย. ลักลอบเข้าไทยโดยช่องทางธรรมชาติพร้อมเพื่อนหญิงไทย อายุ 23 ปี  เมื่อ 27 พ.ย. และเช่าโรงแรมใน จ.เชียงรายอยู่คนละห้อง หลังรายที่ 2 ตรวจพบเชื้อ เจ้าหน้าที่ได้รับรายที่ 3 มาตรวจและพบเชื้อเช่นกัน ส่วนรายล่าสุด รายที่ 4 ทํางานอยู่ในสถานบันเทิงเดียวกันกับรายที่ 2 และ 3 แต่ไม่ได้กลับมาพร้อมกัน ทั้งหมดมีอาการป่วยน้อยและเข้าสู่การรักษาอย่างรวดเร็ว จึงค่อนข้างปลอดภัย รวมทั้งผู้ป่วย 3 รายหลังสวมหน้ากากอนามัยและหลีกเลี่ยงการพบกับผู้อื่น ต่างจากรายแรกใน จ.เชียงใหม่ ดังนั้นจึงมีโอกาสแพร่เชื้อไปหาผู้อื่นได้น้อย

    ทั้งนี้ คนไทยที่ทยอยเดินทางเข้าประเทศทุกคนต้องเข้ารับการกักตัว 14วันในสถานกักตัวที่รัฐจัดให้
  • ตั้งแต่ 3เม.ย.-1ธ.ค.63 มีผู้เดินทางเข้าประเทศ 163,735ราย ในจํานวนนี้ตรวจพบเชื้อโควิด 19จํานวน 1,044ราย คิดเป็น 0.64% แยกเป็น คนไทย 826ราย ต่างชาติ 218ราย กลับบ้านได้ 910ราย มีผู้เสียชีวิต 2ราย ปัจจุบันมีผู้เดินทางเข้าประเทศวันละ 700-800 คน อยู่ในระดับที่ปลอดภัย แต่อนาคตหากมีการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 มีแนวโน้มว่าจะมีการเดินทางระหว่างประเทศมากขึ้น จึงต้องเตรียมพร้อมรับการเดินทางที่มากขึ้น และขอให้ช่วยกันป้องกันสอดส่องการเข้ามาที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
 
 
 
มาตรการของศบค. และหน่วยงานอื่นๆ
  • ศบค.เผยแพร่สถานการณ์ประจําวันที่ 1 ธ.ค. มีผู้ป่วยรายใหม่ 10 ราย เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา 3 ราย ซูดาน 1 ราย รัสเซีย 4 ราย ปากีสถาน 2 ราย ทั้งหมดเข้าพักสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้รวมผู้ติดเชื้อ 4,008 ราย รักษาหายเพิ่ม 8 ราย รวมรักษาหาย 3,811 ราย ยังรักษาอยู่ในรพ. 137 ราย เสียชีวิตคงเดิม 60 ราย
  • พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิดในเชียงใหม่และเชียงราย ว่า รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้คนเข้าออกประเทศในช่องทางที่ไม่ถูกต้อง แม้จะยังมีการลักลอบเข้ามาแต่เมื่อมีการแพร่ระบาดเรายังควบคุม ติดตามนําตัวผู้ป่วยมาได้ และจากการตรวจสอบยังไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม สิ่งสําคัญคือ ทุกคนในสังคมและท้องถิ่นต้องช่วยกันดูแลพื้นที่ของตนเอง สําหรับกรณีที่เกิดขึ้นต้องมีการดําเนินคดีกับผู้ที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย
  • พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีมีคนโพสต์โจมตีการทํางานของเจ้าหน้าที่ว่ารับเงินสินบนเพื่อให้คนไทยหรือคนต่างด้าวเดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัว ยืนยันว่าตั้งแต่โรคโควิด 19 ระบาด ไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารคนใดรับสินบนอย่างแน่นอน
  • การบินไทย เปิดเผยว่า จะกลับมาเปิดให้บริการเส้นทางบินภายในประเทศเป็นครั้งแรก นําร่อง 2 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางกรุงเทพฯเชียงใหม่ 3 เที่ยวบิน/สัปดาห์ในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และเส้นทาง กรุงเทพฯ-ภูเก็ต 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เริ่มตั้งแต่ 25 ธ.ค. 2563 - 28 ก.พ. 2564
  • พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าวถึงกรณีหญิงไทยลักลอบเข้าประเทศทางช่องทางธรรมชาติที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ว่าแม้ผลตรวจเชื้อเป็นลบแต่ดําเนินการแจ้งข้อหาทั้ง 4 คนแล้ว 3 ข้อหาตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง พ.ร.บ.สถานการณ์ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคขณะที่ พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน ผกก. ตม.เชียงราย ระบุ ผวจ.เชียงราย ประสานกับ ผวจ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ขอเปิดสะพานสอง ให้คนไทยที่ทํางานฝั่งเมียนมาประมาณ 200 คน กลับเข้าไทยและกักตัว 14 วันตามระเบียบ คาดว่าอีก 2-3 วันนี้จะดําเนินการได้
  • นายพิเชษฐ์ ธรรมโหร ปลัดอําเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมด้วย สสอ.สัตหีบ บุกเข้าจับกุม น.ส.โซโซ เมียะ อายุ 26 ปี  สัญชาติเมียนมา ที่หลบหนีเข้ามาพักอยู่กับสามีชาวเมียนมา ในซอยชายโสด หมู่ 2 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ให้การว่าเดินทางมาทางเรือพร้อมชาวเมียนมาหลายคน ไม่ทราบว่าขึ้นฝั่งในประเทศไทยที่ใด จากนั้นเดินป่าหลบหนีเข้ามาพักกับสามีเจ้าหน้าที่นําตัวส่งรพ.สัตหีบ กม.10 เพื่อตรวจเชื้อโควิด 19 โดยมีชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์การทํางานของเจ้าหน้าที่ว่าไม่ได้สวมชุดป้องกันและให้นั่งหลังรถยนต์กระบะไปรพ. ด้านนายณรงค์ บุญบรรเจิดศรี นายกเทศมนตรีเมืองสัตหีบ สั่งการให้กองสาธารณสุขเทศบาลเมืองสัตหีบ นําเจ้าหน้าที่พร้อมน้ำยาฆ่าเชื้อเข้าฉีดฟ่นบริเวณที่ น.ส.โซโซ เมียะ เข้ามาหลบพักอาศัย รวมถึงบริเวณใกล้เคียง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่
ประเด็นผลกระทบ

ความคืบหน้าผู้ติดเชื้อที่จ.เชียงใหม่ 

  • นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ ผู้ตรวจราชการ สธ. เขตฯ 1 กล่าวถึงการติดตามผู้สัมผัสผู้ป่วยหญิงที่เชียงใหม่ ว่า ขณะนี้เพิ่มเป็น 336 ราย เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 112 ราย โดย 90 รายผลตรวจไม่พบเชื้อ ที่เหลืออยู่ระหว่างรอผลการตรวจ และติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 152 ราย ตรวจไม่พบเชื้อ 79ราย ที่เหลืออยู่ระหว่างรอผลตรวจและติดตาม และผู้สัมผัสอื่นๆ 72 ราย ผลตรวจไม่พบเชื้อ 47 ราย ภายใน 1-2 วันจะเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 และเฝ้าระวังให้ครบ 14 วัน และขอย้ําเรื่องการสวมหน้ากากและเว้นระยะห่ง จะช่วยลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อ และทําให้ควบคุมโรคได้อย่างเต็มที่ สําหรับด่านพรมแดนได้มีการเฝ้าระวังและสุ่มตรวจหาเชื้อเป็นระยะ ขอให้คนที่เดินทางกลับเข้ามาและมีความเสี่ยงเข้ามารับการตรวจทุกราย
  • นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า ขณะนี้มีการตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 4 ราย เป็นเพื่อนชาย 1 รายและเพื่อนที่เที่ยวด้วยกันในสถานบันเทิง 2 ราย ผลการตรวจครั้งที่ 1 เมื่อ 28 พ.ย. ไม่พบเชื้อ ต้องมีการตรวจซ้ําครั้งที่ 2 ในวันนี้ และกักตัวต่อให้ครบ 14 วัน หากผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 4 รายนี้ไม่มีการติดเชื้อ ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำรายอื่นๆ ก็จะมีความเสี่ยงที่ต่ำลงไป
  • สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ มีมติมอบเงินค่าทําขวัญ 100,000 บาท ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเชียงใหม่และมีการปฏิบัติในการป้องกันตัวเองตามมาตรการควบคุมโรค แต่เกิดความผิดพลาดติดโรคโควิด 19 ที่เชียงใหม่ และหากถึงขั้นเสียชีวิต ภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวเชียงใหม่จะมอบเงินให้ 1,000,000 บาท
     

ความคืบหน้าผู้ติดเชื้อ จ.เชียงราย

  • นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่วไป แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่อีก 1 ราย ในจ.เชียงราย เป็นหญิงไทย อายุ 25 ปี  ภูมิลําเนา จ.พะเยา ทํางานสถานบันเทิงในเมียนมาแห่งเดียวกับผู้ป่วยใน จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย ที่พบติดเชื้อก่อนหน้านี้ โดยเดินทางจากเมียนมามาตามช่องทางธรรมชาติมาที่ อ.แม่สาย เมื่อ 24 พ.ย. พร้อมเพื่อนอีก 2 คน วันที่24-27 พ.ย. เข้าพักโรงแรมใน อ.แม่สาย สั่งอาหารทาง Grab วันที่ 28-30 พ.ย. ย้ายมาพักโรงแรมใน อ.เมืองเชียงราย วันที่30 พ.ย.ประสานเจ้าหน้าเข้ารับการกักตัวและตรวจหาเชื้อ ผลเป็นบวก ส่งตัวมารักษาที่ห้องแยกโรครพศ.เชียงรายประชานุเคราะห์สําหรับผู้สัมผัส ได้แก่ เสี่ยงสูง 4 ราย เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด 2 ราย คือ เพื่อนหญิงไทย อายุ 23 ปี ที่เดินทางกลับมาพร้อมกัน ผลตรวจพบเชื้อ, พนักงานโรงแรมที่ขับจักรยานยนต์พาผู้ป่วยไปร้านสะดวกซื้อ 1 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ, ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีก 2 ราย คือ รถจักยานยนต์รับจ้างจากหมู่บ้านต้นทางถึงโรงแรมใน อ.แม่สาย อยู่ระหว่างรอตรวจ, รถจักรยานยนต์รับจ้าง จาก อ.แม่สายไป อ.เมือง และรพ.เอกชน ผลตรวจไม่พบเชื้อ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 23 ราย แบ่งเป็น บุคลากรทางการแพทย์ 20 ราย และแม่คาร้านอาหาร พนักงานร้านสะดวกซื้อ พนักงานโรงแรม
  • นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผวจ.เชียงราย นพ.ทศเทพ บุญทอง นพ.สสจ.เขียงราย และ นพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผอ.รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์แถลงข่าวการตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด 19 รายที่ 3 ของ จ.เชียงราย ว่า เป็นหญิงชาว จ.พะเยา อายุ 25 ปี  มีประวัติลักลอบจาก อ.แม่สาย จ.เชียงรายไปทํางานที่โรงแรมวันจีวัน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 2 ต.ค. และลักลอบกลับประเทศวันที่ 26 พ.ย. พร้อมเพื่อนอีก 3 คน โดยพักโรงแรมใน อ.แม่สายกับเพื่อนอีก 2 คน ส่วนอีกคนแยกไปพักกับแฟนในห้องใกล้กัน วันที่ 28 พ.ย. เดินทางด้วยรถแท็กซี่พร้อมเพื่อน 2 คน ไปพักโรงแรมแห่งหนึ่ง อ.เมืองเชียงราย ก่อนไปตลาดใกล้โรงแรม จากนั้นอยู่ในห้องตลอด เมื่อทราบว่า คกก.โรคติดต่อ จ.เชียงราย ประกาศให้ผู้ที่กลับจากประเทศเพื่อนบ้านไปขอตรวจกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ และตัวเองมีประวัติพูดคุยพบเจอกับผู้ป่วยหญิงอายุ 29 ปี  ของ จ.เชียงใหม่ ช่วงที่อยู่ในฝั่งท่าขี้เหล็ก จึงไปตรวจที่รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์และพบว่าติดเชื้อ สําหรับเพื่อนที่มาด้วยกันอีก 2 คน ผลตรวจเป็นลบ ถูกส่งไปกักดูอาการ 14 วัน เจ้าหน้าที่ตรวจพบคนสัมผัสเสี่ยงสูง 6 คน เช่น คนขับรถแท็กซี่ คนพาข้ามชายแดน เพื่อนและแฟนเพื่อน ผลตรวจจะออกคืนวันที่ 1 ธ.ค. กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ 4 คน เช่น พนักงานโรงแรม ฯลฯ จะเก็บตัวอย่างในวันพรุงนี้แต่ทั้งหมดให้มีการกักตัวและอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่แล้ว อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการว่ายังมีคนตกคางใน จ.ท่าขี้เหล็ก อีกกว่า 50-100 ราย จึงต้องพยายามประสานงานเพื่อไม่ให้ลักลอบข้ามมาเหมือนรายก่อนหน้าอีก เบื้องต้นมีผู้แจ้งความประสงค์ผ่านเจ้าหน้าที่เมียนมาขอกลับประเทศไทยแล้ว 10 ราย นพ.ไชยเวช ธนไพศาล ผอ.รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์กล่าวว่า ผู้ป่วยรายที่ 1-2 เดิมมีอาการทางเดินหายใจส่วนต้น แต่เมื่อให้ยาต้านไวรัสแล้วอาการดีขึ้นและไม่มีไข้ส่วนรายที่ 3 ไม่มีไข้และไม่มีอาการตั้งแต่เข้ารับการตรวจจนถึงปัจจุบัน
  • นายวิโรจน์ ชายา นายกสมาคมโรงแรม จ.เชียงราย ระบุ ก่อนมีข่าวติดเชื้อโควิด 19 ที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ มีนักท่องเที่ยวจองห้องพักประมาณ 80-90% แต่หลังจากพบผู้ติดเชื้อ การจองห้องพักลดลงและมีการยกเลิกการจองเดิม แต่อยู่ระหว่างการประเมินยอดยกเลิกการจองเพราะยังเป็นช่วงต้นของเหตุการณ์ ขณะที่โรงแรมที่พักต่างๆ ได้ลดราคาห้องพักลง
  • บรรยากาศชายแดน เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกําลังผาเมือง ยังคงจัดชุดออกลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทย- เมียนมา โดยเฉพาะริมแม่น้ำสายอย่างเข้มงวด ขณะที่สถานศึกษาและโรงเรียนใน อ.แม่สาย อย่างน้อย 10 แห่ง ได้ประกาศปิดการเรียนการสอนชั่วคราวระหว่างวันที่ 1-6 ธ.ค.นี้
  • นายประสงค์ หล้าอ่อน นอภ.แม่สาย เปิดเผยแนวทางปฏิบัติกรณีผู้ลักลอบเข้าประเทศ ว่า หากตรวจพบต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองต่อหน้า ให้พื้นที่ผลักดันกลับทันที หากเข้ามาในพื้นที่ ให้นําส่งตม.สําหรับคนไทย ส่วนผู้ถือบัตรหัว 0 ให้แจ้งผู้นําฝ่ายปกครองนําส่งตํารวจ หากจับกุมได้ตอนกลางคืนให้กักกันตัว ณ จุดที่ตั้งหน่วยทหาร การสอบสวน คัดกรอง แจ้งสาธารณสุขร่วมทุกครั้ง และส่งเข้าสถานที่กักกันตัวที่กองร้อย ตชด.ที่ 327 อ.แม่จัน ซึ่งรับได้ประมาณ 40 คน หากพบผู้ที่ถือบัตรหัว 0 หรือบัตรหัว 6 แอบข้ามไปมา จะถูกเพิกถอนบัตรทันทีและผลักดันออก โดยผู้ถือบัตรหัว 0 หัว 6 ที่อยู่ฝั่งท่าขี้เหล็ก จะกลับเข้าไทย สามารถไปลงทะเบียนกับทีบีซีที่สะพานด่านพรมแดน 2 ฝั่งเมียนมา
  • เฟซบุ๊ครพ.แม่สาย แจ้งผลตรวจเชื้อโควิดของหญิงไทย 3 ราย สาวประเภทสอง 1 ราย ที่ลักลอบเข้าทางลําน้ำเมย อ.แม่สอด จ.ตาก มาท่องเที่ยวใน อ.เมือง อ.แม่จัน อ.แม่สาย ว่า ผลตรวจเป็นลบ ขณะนี้กักตัวที่รร.เวียงอินทร์รีเวอร์ จนกว่าจะครบ 14 วัน และตรวจซ้ําตามกําหนด
  • เฟซบุ๊ก สสอ.เวียงป่าเป้า โพสต์ข้อความกรณีมีการแชร์ข้อมูลว่า ศูนย์ข้อมูลโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 อ.เวียงป่าเป้า ให้ผู้เดินทางไปเทศกาลดนตรีที่สิงห์ปาร์ค เชียงราย มารายงานตัวต่อศูนย์ฯ ว่า ไม่เป็นความจริง และขอให้ปฏิบัติตัวตามมาตรการป้องกันโรค COVID-19 อย่างเคร่งครัดหากมีไข้ ไอ น้ำมูก สามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน
 

พบผู้ติดเชื้อโควิด 19 จ.พะเยา

  • เจ้าหน้าที่ตํารวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งจุดตรวจ ถนนสายพะเยา-วังเหนือ ต.แม่นาเรือ อ.เมือง จ.พะเยา พบหญิงสาว ซึ่งเดินทางมาจาก จ.เชียงใหม่ นําตัวส่งรพ.พะเยา ผลการตรวจเป็นบวก จากการสอบสวนทราบว่า มีภูมิลําเนาอยู่ต.ทุ่งรวงทอง อ.จุน จ.พะเยา ไปทํางานที่โรงแรมใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา และพักอยู่กับผู้ติดเชื้อ จ.เชียงราย ลักลอบเข้าเมืองมาพร้อมกัน แต่แยกตัวออกมาหาแฟนที่พะเยา จึงนําตัวสามีมาตรวจหาเชื้อที่รพ.พะเยา ทั้งนี้ ต้องรอการแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้งจาก กรมควบคุมโรค
  • นพ.ศุภชัย บุญอําพันธ์ นพ.สสจ.พะเยา เผยว่า สสจ.มีมาตรการควบคุมป้องกันโรคโควิด 19 โดยตั้งด่านตรวจร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งวันนี้ได้นําตัวหญิงสาวและสามีมาตรวจและกักตัวที่รพ.พะเยา


     

สถานการณ์ในต่างประเทศ

  • สหรัฐฯ ผู้ป่วยรายวันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เกินกําลังของรพ.และบุคลากรการแพทย์ ขณะที่ผู้ว่าการรัฐวอชิงตัน เปิดตัวแอปฯ WA notify แจ้งเตือนแบบไม่ระบุตัวตนและใช้งานง่าย ช่วยหยุดยั้งการแพร่ระบาดโรค ด้าน บ.โมเดอร์นา กําลังเร่งขออนุมัติต่อ FDA ให้ใช้วัคซีนที่บริษัทวิจัยพัฒนาในกรณีฉุกเฉิน หากได้รับอนุมัติจะนํามาใช้กับประชาชนได้ตั้งแต่ 21 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป
  • อังกฤษ คณะนักวิจัย ม.ออกซฟอร์ด เปิดเผยผลการศึกษาผลกระทบของการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 พบร่องรอยความเสียหายของปอดจากกลุ่มผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสดังกล่าว
  • บราซิล พบผู้เสียชีวิต 173,120 ราย จํานวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นหลังจากเริ่มผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ส่วนเมืองเซาเปาลู ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนอีกครั้ง จํากัดผู้ใช้บริการไม่เกินร้อยละ 40 และควบคุมเวลาไม่เกิน 10 ชม./วัน
  • อินเดีย พบผู้ป่วยเพิ่ม 31,318 ราย ใน 24 ชั่วโมง สํานักการบินพลเรือนมีมติระงับเที่ยวบินระหว่างประเทศจนถึงสิ้นปี นี้
  • ศรีลังกา ตํารวจในเรือนจํามหาราใช้ปืนควบคุมเหตุจลาจลหลังนักโทษออกมาประท้วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในเรือนจํา โดยมีผู้ติดเชื้อในเรือนจําแห่งนี้ถึง 1,000 ราย และมีนักโทษเสียชีวิต 2 ราย ขณะที่ทั้งประเทศมีผู้ติดเชื้อ 23,484 ราย เสียชีวิต 116 ราย
  • ฮ่องกง ทางการประกาศยกระดับมาตรการเว้นระยะห่งทางสังคมเพื่อรับมือการระบาดรอบ 4 และมีคําสั่งให้ปิดการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. อนุญาตให้บุคคลไม่เกิน 2 คนสามารถพบปะในที่สาธารณะ ลูกคาใช้บริการร้านอาหาร 1 โต๊ะ ห้ามนั่งเกิน 2 คน และจะเปิดสายด่วนรับเรื่องร้องเรียนจากพลเมืองดีที่พบเห็นการละเมิดมาตรการด้วย
  • อินโดนีเซีย พบผู้ป่วยรายใหม่ 6,267 ราย เป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงที่สุด และมีผู้ป่วยมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นอันดับที่ 22 ของโลก ด้านผู้ว่าการกรุงจาการ์ตาประกาศว่าตนมีผลตรวจโรคโควิด 19 เป็นบวก
  • กัมพูชา พบคนในท้องถิ่นป่วยเพิ่ม 3 ราย ผู้ป่วยรวม 17 ราย ทางการสั่งปิดโรงเรียน พิพิธภัณฑ์ โรงภาพยนตร์ ทั่วประเทศเป็นเวลา 2 สัปดาห์รวมทั้งห้ามการรวมกลุ่มและจัดงานแต่งในกรุงพนมเปญ และจ.เสียมราฐ เป็นเวลา 15 วัน
  • รัสเซีย เริ่มทดลองวัคซีนตัวที่ 2 ชื่อ “เอพิวัค-โคโรนา” กับบุคคลที่มีอายุ 18 ปี  ขึ้นไป
  • สถานการณ์ทั่วโลก ผู้ติดเชื้อรวม 63,584,784 ราย เป็นรายใหม่ 496,245 ราย อาการรุนแรง 105,929 ราย รักษาหายแล้ว 43,980,097 ราย เสียชีวิต 1,473,741 ราย สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 13,919,870 ราย รองลงมา อินเดีย 9,463,254 ราย บราซิล 6,336,278 ราย รัสเซีย 2,295,654 ราย ฝรั่งเศส 2,222,488 ราย ส่วนพม่า มีผู้ป่วยรายใหม่ 1,227 ราย สะสม 90,713 ราย และมาเลเซีย มีผู้ป่วยใหม่ 1,212 ราย สะสมรวม 65,697 ราย

ข่าว/บทความล่าสุด
เนื้อหาอ่านล่าสุด